"มามะ..หาทางป้องกันโรคกระดูกพรุนกันดีกว่า"


40 UP รึยังเอ่ย ?

 

                                  

  เชิญทางนี้ค่ะ..เชิญทางนี้          

ว่าไปแล้วพ่ะลองเช็คหมู่มวลมิตร G2K  กันแล้วเนี่ยนะ..หมิ่นเหม่ ๆ 40  UP  (อายุค่ะ..หน้าตามะเกี่ยว)  ซึ่งพอล่วงเลยมาถึงวัยนี้แล้ว..ส่วนมากมักจะเสี่ยงกับการเป็น  "โรคกระดูกพรุน"  ซะส่วนใหญ่  วันนี้  OOHOOH  ก็เลยอยากจะนำเสนอเรื่องนี้กันค่ะ..แอ่น..แอน..แอ๊น..

 "โรคกระดูกพรุน"     

          "โรคกระดูกพรุน"  มักเกิดกับผู้สูงอายุ  และผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือน  ซึ่งถ้าเป็นแล้วเนี่ยยย  ทรมานร่างกายพอสมควร  ซึ่งเราควรหาทางป้องกันไว้แต่เนิ่น ๆ โดยกินอาหารที่เหมาะสมดังต่อไปนี้ค่ะ

             ควรกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง  เช่น  ปลาเล็ก  ปลาน้อย  สาหร่าย  เต้าหู้  นมวัว  โยเกิร์ต  ถั่วหมัก

             หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์  เพราะเจ้าแอลกอฮอล์จะทำให้เนื้อกระดูกบางเร็วขึ้น  ซึ่งยังลดการดูดซับสารอาหารในกระดูกอีกด้วย  (ขามาววววทั้งหลาย..ฟังไว้ !)

              ดื่มนมเป็นประจำทู๊กวัน  แต่แนะนำให้เป็นนมไขมันต่ำด้วย  ดื่มให้ได้วันละ  3  แก้วจะดีดี๊ดีค่ะ

               หลีกเลี่ยงอาหารที่มีเกลืออยู่มาก  (คนเค็มมะเกี่ยว)  เพราะร่างกายจำเป็นต้องขับเกลือส่วนเกินออกมาให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม  ซึ่งแคลเซียมจะถูกขับออกมาพร้อมกัน  ทำให้กระดูกเปราะได้ง่าย

               ควรกินอาหารที่มีแมกนีเซียมสูง  เช่น  ข้าวโพด  กล้วย  โกโก้  จมูกข้าวสาลี  เต้าหู้  ถั่วเหลือง  ถั่งลิสง  หอยนางรม  ผักใบเขียว  เพราะแมกนีเซียมจะช่วยทำให้กระดูกและฟันมีความแข็งแรงขึ้นนั่นเอง

          ทราบแล้วก็หามากินกันซะนะฮ๊า..เนี่ยะ OOHOOH  ว่าจะกินไว้ก่อนตั้งแต่แรก ๆ พอเข้าสู่วัยที่น่าสงสัย (อีกซ๊ากประมาณ 20  ปี) จะได้ไม่ต้องทรมานมากเกินไป  เฮ้อ !

"ความไม่มีโรค..เป็นลาภอันประเสริฐ"

คำสำคัญ (Tags): #kmobec#kmska2#songkhla2
หมายเลขบันทึก: 157056เขียนเมื่อ 2 มกราคม 2008 19:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีปีใหม่ครับ  คุณน้อง

  • มาติดตามการป้องกันโรคกระดูกพรุ่น
  • เข้าท่าหาทางป้องกัน เจอข้องแรก ก็อายคนขายปลาเสียแล้ว  ถามหาขอซื้อปลาเล็กปลาน้อย  คนขาบบอกไม่มี (หมอนี่กวนนี่หว่า) เกือบเอาตัวไม่รอด..เนี่ย
  • ถ้านมหรืออย่างอื่นพอไหว แก้ได้แน่นอน..นะ
  • ขอบคุณมากครับ
-ใครที่มีอาการเจ็บหัวเข่าทั้งที่อายุยังน้อย อย่าตกใจ
-คุณอาจไม่ได้เป็นโรคกระดูกก็ได้
-อาจเป็นเพราะออกกำลังกายมากไปทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ การไหลเวียนของโลหิตไปยังข้อต่าง ๆ ไม่ดีพอ
-ทำให้เกิดอาการเจ็บเข่า ไปหาหมอกระดูก ก็เลยต้องกลายเป็นโรคกระดูกโดยปริยาย รักษาอยู่นาน
-กินยา ฉีดยา ไม่หายซักกะที
-สุดท้าย มาหายกับการรักษากล้ามเนื้อด้วยคลื่นความถี่สูง งงมั๊ยล่ะ
-เจอกะตัวเอง เลยเล่าสู่กันฟัง เจ้า (เพิ่งกลับจากเจียงฮายเจ้า)

สวัสดีค่ะคุณอุ๊ P

  • อูย...ชักจะน่าหวาดเสียวซะนะคะเนี่ย...
  • คงต้องดูแลตนเองให้มีสุขภาพดีๆ น่ะคะ  ชักเป็นห่วงกระดูกตัวเองแล้วสิคะ...มันคงรับมือกับดิฉัน...แบบลุยซะไม่มี...น่าสงสารมันจัง...คงต้องลดความซ่าลงหน่อยแล้วมั๊งคะ
  • ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
  • ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมเยือน ด้วยมิตรไมตรีนะคะ
  • สวัสดีปีใหม่ค่ะ...ขอความสุข  สดใส  จงเป็นของคุณอุ๊...ตลอดปีนี้เลยนะคะ
  • อ๊า....ทำงานที่สำนักงานเขตพื้นที่เหรอคะ...ดิฉันมีพี่สาวทำงานที่นั่นด้วยล่ะค่ะ..... เธออยู่ฝ่ายงานเอกชนน่ะค่ะ......วันหน้าเราอาจเจอกันตัวเป็นๆ นะคะ
  • แต่ที่แน่ๆ "เราคงเป็นลูกแม่วรนารีฯ ( กรมท่า-ขาว) เหมือนกันเลย" ค่ะ...  แต่รุ่นไหนคะเนี่ย

สวัสดีครับ

ต้นไม้หายป่วยแล้วคนปวดขาแทนรึครับ(40 UP รึยังเอ่ย)

* แคลเซี่ยมทานเดี๋ยว ๆ ไม่เกิดประโยชน์นะครับ..

ต้องมีแมคนีเซี่ยม อัตราส่วนแคลเซี่ยม: แมคนีเซี่ยม  2 : 1  ไม่งั้นเป็นตะคริวไม่รู้ด้วยนะครับ

เคยรู้จักผู้หญิงคนหนึ่ง ขาดแคลเซี่ยมเป็นตระคริวที่หัวใจ หัวใจหยุดเต้นนะครับ

* แคลเซี่ยมท้องตลาดดูดซึมได้แค่ 9 % แต่สูตรที่ดีต้องดูดซึมได้ 40 %

* ทานนม 4 แก้ว ดูดซึมไปใช้ได้ 1 แก้ว อีก 3 แก้วเป็นพิษครับ

* รู้จักหาวิธีดูแลตัวเองนะดีครับ แต่อย่าพึ่งด่วนสรุปนะครับ เป็นห่วงทุก ๆคน

ขอบคุณค่ะ

คุณเกษตรยะลา  เก๊าะทำไม๊ทำไม  ไม่บอกเค้าไปล่ะคะว่า  "สื่อปล๋าโหลกเหมล่ะ"  แหม่เฮ่ย !  ส่วนเรื่องนม..นม..ไม่พูดดีก่า ..หุ...หุ..

คุณ  พี่ MOI  ขอให้หายวันหายคืนนะค๊า..จะได้ซ่ากันต่อไป

คุณ  ครูพี่แอน..เราคงได้พบกันเร็ว ๆ นี้ค่ะ อิ..อิ..(อ้อ !  น้องใครเอ่ย ! มะเป็นไร  เดี๋ยวไปสืบ)

คุณเกษตร (อยู่) ยะลา เอ๊ย !  มั่วแล้ว OOHOOH  คุณ เกษตร (อยู่) จังหวัด  ก็ถ้านู๋รู้ไปโม้ด ! เค้าจะเรียก  "แลกเปลี่ยนเรียนรู้"  เหรอค๊าทั่น 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท