ป่วยทางใจ..และ ป่วยทางกาย...


สวัสดีครับ...

หลายครั้งที่ทำงาน  ในฐานะแพทย์...

ได้มีโอกาสัมผัสกับผู้ป่วยที่หลากหลาย  ที่มาพร้อมกับความไม่สบาย..ทั้งกายและใจ...

แต่สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ  และท้าทายมากที่สุดคือเรื่องของการเจ็บป่วยทางจิตใจ....

เท่าที่เรียนรู้จากการทำงาน....  มีจุดที่น่าสนใจมากหลายอย่าง

 1.เกือบครึ่งของผู้ป่วยที่มาตรวจกับเราในแต่ละวัน  ล้วนเจ็บป่วยด้วยโรคทางใจ  หรือโรคที่สัมพันธ์กับการเจ็บป่วยทางใจ

 2.ผู้ป่วยส่วนมากจะไม่ได้มาบอกเราตรงๆ ให้เรารู้..ว่าหมอ..ผม/ฉัน  ไม่สบายใจ หรือทุกข์ใจ  แต่จะมาด้วยอาการที่แดงออกทางกาย...เท่าที่พบคือ ปวดหัว  นอนไม่หลับ แผลกระเพาะ 

 3.บางคนก็กังวลกับความเจ็บป่วยเรื้อรังของตน...อาจจะองการคำอธิบายซ้ำๆให้เข้าใจชัดเจน  อาจจะต้องการกำลังใจจากแพทย์หรือทีม...

 4.เราต้องให้เวลากับผู้ป่วยกลุ่มนี้พอสมควร...บ่อยครั้งที่ผมต้องช้าลงเมื่อตรวจคนไข้กลุ่มนี้  เพราะต้องใช้เวลา...พูดคุย ค่อยๆแกะปมและเรื่องราวของเขา...และแนะนำ..เยียวยาจิตใจ...

 5.ผู้คนเหล่านี้ล้วนอ่อนไหว เปราะบางต่อเรื่องราวต่างๆของชีวิต  และบางคนก็มีปัญหาที่ซับซ้อน  บางคนหลายๆเรื่องในคราเดียวกัน  ฟังแล้วก็อึ้ง..พูดไม่ออกบางครั้ง..ต้องตั้งสติ...

 6.การเจ็บป่วยทางจิตใจ  จิตวิญญาณล้วนต้องผ่านเรื่องราวมายาวนาน  ตั้งแต่เกิดมา เด็กและผู้ใหญ่ สะสมๆ..  มีปัจจัยที่สำคัญซับซ้อนหลายๆอย่าง ที่สำคัญคือครอบครัว..รองลงมาคือสังคม....

 

       การเจ็บป่วยทางจิตใจ  หรือจิตวิญญานนั้นละเอียดอ่อน  หลากหลาย  และอาจจะลึกซึ้งมากกว่าทางกาย  หรืออาจจะเป็นต้นตอที่สำคัญของการเจ็บป่วยทางกาย...ส่วนใหญ่..

  

       การเยียวยา..ความเจ็บป่วยด้านจิตใจ....  เป็นเรื่องที่ยากมากพอสมควรที่จะเรียนรู้และเข้าถึง..หรือสร้างทักษะที่ดีได้...เพราะนั่นหมายถึงผู้ที่เยี่ยวยา  ต้องเข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่น เข้าใจธรรมชาติ...ที่หลากหลาย...มากพอสมควร...

    แต่น่าจะสรุปลงได้ที่..การที่ผู้เยียวยา..ต้องมีใจ...จิตใจที่อยากจะช่วยเหลือและทำให้เขาหายและดีขึ้น..การเรียนรู้  กระบวนการต่างๆ  ทักษะอื่นๆ  ก็จะตามมาเรื่อยๆ  จากจิตใจที่หวังดี  และปราถนาที่จะช่วยเหลือ...

 

    ถ้าหากว่าเราทำได้...สิ่งดีๆก็จะตามมา...คือความสุขใจ...

          - หลายคู่ที่เข้าใจกัน ดีต่อกันมากขึ้น

         - หลายคนที่เข้าใจตนเอง  ยืนขึ้นอีกครั้งได้...

         - หลายคนที่หยุดทำร้ายตนเอง.. หยุดสิ่งเสพติด

         - หลายคนนื้เข้มแข็งขึ้นมา...

 

  เพียงเพราะว่าความมีใจ  ความหวังดี  และความใส่ใจ...เรื่องของใจ..ที่ก็ป่วยได้ด้วยเหมือนกัน 

คำสำคัญ (Tags): #ป่วยใจ
หมายเลขบันทึก: 160611เขียนเมื่อ 22 มกราคม 2008 00:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 พฤษภาคม 2012 16:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)
  • ท่านอาจารย์หมอประเวศ
  • บอกว่าอยากให้คุณหมอ
  • ซักประวัติคนไข้ให้ดี
  • เพราะบางคนป่วยใจมากกว่าป่วยกาย
  • แต่อย่างว่า
  • คนไข้มากเหลือเกิน
  • ถ้าซักนาน
  • คุณหมอก็แย่ใช่ไหม
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีครับพี่...^_^

ดีใจนะที่มาเยี่ยม..อยู่ไหนนะครับเนี่ย...

พรุ่งนี้ผมเข้ากรุงเทพนะครับ...

สบายดีนะครับผม..

ดูแลสุขภาพเด้อ...

  • อยู่นครราชสีมา
  • จะไปอุดร
  • แล้วลงสงขลา
  • ดูแลสุขภาพเช่นกันครับ

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับคุณหมอ

มีคนไข้จำนวนมากมายที่ป่วยจิตแต่ไปพบหมอที่คลีนิคฝ่ายกาย  และ คนไข้จำนวนมากทีป่วยจิตแล้วทำให้อาการป่วยกายทรุดไปกว่าที่เป็น 

เพียงแค่รอยยิ้มและการใส่ใจจากหมอและพยาบาล  ก็เป็นยาอันประเสริฐ สำหรับคนไข้ 

คนไข้บางคนเค้าไม่รู้ว่าตนเองป่วยทางจิต    อันส่งผลมาหากาย    อย่าไปว่าคนไข้เลยหมอ    แม้แต่ตัวเจ้าหน้าที่เองก็ป่วยเหมือนกัน   แต่ไม่รู้ตัว

สวัสดีค่ะคุณหมอ

- ปัญหาเรื่องสุขภาพจิต เริ่มมีมากขึ้น

- การตรวจรักษาใน รพ.ส่วนมาก รวดเร็ว (ไม่รู้ QAเวลาหรือเปล่า) แทบไม่ได้ถามอะไรมาก เห็นแค่ CC ก็สั่งยาแล้ว

-บางครั้งเขาต้องการ การสัมผัสทางกาย แค่นี้ก็หายก็มี "จับฉันหน่อย"

- การสัมผัสทางใจ "ถามสักนิด" "สบตา" ก็พอ เท่านี้ก็หายก็มี

- อยากคุณหมอพยาบาลในอุดมคติ "หมอกานต์" อีกครั้งจังเลยค่ะ

 

ในฐานะที่เป็นพยาบาลทำงานกับคนติดเหล้าติดยาเห็นด้วยมากเลยค่ะ คนติดยามารักษาแล้วเลิกไม่ได้มีเยอะมากเพราะใจที่ยังป่วยอยู่ การรักษาทางกายทำง่ายค่ะ แต่การดูแลด้านจิตใจนี่ซิค่ะ ต้องใช้เวลาเยียวยา บางทีก็รู้สึกว่าพ่อแม่บางคนป่วยทางใจ(เครียด กังวล) น่ารักษามากกว่าลูกอีกก็มีค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท