คือคำว่าพอก็พอเพียง เพียงนี้ก็พอ ดังนี้เอง คนเราถ้าพอในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อยก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย
"น้ำมันขึ้นราคาอีกแล้ว" เสียงบ่น
(แบบยอมจำนน) ของคนข้างกายทำลายความเงียบทันที
"เท่าไหร่ล่ะ" ครูกั๊ตถาม
(เพราะว่าไม่เคยรู้ราคาน้ำมันเลยตั้งแต่มีรถเป็นของตนเอง)
"ใกล้จะสามลิตรร้อยแล้ว" (ด้วยปัญหาการเมืองและความไม่สงบภายในประเทศของผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก
ส่งผลให้วันนี้...ราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ 10 เหรียญต่อบาเรล
น้ำมันดีเซลชัวร์ของปั๊มตราหอย ณ สุรนทร์ถิ่นช้างหลาย ราคาลิตรละ
32.50 บาท)
"จำได้ไหม...เติมน้ำมันครั้งแรกลิตรละเท่าไหร่"...คำถามถูกโยนมาอีกแล้ว
(ใครจะไปรู้เล๊า...)
"เท่าไหร่ล่ะ"....(ยืนยันค่ะว่าไม่รู้จริงๆ..อิ.อิ.)
"ตอนออกรถมาใหม่ๆ ลิตรละเก้าบาทเอง" เป็นคำตอบที่ดูเหมือนบ่นอีกค่ะ
"เดี๋ยวนี้เติมน้ำมันแต่ละทีต้องควักแบ็งค์พัน...ซดน้ำมันเข้าไปนะลูกฯ"
"อย่าบอกนะว่ารถเราเก่าแล้ว..อยากได้รถใหม่ละซิ"
ครูกั๊ตทำท่าเหมือนจะรู้ทัน
"ยังร๊อก...รถเราใช้มาแปดปีกว่าๆ
แต่สภาพเหมือนเพิ่งออกไม่นานมานี้...รอให้เลขวัดระยะพ้นขีดสี่แสนกิโลฯ
ก่อนค่อยคิดเรื่องนี้" ...
เฮ้อโล่งอกไปทีค่ะ
เกือบเป็นหนี้ก้อนโตซะแล้ว
.................
สัปดาห์แรกของ
"ปีใหม่" ของทุกๆ คนกำลังผ่านไป ห้วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง
ห้วงเวลาแห่งความสุขในวันขึ้นปีชวดผ่านไปแล้วจริงๆ....ตอนนี้เรากำลังเผชิญกับความจริง
ความจริงในเรื่องค่าครองชีพที่พุ่งทะยานขึ้นสูงหนีแรงโน้มถ่วงของโลกไปเรื่อยๆ
...ดูเหมือนว่า...
ความสุขและทุกข์อยู่ใกล้กันจริงๆ
เหมือนความมืดกับแสงสว่าง...แสงสว่างเข้ามาความมืดก็จางหายไป
ความทุกข์เช่นเดียวกัน...ความสุขเข้ามาทำให้ความทุกข์จางหายไป ...
แล้วเราจะสุขได้อย่างไร เราจะจุดแสงสว่างเพื่อไล่ความมืด (ทุกข์)
ได้อย่างไรกันเล่า ??
"หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง"
ช่วยเราได้ไหม
แล้วเราจะนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ได้อย่างไร ???
ต้องช่วยกันหาคำตอบต่อไปค่ะ
"เศรษฐกิจพอเพียง" คืออะไร
?
-----------------------------------------------------
เศรษฐกิจพอเพียง
เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ
ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ
ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง
โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์
ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล
รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร
ต่อการมีผลกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน
ทั้งนี้จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่ง
ในการนำวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการทุกขั้นตอน
และขณะเดียวกัน จะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ
โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับ
ให้มีสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต
และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร
มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ
เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางทั้งด้านวัตถุ
สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี
ประมวลและกลั่นกรองจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งพระราชทานไว้ในวโรกาสต่างๆ
รวมทั้งพระราชดำรัสอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
โดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นำไปเผยแพร่ เมื่อวันที่ 29
พฤศจิกายน 2542
เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติของประชาชนโดยทั่วไป
เราควรจะเริ่มต้นที่ตรงไหนก่อน...?
"...การพัฒนาประเทศจำเป็นต้องทำตามลำดับขั้น
ต้องสร้างพื้นฐานคือ
ความพอมีพอกินพอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นเบื้องต้นก่อน
โดยใช้วิธีการและใช้อุปกรณ์ที่ประหยัด แต่ถูกต้องตามหลักวิชา
เมื่อได้พื้นฐานมั่นคงพร้อมพอควรและปฏิบัติได้แล้ว
จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญและฐานะเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับต่อไป
หากมุ่งแต่จะทุ่มเทสร้างความเจริญ
ยกเศรษฐกิจขึ้นให้รวดเร็วแต่ประการเดียว
โดยไม่ให้แผนปฏิบัติการสัมพันธ์กับสภาวะของประเทศและของประชาชนโดยสอดคล้องด้วย
ก็จะเกิดความไม่สมดุลในเรื่องต่างๆ ขึ้น
ซึ่งอาจกลายเป็นความยุ่งยากล้มเหลวได้ในที่สุด.."
พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,
ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วันที่ 18 กรกฎาคม
2517.
อย่างไรจึงจะเรียกว่าพอเพียง...?
"...คือคำว่าพอก็พอเพียง เพียงนี้ก็พอ
ดังนี้เอง คนเราถ้าพอในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย
เมื่อมีความโลภน้อยก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย ถ้าทุกประเทศมีความคิด -
อันนี้ไม่ใช่เศรษฐกิจ - มีความคิดว่าทำอะไรต้องพอเพียง
หมายความว่าพอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่โลภอย่างมาก
คนเราก็อยู่เป็นสุข
พอเพียงนี้อาจจะมีมาก อาจจะมีหรูหราก็ได้
แต่ว่าต้องไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น ต้องให้พอประมาณตามอัตภาพ
พูดจาก็พอเพียง ทำอะไรก็พอเพียง ปฏิบัติตนก็พอเพียง".
จากพระราชดำรัสนี้จะเห็นว่าหากปฏิบัติตนอยู่ในความพอเพียงแล้ว
ชีวิตก็เป็นสุขได้ เมื่อมีความสบายใจจิตใจก็เกิดคุณธรรม.....
"เศรษฐกิจพอเพียง"
เปรียบเสมือนสะพานสายรุ้งที่นำเราไปสู่ปลายทางอันสุขสงบงาม
ห้วงเวลาแห่งความทุกข์ของคนทั้งแผ่นดิน...โปรดร่วมกันถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ด้วยการ
"ปฏิบัติบูชา"
โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปสอดแทรกอยู่ในทุกย่างก้าวของวิถีชีวิต
ดังบทสนทนาที่นำมาถ่ายทอดข้างต้น
เป็นส่วนหนึ่งของการพยายามสร้างภูมิคุ้มกัน การมีเหตุมีผล
และการใช้หลักความพอประมาณในการดำรงชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทั้งหมดของวิถีชีวิต...เพียงแค่หนึ่งในสี่...ท่านก็จะรู้สึกได้ว่า
"ความสุขที่แท้"
เป็นอย่างนี้นี่เอง แต่การจะทำเช่นนี้ได้นั้น "ศรัทธา"
และความเชื่อต่างก็มีความสำคัญ เพราะมันเป็นแรงดึงดูดสำคัญที่ชักนำเราไปสู่เป้าหมายได้ง่ายและเร็วขึ้น
เชื่อเหลือเกินค่ะว่า....แต่ละคนมีดวงดาวประจำตัวและมีเทพอารักษ์ประจำตนกันทุกคน
หากดวงดาวกำลังแสงริบหรี่..เทพอารักษ์กำลังอ่อนแรง
เราจงเร่งเพิ่มพลังแสงของดวงดาว...เติมพลังให้เทพอารักษ์ด้วยการกระทำดี
ให้ "ดี" แข็งแรง
ไม่เช่นนั้นความไม่ดีจะครอบครองพื้นที่ทั้งหมด...เราจะอยู่กันอย่างไร
ขอสังคมไทยจงเต็มไปด้วย "คนดี" เพื่อให้ "คนไม่ดี"
มีที่ยืนน้อยลง
ทำดีให้พ่อดู
>>>>> นะคะ
<<<<<
ข้อมูลเพิ่มเติม ; 1) หนังสือ >>>
"ในหลวง กษัตริย์นักพัฒนา : นวัตกรรมและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง"
พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ. 2550. บุคสไมล์. พิมพ์ครั้งที่ 4.
2) เวบไซต์ ; เศรษฐกิจพอเพียง :
การขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง