อาศัยว่าได้ทำหน้าที่ผู้สอนทางสาขาเทคโนโลยีการศึกษามาเกือบ 3 ทศวรรษ ได้เห็นการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และการเปลี่ยนไป ของหลายๆอย่าง มีความเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย พอใจ ขัดใจกับหลายเรื่องหลายราว ตามที่เคยไปบ่นๆไว้ในที่ต่างๆ เมื่อ 16 มค. 51 ได้ไปอ่านบันทึกหนึ่งของท่าน Wasawat Deemarn เกิดความเห็นด้วย และเห็นเสริมในเรื่องที่ท่านเจ้าของบันทึกได้พูดถึง จึงได้ไปแสดงทัศนะต่อท้ายไว้ดังนี้
5. Handy
เมื่อ พ. 16 ม.ค. 2551 @ 12:36
520027 [ลบ]
สวัสดีครับ
ผมเคยหนักใจว่าบัณฑิตที่พวกเราผลิตออกไป เขาแขวนป้าย "คบ." หรือ "ศษบ." แต่ตอนเรียนนั้นนักศึกษาน้อยคนนักที่สนใจใฝ่รู้เรื่อง การศึกษา และการเรียนการสอน เขามุ่งทักษะเชิงเทคนิคกันมาก จนออกนอกลู่ไปไม่น้อย ยิ่งได้ผู้สอนที่ขาดความเข้าใจหรือ ประสบการณ์ทางด้าน การศึกษาด้วยแล้ว ก็เลยไปกันใหญ่ ที่เคยฝึกประสบการณ์ในโรงเรียน หรือสถานศึกษา ก็ย้ายฐานไปสู่บริษัทโฆษณา หรือ Studio กันเป็นแถว ผมเคยลุ้นว่า น่าจะไปทั้งสองแหล่ง ให้มีความแตกต่างจากนิเทศศาสตร์ ให้สมกับความเป็น "คบ." หรือ "ศษบ." แต่ก็ไม่สำเร็จครับ ปัจจุบันเขาไม่ไปโรงเรียนกันแล้ว แต่ผมก็ยอมรับครับว่างานสายตรงหายาก จึงเห็นใจทั้งคนเรียน และคนสอนครับ
อย่างไรก็ตามผมยังคิดเหมือนเดิมคือ ถ้าคุณ แขวนป้าย "คบ." หรือ "ศษบ." คุณต้องรู้เรื่อง ศาสตร์ทางการศึกษา และการเรียนการสอน เพื่อนำไปบูรณาการกับทักษะด้านการออกแบบและผลิตสื่อการเรียนรู้ให้มีคุณภาพ ให้สอดคล้องกับ ปริญญาบัตรที่ระบุเป็น "คบ." และ "ศษบ." ที่ได้รับไป ส่วนการงานนั้นก็ว่าไปตามเงื่อนไขครับ เลือกมากนักก็ไม่ได้ ฝึกฝนทักษะให้เกิดความชำนาญ เชี่ยวชาญไป แต่ถึงอย่างไรก็อย่าให้ถึงกับตัดเรื่องความรู้ด้านการศึกษาออกไปเลยครับ
และในวันเดียวกันนั้นท่านเจ้าของ Blog ก็ได้มาตอบความไว้อีกว่า .....
ยังมีทัศนะของอีกหลายท่านครับที่ไปให้ความเห็นไว้ สนใจเชิญติดตามได้ที่บันทึกชื่อ ..... เทคโนโลยีการศึกษา .. เรียนจบแล้วจะทำอะไรกิ๊น ?
สวัสดีครับ
สวัสดีครับอาจารย์
เท่าที่ผมคลุกคลีกับหน่วยงานที่ใช้วิชาชีพที่อาจารย์สอน
ทุกคนมุ่งไปในทางเทคนิคมากจริง ๆ เพราะต้องการที่จะทำเองให้ได้ทุกอย่าง ซึ่งหมายถึงการที่จะสามารถสร้างงานให้กับตนเอง เพื่อการดำรงชีพในอนาคต ปัจจุบันนี้เครื่องมือราคาถูกลงมาก ทุกคนมีโอกาสเป็นเจ้าของ การใช้งานก็ง่ายขึ้น ตัวอย่างงานก็หาดูง่ายขึ้น
สำหรับในสถานศึกษา จะหาที่ไหนที่จะมีเครื่องมือทันสมัยเหมือนในสถานประกอบการมีน้อยมากครับ ยากที่จะต่อยอดทางเทคนิคได้ เขาก็เลยไปฝึกงานกันมากกว่าฝึกสอน เพราะน้อยคนที่จะอยากเป็นครู เขาอยากเป็นผู้ผลิตรายการมากกว่าครับ
ซึ่งความจริงแล้ววิชาชีพที่อาจารย์สอน เป็นการศึกษาแนวทางเพื่อการที่จะสามารถใช้อุปกรณ์ทางเทคโนโลยี สนับสนุนการเรียนการสอนในโรงเรียนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ส่วนทางเทคนิคก็มีวิชาชีพที่เขาสอนเฉพาะเรื่องการใช้งานและการบำรุงรักษาอยู่แล้ว ในหลายหน่วยงานที่ทำหน้าที่ผลิตสื่อเพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนเลยสับสนกันไปหมด ทำผิดหน้าที่กันไปหมด ทำให้ไม่สนับสนุนกัน หรือไม่ก็รวมทีมกันออกทำมาหากิน ทำความเสียหายให้กับหน่วยงาน และผู้ที่ทำงานตามวิชาชีพจริง ๆ หมดกำลังใจ เพราะไม่มีคนตั้งใจทำงานให้ ก็เลยเรียนรู้ที่จะทำเองเป็นทั้งหมดมั่ง แล้วในที่สุดก็หลงออกสู่ยุทธภพเหมือนคนอื่น ๆ สร้างความเสียหายกับหน่วยงานยิ่งขึ้น...
ผมจึงขอสนับสนุนทั้งการฝึกงานในสถานศึกษา เพื่อประสบการณ์ตรงเรื่องการศึกษา และในสถานประกอบการ เพื่อประสบการณ์ตรงในเรื่องความรู้ทางด้านเทคนิค เผื่อว่าเป็นการกระตุกต่อมความคิดให้ตระหนักถึงวิชาชีพและหน้าที่ของตนเองต่อหน่วยงานในอนาคตบ้างสักนิดก็ยังดีครับ...
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ .. ท่านอาจารย์ Handy
เมื่อ พ. 16 ม.ค. 2551 @ 13:13
520042 [ลบ]
สวัสดีครับ .... ท่านอาจารย์ Handy
ในเรื่องราวของวิชาชีพนี้ครับ