กายใจไม่ใช่ตัวตน บังคับไม่ได้ ประสบการณ์การดูกายดูจิตเพื่อฝึกสติ 1


ดิฉันกลับมาจากวัด รู้สึกว่าสติเร็วขึ้น โกรธน้อยลง รำคาญน้อยลง

14-1-51

ในวันเสาร์ที่12-จันทร์ที่14-มค 51        ดิฉันและคุณชัยณรงค์ได้ไปที่สวนสันติธรรม ศรีราชา

เพื่อไปหัดดูกายดูใจและช่วยหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโชเพื่อดูเรื่องน้ำที่ไม่พอใช้ค่ะ

เราออกเดินทางกันหลังเที่ยงวัน        เมื่อมาถึงพระป๋องพาพ่อและแม่เข้าห้องพักโดยแยกกันพักคนละหลัง

ดิฉันทำความสะอาดห้องคนเดียว        คุณชัยณรงค์และพระป๋องไปตรวจดูอ่างเก็บน้ำทั้งสามอ่างของวัดที่มีปัญหาในการเก็บซึ่งอาจไมพอใช้งานตลอดปี

คุณชัยณรงค์มาช่วยดูว่าจะทำอย่างไรให้น้ำพอใช้ตลอดปี

ดิฉันเองหลังจากทำความสะอาดห้องก็ต้องรีบอาบน้ำด้วยความเหนื่อยอ่อน    

ทำความสะอาดไปก็นึกถึงคุณแจ๋วที่เป็นชาวพม่าที่บ้านทั้งสองคนว่าคงเหนื่อยกับงานบ้านของเราทำให้เห็นใจคนที่มาช่วยงานบ้านเรามากขึ้น

หลังจากนั้นก็ นั่งสมาธิและ เดินจงกรมค่ะ

เป็นการมาปฏิบัติธรรมครั้งที่สามของดิฉันค่ะ

ดิฉันเคยไปที่ พุทธสมาคม 5วันโดยลาพักร้อนไปเองละจ่ายเงินเองเพราะอยากรู้จักคำว่าเดินจงกรม    ไปแล้วก็ยังไม่ค่อยรู้จักแต่เดินเป็นรูปแบบมากขึ้น

ปี 50ไปที่และพุทธมณฑล กับสามีและลูกสาวที่เป็นหมอเพราะอยากให้หมอรู้จักการทำสมาธิและพุทธศาสนาเพื่อจะสามารถดูแลและเข้าใจผู้ป่วยและคนที่อยู่รอบข้าง 

ที่สวนสันติธรรมต้องหัดทำสมาธิเองโดยทำสมาธิตามที่ตัวเองชอบค่ะ

หลังจากนั้นก็หัดดูกายดูใจโดยการตามรู้คือดูความรู้สึกของตัวเองไว้   เช่นโกรธ  เผลอไปคิด  หงุดหงิด   ก็ให้รู้ตัวโดยไม่ไปบังคับเพื่อให้เห็นว่ากายใจของเราตามความเป็นจริงและจะเห็นว่ากายใจของเรานี้ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และบังคับไม่ได้    

เมื่อจิตเราพ้นจากการปรุงแต่งก็จะเป็นจิตที่มีความสุขเพราะไม่มีอะไรจะยึดติด 

ดิฉันอยู่ที่นี่อยู่คนเดียว      ดิฉันกลัวผีเหมือนกันค่ะ

ดิฉันฝังใจกับเรื่องผีมาหาของอาจารย์ผานิตย์ที่มาเล่าให้ฟังที่สถาบันค่ะ

ดิฉันนอนสองทุ่ม        ตื่น 3 ครั้ง กว่าจะถึงเวลาเช้า

ถึงตอนเช้าดิฉันโล่งอกเพราะไม่มีอะไรมารบกวนทำให้โล่งใจไปได้ค่ะ

ตอนเช้าตื่นขึ้นมาดิฉันนอนออกกำลังกาย ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ    อาบน้ำและมา นั่งสมาธิและเดินจงกรม

   มองไปที่หน้าต่างเห็นลูกศิษย์ท่านเดินจงกรมเร็วมากๆ 

  หลวงพ่อสอนว่าการเดินจงกรมคือการเดินอย่างมีสติไม่ต้องมีรูปแบบ   เราสามารถเดินในชีวิตประจำวันโดยไม่ต้องมาเดินที่วัด   

จิตดิฉันไปนึกตำหนิว่าเดินแบบใหนกัน   ทำไมเดินเร็วจัง    เดินเหมือนวิ่ง  

ดิฉันเดินตามที่ครูเคยสอนค่ะ ( ท่านเจ้าอาวาสวัดโสม  )

ช่วงเช้าคนที่อยู่วัดจะต้องนั่งหน้าและส่งการบ้านหลวงพ่อว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ดิฉันตอบหลวงพ่อว่า  กำลังหัดปฏิบัติโดยฝึกดูจิตดูกายบ่อยๆ

เห็นจิตรู้สึกรำคาญคนรอบข้างบ่อยๆ       แต่ไม่กล้าบอกว่ารำคาญใครค่ะ

 ท่านบอกว่าให้ดูไป

  คุณชัยณรงค์เรียนหลวงพ่อว่าไม่เคยดูจิต      กำลังหัดดูแต่ยังดูไม่เป็น

  หลวงพ่อแนะนำให้คนรู้จักว่าว่าเป็นแม่และพ่อของพระและมาช่วยเรื่องน้ำ

ช่วงบ่ายๆดิฉันมาเดินที่ศาลาใหญ่   มาเดินจงกรมและนั่งสมาธิโดยไม่ง่วงมาก  

ในช่วงเย็นก็อ่านหนังสือธรรมะ     นั่งสมาธิและเดินจงกรม    

คืนวันอาทิตย์ดิฉัน ตื่นสองครั้ง   ไม่ฝัน       และไม่มีผีมาหา  

เช้าวันจันทร์   เป็นวันก่อนกลับบ้าน

หลวงพ่อบอกดิฉันว่าของโยมจิตเริ่มตื่นแล้ว      แต่ของพ่อพระป๋องยังไม่ตื่น

สงสัยมัวแต่คิดเรื่องอ่างน้ำของวัด

ท่านเทศน์ว่า   ลูกๆไม่มีทางแทนคุณพ่อแม่ได้นอกจากพาพ่อแม่ถือศีลปฏิบัติธรรม

กลับจากวัดเรามาส่งพระที่ติดมาเข้ากรุงเทพ

  คุณชัยณรงค์ชวนดิฉันให้ไปดูจิตดูกายที่วัดทุกๆสองเดือน

ดิฉันดีใจที่หลวงพ่อทักว่าจิดตื่นแล้วหลังจากดูจิตมานานโดยไม่ได้เรียนกับหลวงพ่อ

ดิฉันเคยอ่านจากหนังสือหลวงพ่อพุธและหัดดูในช่วงมีปัญหาอยู่บ่อยๆค่ะโดยไม่เคยเรียนกับท่าน

สิ่งที่ได้มาทั้งสามวัน

ทำบุญ   ทาน   รักษาศีล  ภาวนา   สวดมนต์แผ่เมตตา   นั่งสมาธิ เดินจงกรม

พบว่าจิตตัวเองบังคับไม่ได้จริงๆ

  ไม่อยากเกลียดใครแต่คนที่เราไม่ชอบมักโผล่มาให้เราคิดบ่อยๆ   อยากจะให้อภัยทานแต่มันยังคิดโกรธอยู่

กายก็บังคับไม่ได้   ไม่อยากให้ผมหงอก   รอยตีนกามาหา   ดูกระจกแล้วตกใจค่ะ

หลวงพ่อบอกว่านานๆก็เป็นรอยตีนควายเพราะเราบังคับกายไม่ได้

เหมือนบางท่านรวมทั้งดิฉันไม่อยากโกรธคนในครอบครัวแต่เวลาทำไม่ถูกใจความโกรธพลุ่งขึ้นมา

เวลาพบสิ่งกระตุ้นอารมณ์โกรธก็มาเองค่ะ

มีคนมาถามเรื่องอรหันต์เป็นอย่างไร  หลวงพ่อตอบว่าไม่ทราบต้องถามพระอรหันต์เอง

ดิฉันกลับมาจากวัด     รู้สึกว่าสติเร็วขึ้น   โกรธน้อยลง   รำคาญน้อยลง  

 คงเกิดจากการดูกายดูจิตแล้วเห็นว่าเราบังคับไม่ได้ทำให้รู้ว่าทั้งสองอย่างไม่ใช่ของเราทำให้ยึดติดน้อยลง

แต่เห็นกิเลศดิฉันมากขึ้นทำให้เรารู้ตัวว่าเรายังมีกิเลศหนามากๆทั้งๆเมื่อก่อนเห็นแต่ความดีของตัวเอง

คงอีกนานกว่าจะเบาบาง

แต่จะพยายามต่อค่ะ  

มีโอกาสจะมา ลปรร ต่อค่ะ

หมายเลขบันทึก: 159270เขียนเมื่อ 14 มกราคม 2008 23:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม 2012 16:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณหมอ

กำลังศึกษาเรื่องการดูจิตค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท