เสียงไก่ขันปลุกยามใกล้รุ่ง ทำให้ผมตื่นขึ้น รีบสลัดผ้าห่มออกจากตัวโดยไม่งัวเงียเพราะรู้ว่างานรออยู่ เหลียวไปดูที่ระเบียงเห็นพ่อนั่งสูบยาใบจาก มือก็ง่วนอยู่กับเชือกที่ใช้ล่ามวัวขดหนึ่ง
ผมล้างหน้าบ้วนปากเสร็จแล้ว ก็เข้ามานั่งใกล้ตะเกียงน้ำมันก๊าด ที่พ่ออาศัยแสงสว่างซ่อมเชือก ครู่เดียวพ่อลุกขึ้น มือถือเชือกขดใหญ่ส่งสัญญาณบอกผมว่า "เราไปกันเถอะ"
เริ่มต้นฤดูทำนา ลูกชาวนาทั่วไปต้องตื่นแต่เช้า เตรียมตัวเดินทางไปทำนาที่อยู่ไกลออกไปจากบ้าน บ่าแบกคันไถ มือก็จูงวัวสองตัวไปบนคันนาเล็กๆตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้น
ผมจูง "ไอ้ขาว" ส่วนพ่อบนบ่าแบกคันไถ อีกมือก็จูง "ไอ้เพชร" เป็นงานประจำของเรา
"ไอ้ขาว" "ไอ้เพชร" เป็นวัวตัวผู้ ทั้งสองอยู่คู่กับครอบครัวผมมานาน เป็นเพื่อนผู้ใช้แรงงานช่วยทำนามาตลอด ตั้งแต่ผมจำความได้ ถือเป็นสมบัติล้ำค่าที่ต้องดูแลอย่างดี เพราะถ้าหากทั้งคู่เกิดเป็นอะไรไป นั่นหมายถึงการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ทีเดียว เพราะจะต้องลงทุนซื้อวัวตัวใหม่ มาฝึกสอนจนกว่าจะ เข้าขา รู้งาน คงต้องใช้เวลาอีกหลายวันไม่รู้จะทันหน้าฝนปีนี้หรือเปล่า และที่หนักกว่านั้น พ่อบอกว่า "เราไม่มีเงิน อาจต้องจำนองที่นาเพื่อหาวัวตัวใหม่ก็ได้ " ผมไม่ค่อยเข้าใจอะไรมากนัก
"ไอ้ขาว" เป็นวัวตัวผู้ ลักษณะสูงใหญ่ สีขาวหม่น เขายาว นิสัยเรียบร้อย ไม่ดุ ไม่เกเร ซึ่งพ่อจะให้ผมดูแลเป็นประจำ ผมจึงมีความผูกพันกับ "ไอ้ขาว" มากเป็นพิเศษ
ส่วน"ไอ้เพชร" รูปร่างบึกบึน ค่อนข้างดุและมักดื้อยามเขาเหน็ดเหนื่อย พ่อจะดูแลด้วยตัวเองเสมอ
พ่อเปิดประตูรั้วบ้านเสียงดัง ทำให้เจ้าหมาสองตัวที่เลี้ยงไว้ส่งเสียงเห่า แต่เมื่อรู้ว่าเป็นเจ้าของบ้านมันก็ล้มตัวลงนอนหน้าเตาไฟที่ใช้เคี่ยวน้ำตาลเหมือนเดิม
ผมลาก "ไอ้เพชร" ออกจาคอก ยื่นปลายเชือกให้พ่อในขณะที่บนบ่ากำลังแบกคันไถ พ่อกับ "ไอ้เพชร" เดินออกจากบ้านไปอย่างช้าๆ
ผมเข้าไปกระตุกเชือก "ไอ้ขาว" ออกจากเสาที่เราผูกไว้หลวมๆเมื่อตอนหัวค่ำ มันคงจำกลิ่นผมได้ ทำจมูกฟุดฟิด ผมเอามือลูบหัวมันทีหนึ่งเป็นสัญญาณ แล้วรีบจูงเดินตามหลังพ่อไปติดๆ
บนคันนาเล็กๆที่เราเดินจนคุ้นชิน แม้จะมองไม่ค่อยชัดเพราะยังมืดอยู่ แต่เราก็ไม่เคยพลาดล้มแต่อย่างใด ระยะทางไกลมิใช่น้อย แต่ยังมิได้รู้สึกเหนื่อย จะมีก็แต่เสียงเพื่อนผู้ใช้แรงงานทั้งสองตัวที่หายใจแรงขึ้นบ้าง แล้วไม่นานนักเราก็ถึงที่หมาย
ครั้นถึงแปลงนาเป้าหมาย พ่อนั่งพักมวนยาใบจาก แสงจากไม้ขีดไฟสว่างวาบจ่อที่ปลายมวนยา กลิ่นควันคลุ้งเข้าจมูก ผมเดินเฉไปทางอื่น ปล่อยให้วัวเล็มหญ้าที่ยังมองไม่ค่อยเห็น
สักครู่ขณะที่ปากคาบมวนยาใบจาก พ่อลุกขึ้นนำวัวทั้งสองมายืนเทียบกันให้ผมถือปลายเชือกไว้ พ่อนำแอกมาครอบลงบนบ่าของทั้งคู่ ใช้เชือกผูกไว้หลวมๆที่คอ จากนั้นไปนำคันไถมาสอดเข้าตรงกลางแอกที่มีเชือกคอยรับ เป็นอันเสร็จ พ่อเดินอ้อมมารับเชือกจาผมไปผูกโยงไว้กับปลายคันไถที่อยู่สูงผมผูกไม่ถึง
บัดนี้ วัวสองตัวนำข้างหน้า กับพ่อที่คอยบังคับอยู่ข้างหลัง พร้อมจะเริ่มงานไถพลิกผืนดินเพื่อทำนา
ดวงอาทิตย์สีส้ม กลมโต โผล่ขึ้นเหนือแมกไม้ด้านทิศตะวันออก เป็นสัญญาณว่า วันใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว ทุกชีวิตต่างก็เริงร่า เสียงนก กา กู่ก้องอยู่เป็นระยะ เรียกพวกพ้องทำหน้าที่การงาน หาอาหาร หาคู่ครอง ไปตามครรลองแห่งธรรมชาติในท้องนา
พ่อเริ่มให้สัญญาณตือน วัวที่รู้งานทั้งคู่เริ่มเดินหน้าพลิกผืนนา แปรเปลี่ยนแรงงานเป็นอาหารเลี้ยงผู้คนต่อไป
*********************
ผมเข้าโครงการเกษียณก่อนกำหนดเมื่อปี 2547 เที่ยวหลงไปไหนไม่ถูกอยู่นานเลยครับ โน่นก็จะทำ นั่นก็จะเอา หาทางออกให้กับตัวเองไม่ได้ คือไปแล้วมันเจอแต่ทางตัน แต่ตอนนี้เห็นทางแล้วครับ ความสุขทางใจไม่ใช่อยู่ไกล แต่อยู่ที่เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนมุมมองเท่านั้นเอง
ขอบคุณที่ติดตามให้กำลังใจ