สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน ฉบับนี้ผมขอนำเรื่องราวดีๆ จากการเดินทางพร้อมบันทึกสาระต่างๆ มาฝาก เป็นเกษตรกรศูนย์เรียนรู้การเกษตรพอเพียง ( ศูนย์หลัก ) ตำบลหนองมะโมง อำเภอหนองมะโมง จังหวัดชัยนาท โดยมีนางสาววิษากรานต์ ตุ่นทอง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 3 เป็นผู้รับผิดชอบ
<div style="text-align: center"></div><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 42.55pt; text-align: justify" class="MsoNormal">การเดินทางตะลุยฝุ่นมาตลอดทาง ก็น่าเห็นใจน้องเกษตรสาวสวยที่ต้องลุยฝุ่น เพื่อส่งเสริมการเกษตร แต่เมื่อมองในทางบวกคือให้น้องได้ฝึกความอดทน และก็เป็นที่น่าพอใจเพราะดูเขายังสดใส และร่าเริง สนุกกับการทำงาน โดยเฉพาะได้พบกับเกษตรผู้หัวไวใจสู้แบบนี้ เจ้าหน้าที่ของเราบอกว่า “จะยากรำบากกับสภาพพื้นที่ ดินฟ้าอากาศ และราคาน้ำมันอย่างไร ก็ขอสู้ตายค่ะ” แบบนี้นายรังสรรค์ กองเงิน เกษตรจังหวัดชัยนาท คงสบายใจกับการปฏิบัติงานของน้องๆ ที่น่ารัก และใจสู้นะครับ เราชาวนักจัดการความรู้ไม่เพียงหาความรู้แต่ขอเป็นผู้ให้กำลังใจ และกองเชียร์ครับผม </p><div style="text-align: center"></div>
นายเชน นิลฉ่ำ เกษตรกรหัววัยใจสู้วัย 45 ปี บ้านเลขที่ 69 ม.5 ต.หนองมะโมง อ.หนองมะโมง ผู้ต่อสูกับสภาพความแห้งแล้งโดยนำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่มาใช้ในพื้นที่ 15 ไร่ สระน้ำ 4 สระ(1 งาน 3 สระ 2 งาน 1 สระ) น้ำพอเพียงกับการปลูกพืชใช้น้ำน้อยฤดูแล้ง ทำสวนยกร่อง ปลูกพืชผักสวนครัวแซม จำนวน 3 ไร่ เป็นที่นา 4 ไร่ 2 งาน และปลูกพืชผักสวนครัว ในช่วงฤดูแล้ง พี่เชน เขาบอกว่า กว่าจะสามารถผลิตพืชผัก ให้ได้แบบปลอดภัยจากสารพิษจะต้องปรับปรุงดินที่ทรุดโทรมจากน้ำมือเราที่กระทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการให้ฟื้นความอุดมสมบูรณ์ก่อน โดยใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก และปุ๋ยพืชสด ก่อนเตรียมดินปลูก ทุกครั้งในแต่ละรุ่นของการปลูก และทำการป้องกันกำจัดศัตรูพืชแบบผสมผสาน ตามคำแนะนำของเกษตร เม (ชื่อของคุณวิษากรานต์) ที่ได้หมั่นเข้ามาให้คำแนะนำ ผลที่ได้รับเป็นที่น่าพอใจมาก เพราะลดต้นทุนการผลิตได้มาก และมีผักที่ปลอดภัยสู่ตลาด อีกทั้งในช่วงนี้มีเกษตรกรแวะเวียนมาเยี่ยม รวมทั้งได้เป็นตัวแทนร่วมกับงานราชการหลายอย่าง บางครั้งต้องปฏิเสธ เพราะรับงานไม่ไหว แต่ถ้าเพื่อการเกษตรแล้วรับทุกงาน ครับ (ฟังแล้วเป็นปลื้มครับ)
</span><p> ไปครั้งนั้นไม่เพียงดูผลงานที่น่าชื่นชม ยังได้สูตรการใช้ไข่ไก่เร่งให้พืชออกดอกและการทำปุ๋ยอินทรีย์น้ำ มาฝากดังนี้ การใช้ไข่ไก่เร่งให้พืชออกดอก เพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุงและเร่งการออกดอกให้กับพืช สามารถผลิตได้ง่าย และประหยัดเวลา ซึ่งมีส่วนผสมและวิธีการทำ คือ</p><p>วัสดุที่ใช้ </p><table border="0" cellspacing="0" cellpadding="0" class="MsoNormalTable" style="border-collapse: collapse"><tbody>
</tbody></table><p> วิธีทำ นำไข่ไก่ทั้งฟองปั่นให้ละเอียด แล้วนำไปใส่ภาชนะผสมกากน้ำตาล คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วบดลูกแป้งข้าวหมากให้ละเอียด เติมยาคูลท์ หรือ นมเปรี้ยว ผสมให้เข้ากัน เสร็จแล้วนำไปบรรจุในถังพลาสติกซึ่งมีฝาปิดมิดชิด ตั้งทิ้งไว้ในที่ร่มมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ประมาณ 7 วัน </p><p> วิธีการใช้ นำน้ำสกัดชีวภาพที่ได้ ประมาณ 5 -– 10 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก ๆ5 –- 7 วัน ควรฉีดพ่นในขณะที่แดดอ่อนหรือในช่วงเช้า การฉีดพ่น เพื่อให้พืชผลออกดอกนั้น ควรบำรุงให้ต้นพืชมีความสมบูรณ์ก่อนแล้วฉีดพ่น 2 - 3 ครั้ง และให้หยุดฉีดพ่นในขณะที่พืชผลนั้นกำลังออกดอก</p><p>ข้อควรระวัง น้ำสกัดชีวภาพ จากการใช้ไข่ไก่เร่งให้พืชออกดอกนั้น เป็นฮอร์โมนซึ่งมีความเข้มข้นสูง การใช้ควรระมัดระวังอย่าผสมให้มากกว่าอัตราที่กำหนดไว้ เพราะอาจจะทำให้พืชผลเกิดความเสียหายได้</p><div style="text-align: center"></div>
การทำปุ๋ยอินทรีย์น้ำ เป็นปุ๋ยที่ได้จาการสกัดน้ำเลี้ยงจุลินทรีย์ที่ต้องการและไม่ต้องการอากาศในการย่อย
</span><p> วัสดุที่ใช้ </p><table border="0" cellspacing="0" cellpadding="0" class="MsoNormalTable" style="border-collapse: collapse"><tbody>
</tbody></table><p> วิธีการทำ ละลายกากน้ำตาล รำข้าว น้ำหรือน้ำมะพร้าว และสารเร่ง พด.2 ให้เข้ากันในถังขนาด 120 ลิตร เติมวัสดุหมัก ( ปลา หรือหอยเชอรี่ ผัก และผลไม้) ลงในถังเติมน้ำให้ท่วม (เพื่อให้คนสะดวก) แต่ต้องต่ำกว่าขอบถังอย่างน้อย 20 เซนติเมตร คลุกเคล้า และคนส่วนผสมดังกล่าวให้เข้ากัน คนบ่อย ๆ เพื่อให้วัสดุหมักย่อยสลายเร็วขึ้น ใช้เวลา 1 เดือนขึ้นไป จึงกรองแล้วนำไปใช้</p><p> วิธีการใช้-</p><p> หมักดินหมักตอซังผสมน้ำฉีดพ่น หรือหยดที่ทางน้ำเข้านา อัตรา 5 ลิตรต่อไร่ คลุกหมักทิ้งไว้ 10 -15 วัน เพื่อช่วยสลายฟางข้าวให้เปื่อยยุ่ย ทำให้ไถพรวนได้ง่าย อาจหยดที่ทางน้ำเข้านา 5 ลิตร/ไร่ อีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูดิน และเพิ่มปริมาณและกิจกรรมของจุลินทรีย์ในดิน- ฉีดพ่นทางใบอัตรา 50 - 80 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ อัตรา 500 – 800 ซีซีต่อน้ำ 200 ลิตรในนาข้าว อายุ 20 , 40 และ 60 วันในไม้ผล ทุก 15 – 30 วันในพืชผัก ทุก 3 - 5 วัน (ผสมเจือจางกว่าที่ใช้ในนา) ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก พี่เชน นิลฉ่ำ ได้ที่เบอร์โทร 086-9343068 ยินดีต้อนรับครับ </p><p><div style="text-align: center"></div></p>
เยี่ยมจริงๆ
ดีมากครับ จะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรอีกหลายๆ คนที่สนใจ
ขอบคุณที่นำข้อมูลดีๆ มาเผยแพร่ครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ
เกษตรหนุ่มลุ่มน้ำเลย
ขอบคุณมากครับที่ทุกคนสนใจสูตรโฮโมร์ของผม..ผมจะคิดค้นสูตรใหม่ๆให้กับพี่น้องชาวเกษตรได้ทดลองใช้กันอีกครับ
มีข่าวจะมาประชาสัมพันธ์อีกเรื่อง...ใช้เชื้อรา บิวเวอร์เลียป้องกันเพี้ยกระโดนสีน้ำตาลในนาข้าว..สนใจติดต่อศูนย์บริหารศัตรูพืชจังหวัดชัยนาท