Keylogger คืออะไร
สืบเนื่องจากการใช้คอมพิวเตอร์บ่อย แต่มาระยะหลัง
เครื่องเริ่มทำงานอืดลง
สิ่งแรกที่สันนิฐานไปคือ เครื่องเราน่าจะติดไวรัส
หรือไม่ก็สปายแวร์เป็นแน่แท้
ก็ทดลองหาวิธีแก้ไขหลายวิธี
ลงโปรแกรมสแกนไวรัสก็แล้ว สปายแวร์ก็แล้ว
ก็แก้ไขไปได้บางจุด แต่สุดท้ายลงๆ ถอดๆ
โปรแกรมสแกนไวรัสไปหลายรุ่น
หลายเวอร์ชั่น จนวันหนึ่ง
เลือก Kaspersky
Version 6
มาลง
เนื่องด้วยลองลงหลายตัวมาแล้ว
แต่เห็นว่าใช้งานแล้ว มันไม่เวิร์กเท่าที่ควร
ซึ่งก็มีปัจจัยหลายสาเหตุ ปัจจัยหนึ่งสเปกคอมฯ
ของตัวเอง ซึ่งหากใช้
Version ใหม่ๆ แล้ว
เครื่องมันจะทำงานช้าลง
สิ่งที่ได้เรียนรู้ตามมา จากการเอาเจ้า
Kaspersky Version 6
มาลงครั้งนี้
ปรากฏว่า ตอนแสกนมันฟ้องว่า
มีการดักไฟล์
Keylogger
ไว้
จึงเป็นสาเหตุให้เราสนใจและอยากรู้ว่า เจ้า
Keylogger นี้มันคืออะไร
มีอันตรายอย่างไรบ้าง
แล้วเราควรจะแก้ไขกับมันอย่างไร
โชคดีที่มีอาจารย์กู (google)
ที่เป็นผู้ที่ใจดีเสมอ ไม่เคยบ่น
ไม่เคยว่า เพียงแต่ใครอยากรู้อะไรก็ให้ถาม
ถามให้เป็น ก็จะได้คำตอบมา ...
และแล้ววันนี้ฉันจึงมีโอกาสได้นำความรู้ดีๆ
มาแบ่งปันกันค่ะ
@ keglogger เป็นโปรแกรมดักรหัสผ่าน (Password) @
การทำงานของโปรแรกมพวกนี้คือ การจดจำคีย์ (Key) ที่เรากดลงไปจาก Keyboard นั่นเอง เช่น เวลาที่เราเล่น msn หรือเกมส์ต่างๆ เมื่อมีการกดลงบน Keyboard โปรแกรมพวกนี้จะจดจำคีย์ พวกนั้นไว้
แล้วโปรแกรมมันก็จะเก็บ
Id และ password ทั้งหมดไว้
แล้วจะส่งไปยังผู้ที่ฝังโปรแกรมไว้ อาจจะส่งทางเมลล์ หรือ ftp
ก็ได้ และนี่จึงเป็นสาเหตุหลักๆ ของการโดน Hack
ฉะนั้น เราจึงควรจะอัปเดดโปรแกรมพวก Scan virus ต่างๆให้ทันสมัยอยู่เสมอ เพราะโปรแกมพวกนี้เป็นพวก spayware จะโดนโปรแกรมแสกนไวรัสทำลายได้อย่างง่ายดาย
แต่ถ้าเป็นตัวใหม่
ๆ
โปรแกรมสแกนไวรัสก็จะยังไม่รู้จัก
แต่ keylogger
เก่าๆ โปรแกรมไวรัสที่ออกใหม่ล่าสุด
ก็อาจจะไม่รู้จักก็มีเหมือนกัน
หลังจากที่ทราบเรื่องราวของ
keylogger
แล้ว เห็นว่า
มันน่าสนใจทีเดียว
และก็น่ากลัวมาก
หากมีใครล่วงรู้รหัสผ่านของเรา และรู้ว่า
กดคีบอร์ดอะไร ไปเว็บไหนบ้าง
ซึ่งในยุคที่เราพึ่งคอมพิวเตอร์นี้
ไม่ว่าข้อมูลอะไร ก็อยู่ในเครือข่ายหมด
ยิ่งปัจจุบันที่บางครั้งใช้บริการธุรกรรมการเงินออนไลน์นี่
ก็คงจะรู้สึกเสียวๆ
อยู่ในใจเหมือนกันนะคะ
พออ่านจบก็รู้ว่า
เจ้าตัวนี้มันน่ากลัวทีเดียว แต่ก็หาไม่เจอว่าจะกำจัด
มันอย่างไร เพราะตัวโปรแกรมสแกนไวรัส
มันเพียงแต่กักไว้ให้เท่านั้น
แต่เท่าที่อ่านโปรแกรมตัวนี้ เราสามารถลบเองได้
เราจึงได้ไปค้นหาว่า
มันถูกสร้างมาจากโปรแกรมอะไร ซ่อนอยู่ที่ไหน
หลังจากนั้น จึงไปจัดการลบ
มันออกจากสารระบบในตัวเครื่องด้วยตัวเอง
ผลปรากฏว่าตอนนี้ก็สามารถใช ้คอมพิวเตอร์ได้ดีขึ้น
แต่อย่างไรเสีย หากต้องใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต
อยู่อย่างนี้ แม้ว่าเราจะใช้อย่างระมัดระวังแล้ว
แต่สิงที่ไม่คาดคิดก็เกิดได้เสมอ
สิ่งที่ได้ข้อคิดเตือนใจก็คือ
ปัญหาทุกอย่างสามารถแก้ไขได้
เพียงแต่เราจะต้องมีสติในเบื้องต้น
แล้วหาวิธีแก้ไขตามขั้นตอน ... สติ สมาธิ ปัญญา
สำคัญมาก
ยังไงเสียก็คงจะไม่ต้องหวาดระแวงจนเกินไป
อะไรที่จำเป็นต้องใช้ก็ใช้เท่าที่จำเป็น
อะไรต้องเรียนรู้ก็เรียนให้รู้
"เรียนให้รู้ ดูให้เห็น ทำให้เป็น
และแก้ปัญหาให้ได้นะคะ"
ขอบคุณข้อมูลดีๆ
ประกอบความรู้ครั้งนี้จาก http://cybernet.saiyaithai.org/
และจาก google
ตอบหน่อยครับ ผมเห็นพระมีอะไรกับผู้หญิงทางก้นครับโทษเป็นอย่างไรครับแบบนี้
@ keglogger โดนมาละไปเล่นร้านเกมส์กลับมา ของหายทั้งตัว อยากจะฆ่าคนเอาไปเลยถ้ารู้