และแล้วก็ถึงเวลาที่อีกชีวิตหนึ่งต้องมาดับสูญไปท่ามกลางความงุนงง และ ความโศกเศร้าเสียใจของคนที่อยู่รอบข้าง ชีวิตที่ มีความตั้งใจที่จะยุติชีวิตเร่ร่อนไร้บ้านและเตรียมตัวจะกลับบ้าน กลับถิ่นฐานของเธอ แต่ก็ ไม่สามารถทำฝันนั้นให้เป็นจริงได้ ชีวิตที่ตรากตรำมานานกว่า 6 ปี กับชีวิตระหกระเหินเร่ร่อน ก็ มีอันต้องถึงกาลมาถึงสถานีสุดท้ายเมื่อ 7 วันที่แล้ว
ย้อนไปเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคม ที่ผ่านมา เนียน ติดตามอิสรชน เข้าสู่ที่พักเพื่อเตรียมตัวจะเข้ารีบการช่วยเหลือในด้านการส่งตัวกลับ แต่ระหว่างที่ พักอยู่ได้ 3 วัน เนียน มีอาการเกิดภาพหลอนและหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา ไม่หลับไม่นอน 2 วันเต็ม ๆ จน บ่ายของวันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ เนียน ก็ หลบหายจาก ที่พักของอิสรชน มาทราบอีกที ตอน หัวค่ำ ว่า เนียน เสียชีวิต แล้ว ที่ใกล้ ๆ สนามหลวง ??
อิสรชน ได้ประสานงานกับโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อติดตามญาติที่อยู่ต่างจังหวัด และก็โชคดี ที่ ญาติทราบข่าว และเร่งรีบเข้ามาที่ กทม. เพื่อดำเนินการจัดการศพตามประเพณีอย่างเร่งด่วน สวดและเผาภายในครึ่งวัน จัดการ เก็บเถ้ากระดูกกลับไปยัง บ้านเกิดในช่วงเย็นของวันที 10 กุมภาพันธ์ โดยที่ ญาติ ๆ มากัน 4-5 คน พร้อมกับ พา ลูกสาววัย 2 ขวบเศษ กลับไปอยู่ที่ต่างจังหวัดด้วย
อิสรชนเอง ก็ ได้แต่ อึ้ง ปนยินดี ที่ ท้ายที่สุด เนียน ก็ ได้กลับสู่อ้อมอกญาติพี่น้อง และ ลูกสาวก็ได้กลับไปอยู่ในความดูแลของญาติของเนียน แม้ว่า การกลับสู่ครอบครัวครั้งนี้ จะเป็นในรูปแบบของ การเสียชีวิต ก็ตามที แต่ เนียน ก็ยังได้ชื่อว่า ตายในสภาพของคนที่มีญาติ ตามหาญาติมา ดำเนินการพิธีศพได้ ตามประเพณี
ภาพสะท้อนครั้งนี้ อิสรชน ยังคงจะต้อง ทำงานกับครอบครัวเร่ร่อนไร้บ้านต่อไป และยังคงต้องบอกสังคมไห้หันมาเกื้อกูลคน ให้ มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันต่อไป ยังหยุดไม่ได้ ตราบใดที่ สังคมเรา ยังแบ่งคนด้วยกายภาพ มากกว่าจิตใจ
ไม่มีความเห็น