2 วันที่ผ่านมาได้มีโอกาสต้อนรับเพื่อนอยู่คนหนึ่งเป็นเพื่อรักสมัยปริญญาตรี ตอนนี้ก็ได้เป็นใหญ่เป็นโตในตำแหน่งผู้บริหารขององค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่ง
คงไม่มีเรื่องจะเขียนหากไม่ได้ไปเลี้ยงเพื่อนที่มาเยี่ยมเยือนถึงถิ่น เพื่อนคนนี้มากับลูกพี่ลูกน้องซึ่งเป็นกำนันของตำบลแห่งหนึ่ง เมื่อพี่เค้ากินจนกรึ่มนิดๆเริ่มเล่าเรื่องราวของตัวเอง ในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของคนที่คิดว่าตัวเองรวยเหลือหลาย
พี่เค้าพูดแต่เรื่องเงิน ของที่มียี่ห้อและราคาแพง เราก็ไม่ขัดเพราะอยากรับรู้ว่าเป็นอย่างไรนะชีวิตคนรวยเนี่ย
ที่รวยเพราะที่บ้านเค้าขายที่ได้หลายล้านบาทอยู่เมื่อสมัยสิบปีก่อน แต่ตอนนี้เงินก้อนนั้นหมดแล้วก็ขายที่แปลงใหม่คราวนี้ได้เป็นหลักร้อยล้านเชียว จากนั้นก็คุยเรื่องของเฟอร์นิเจอร์ประดับร่างกายราคาแพงแต่บางช่วงที่เล่าก็ดูเหมือนว่าเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงก็กลับเข้าไปอยู่ในโรงรับจำนำ เอ!!!อย่างไรเนี่ย
แล้วก็คุยหลายอย่างแต่มีประโยคหนึ่งที่ฟังแล้วสะอึกแต่ก็ไม่ได้ออกอาการมากนัก "มาเที่ยวเชียงใหม่เที่ยวนี้ดีนะที่ได้เติมน้ำมันของ......มา ไม่งั้นคงต้องเสียค่าน้ำมันประมาณ 5 - 6 พันบาท"
เราฟังแล้วรู้สึกว่าการกระทำเช่นนี้เป็นเรื่องที่น่าละอายใจ เที่ยวกันสนุกแต่ใช้ทรัพยากรที่เป็นของส่วนรวม แต่ที่เค้าพูดไม่ได้รู้สึกถึงความละอาย กระดากใจซักนิด ทำให้เรารู้สึกว่าหรือว่าเราโง่ทีทำแบบนี้ไม่ได้ หรือเรามีความละอายจนไม่กล้าทำ
เลยทำให้ต้องนั่งกลับมาคิดว่า ทำไมใครๆจึงอยากได้เป็นนักการเมือง ไม่ว่าระดับไหน แต่ที่บอกเล่านี้ไม่ได้หมายความว่านักการเมืองทุกคนเป็นหลอกนะ เพราะคนดีก็มี หากเป็นคนดีไม่ต้องร้อนตัวเพราะอย่าไปใส่ใจเสียงนก กาที่ไม่ประสีประสามาค่อนแคะ
ในหลวงยังมีพระราชดำรัส "ในบ้านเมืองมีทั้งคนดีและคนไม่ดี"
ขอน้อมรับใส่เกล้าใส่กระหม่อมไว้ตลอดไปเพื่อจะปรับใช้กับทุกสังคมที่ก้าวไปเจอ
สวัสดีค่ะอาจารย์เบียร์
มาส่งความสุขปีใหม่...ปีหนูดีมิกกี้เมาส์ค่ะ
ขอให้มีพลังกายพลังใจในการทำวิทยานิพนธ์นะคะ ให้เรียนจบอย่างมีความสุข...ตามเป้าหมาย...ในระยะเวลาที่ตั้งใจไว้ค่ะ
มีโอกาสคงได้ชวนกันไปทำบุญแหมน้อ...