หลังจากที่ตื่นขึ้นมาด้วยความหิว แล้วก็เพิ่งรู้ตัวว่าไม่มีอะไรที่กินได้เลยนอกจากยาในกระเป๋า ก็เลยเดินลงไปคุยกับแผนกต้อนรับ โดยเลือกที่จะคุยกับพนักงานคนเอเชีย โดยหวังว่าจะเข้าใจง่ายกว่า เพราะเธอเป็นคนจีน ถึงผมจะได้คะแนน TOEFL มา 500 ผมก็ยังฟังและพูดได้ไม่ดีนัก คุยกับเอเชีย ด้วยสำเนืองคุ้นเคย ดีกว่าคุยกับฝรั่ง แล้วไม่รู้เรื่อง ขายหน้าตายเลย คุยไปคุยมาก็ ได้รู้ว่าซุปเปอร์มาเก็ต ที่ดังๆที่นี่ชื่อ SAFEWAY และอยู่ใกลัแค่นิดเดียว ร้านขาย SIM มือถือของ OPTUS ก็ไม่ไกล เหมาะเจาะจริงๆ
หลังจากนั้นผมก็เริ่มออกสำรวจ Le Student 8 ซึ่งเป็นโรงแรมที่ผมจะต้องอยู่อาศัยไปอีกหลายวัน สุดยอดจริงๆที่นี่ทุกอย่างสามารถใช้ได้หมดเลย ทั่งฟิตเนต และสระว่ายน้ำ ห้องพักก็ดีมากๆ มีทั้งฮีตเตอร์ แอร์ DVD TV น้ำไฟใช้เท่าไหร่ก็ได้ ที่ตั้งก็ดี อยู่ ไม่ไกลจากป้าย Tram ใกล้ตลาดนิดเดียวเอง แต่ของดีก็แพงเป็นเรื่องปรกติ ที่นี่ราคา $220/w สุดๆแห่งความแพงไปเลย
SAFEWAY เป็นซุปเปอร์แบบเดียวกับ LOTUS บ้านเราเลย แค่เล็กกว่าหน่อย มีชั้นเดียว อาหารเอเชียก็มีขายบะหมีกึ่งสำเร็จรูปจาก เกาหลี และมาเลเชีย ราคาก็ไม่แพง เริ่มต้นที่ $0.25 ไปจนถึง $0.50 ผักผลไม้ ส่วนใหญ่ก็เป็นผลไม่หน้าตาแปลกๆไม่รู้จัก แต่ก็ยังมี กล้วยกับทุเรียนแอบขายอยู่ด้วยราคาที่แพงมาก ผักผลไม้ที่นี่ไม่ต้องชั่งน้ำหนักก่อนไปคิดเงินแบบบ้านเรา เค้าเดินถือไปคิดเงินได้เลยเพราะที่ชั่งน้ำหนักจะอยู่ที่พนังงานเก็บเงินเลย ตอนแรกก็ยังงงไม่กล้าซื้อแต่ก็ได้มารู้ตอนไปคิดเงินนี้นะแอบมองจากคนข้างหน้า วันแรกนี้เลยได้แต่ซื้อบะหมีหลายห่อ กับใส้กรอก เอามากินประทังชีวิตไปเสียก่อน
<p>ออกมากะว่าจะมาซื้อ SIM มือถือ แต่ปรากฏว่า ร้านปิดไปแล้ว 5 โมงเย็นเอง ที่นี่หลัง 5 โมงเงียบมากกกก ไม่มีคนเลย ร้านค้าปิดหมดแล้ว เลยต้องโทรกลับบ้านด้วย โทรศัพท์สาธาณะไปบอกแม่ว่า สุขสบายดี เดินทางโดยสวัสดิภาพ ระหว่างทางกลับห้อง ก็เจอฝรั่งแก่ๆ แต่งตังโทรมๆ แล้วก็หน้าตาเหมือนจะเมา ตะโกนมาว่า “I don’t like you” โดนเสียแล้วตั้งแต่วันแรกเลยหรือเรานี่ อะไรจะซวยขนาดนั้น รู้ๆอยู่ว่า คนฝรั่งที่นี่ไม่ชอบเอเชีย แต่ก็ไม่นึกว่าจะโดนเสียแต่วันแรกเลยเรา ทำเอางงๆ หน้าบูดอารมณ์เสียกลับห้องไปเลย</p><p> </p><p> </p>
ตั้งแต่วันแรกเลยนะครับ---โดน
“I don’t like you”
ให้คำๆนี้ลอยลมออกไปนะครับ...เขาเปล่งเสียงออกมาท่าทางคงทุกข์หนัก จนระเบิด ช่างน่าสงสาร
----------------------
ที่บรรยายมาเข้าใจความรู้สึกแบบนี้ดีครับ ถึงแม้ไม่เคยไปเมืองนอกเพื่อไปเรียนมาก่อน
หากแต่ยังนั่งเขียนบันทึกแลกเปลี่ยนกับคนไทยได้ ผมก็คิดว่านี่เองก็พออุ่นใจที่ได้พูดคุยกัน
อดทนและตั้งใจทำภารกิจนะครับ
ให้กำลังใจ สู้ๆ
สวัสดีครับ
ไล่ตามอ่านมาตั้งแต่ตอนแรกเลยครับ น่าติดตามดีว่ามีอะไรน่าสนใจที่ออสเตรเลีย พอย้อนอ่านไปจึงทราบว่าเรียนอยู่ ๑ ปีแล้วใช่ไหมครับ คราวนี้ภาษาคงปร๋อไปแล้ว การปรับตัวก็คงสบายมาก ใช้เวลาเรียนนานไหมครับ