ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาหมอเอี้ยงผู้ดูแลด้วยสีหน้าไม่ใคร่สบายใจ หมอเอี้ยง เพิ่งย้ายมาเป็นหมออนามัยประจำตำบลนี้ไม่ถึงเดือน เงาที่เห็นไหววูบวาบด้วยหางตา ทำให้หมอเอี้ยงเงยหน้าขึ้นจากการเขียนบันทึกประวัติคนไข้
เมื่อเห็นผู้เป็นต้นเหตุให้เกิดเงา จึงทักทายว่า "น้าบ่าว มาหาหมออีกทำไม" ที่แท้ชายคนดังกล่าว คือ นายบ่าว คนไข้ขาประจำของอนามัย ที่มาทีไรไม่เคยคุมเบาหวานได้สักที บ้านแกอยู่ที่ เลขที่ 5 หมู่ 3 ของตำบลนี้เอง
ครั้งสุดท้ายที่นายบ่าวมาอนามัยก็ได้หมอเอี้ยงนี่แหละให้คำแนะนำไปว่า "น้า กลับบ้านแล้ว เวลาจะกินอะไร กินให้ครบ 5 หมู่ทุกวันนะน้า แล้วอาทิตย์หน้ามาหาหมอนะ "
นายบ่าวกล่าวด้วยท่าทางกล้าๆกลัวๆว่า "ผมจะมาบอกหมอว่า ที่หมอสั่งไปนั้น ผมหนักใจมาก จึงกลับมาปรึกษา ผ่านมา 3 วันนี้ ผมพยายามทำตามคำที่หมอบอกแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้ จึงกลับมาถามหมอเพื่อขอคำแนะนำหน่อยว่า ทำยังไงผมจะกินอาหารได้ครบ 5 หมู่ในแต่ละวันครับ นี่ทำมา 3 วันแล้ว ไม่มีวันไหนที่ผมกินได้ครบ 5 หมู่เลยครับ "
หมอเอี๊ยงคิดในใจว่า "อะไรกัน กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ก็ทำไม่ได้ มิน่าแกถึงคุมเบาหวานไม่ได้ดี อีแค่อาหาร 5 หมู่ก็ไม่รู้จัก" กำลังจะเอ่ยตอบก็ต้องเงียบฟัง เพราะนายบ่าวเล่าต่อว่า
"วันที่กลับจากอนามัย ตอนเย็นพอดีมีงานเลี้ยงที่ หมู่ 5 ผมอยากทำให้ได้อย่างที่หมอแนะนำ ผมจึงไปกินข้าวเย็นที่งานนั้น หมู่ 3 มีงานศพ ผมก็ไปกินที่งานศพอีก ก็ผมอยากคุมโรคให้ได้อย่างที่หมอสั่ง วันถัดมาผมกินข้าวได้แต่ที่บ้าน จะไปงานเลี้ยงที่ หมู่ 10 งานก็ยกเลิกเลื่อนไป ผมกลุ้มใจมาก ไม่รู้จะทำยังไง"
หมอเอี๊ยงได้ยินคำเล่า ในสมองก็เหมือนมีอะไรพุ่งจี๊ดขึ้นไปโดยเร็ว คิดในใจว่า "อะไรกันเป็นเบาหวานคุมโรคไม่ดีแล้ว ยังจะไปกินอะไรเยอะแยะขนาดนี้" ขณะที่ปากกำลังจะไวไล่ทันความคิด จะเอ่ยตำหนิ หมอเอี๊ยงก็ต้องติดเบรคตัวเองไว้ เมื่อได้ยินคำพูดสุดท้ายของนายบ่าวว่า " หมอเก่งนะครับ ตัวนิดเดียวกินอาหารครบ 5 หมู่ได้ใน 1 วัน ผมไปกินแค่หมู่ 5 กับหมู่ 3 แค่ 2 หมู่ เองผมก็อึดอัดจะแย่แล้ว กินยังไงก็กินต่อไม่ได้ ผมเลยแวะมาขอให้หมอบอกคล็ดลับให้หน่อยว่า ทำยังไงให้กินได้ครบ 5 หมู่แล้วสบายๆ"
21 มกราคม 2551
เรื่องขำ ๆ ประจำสาธารณสุขค่ะอาจารย์
น่ารักดีค่ะ สื่อถึง การสื่อสาร เข้า แต่ไม่เข้าใจตรงกัน
น่ารัก ขำมากค่ะ
ถ้ามองในมุมความปลอดภัยของผู้ป่วย เรื่องนี้ก็สอนใจด้วยนะค่ะ คุณเพชรน้อย
คุณแม่น้ำค่ะ เรื่องของชาวบ้านมีอะไรน่ารักเสมอค่ะ