ในการแบ่งเขตการปกครองระดับท้องถิ่นของประเทศพม่านั้น ได้มีการเปลี่ยนแปลงกันเรื่อยมานับแต่อดีต จากสมัยราชวงศ์ สมัยอังกฤษ สมัยญี่ปุ่น สมัยเอกราช และสมัยสังคมนิยม จนถึงปัจจุบันสหภาพพม่าประกอบด้วย ๑๔ เขตการปกครอง แบ่งเป็น ๗ มณฑล
รัฐและมณฑล
ในการแบ่งเขตการปกครองระดับท้องถิ่นของประเทศพม่านั้น
ได้มีการเปลี่ยนแปลงกันเรื่อยมานับแต่อดีต จากสมัยราชวงศ์ สมัยอังกฤษ
สมัยญี่ปุ่น สมัยเอกราช และสมัยสังคมนิยม
จนถึงปัจจุบันสหภาพพม่าประกอบด้วย ๑๔ เขตการปกครอง แบ่งเป็น ๗ มณฑล
หรือ ตาย(96b'Nt) และ ๗ รัฐ หรือ
ปะหยี่แหน่(exPNopN)
โดยแต่ละมณฑลและรัฐจัดลำดับหน่วยการปกครองท้องถิ่นจากใหญ่ไปเล็ก คือ
ขะหย่าย (-U6b'N) มโยะแหน่(1,bhopN)
ยะแกวะ(ixNd:dN) และ ย-หว่า (U:k)
กล่าวคือเป็นจังหวัด/อำเภอ อำเภอ/ตำบล เขต(ย่าน) และหมู่บ้านตามลำดับ
ในจำนวนหน่วยการปกครองดังกล่าว
เรื่องน่าสนใจอยู่ที่ความเป็นมาของการใช้หน่วยการปกครองระดับ
ตาย และระดับ ขะหย่าย
ตาย
(96b'Nt) ซึ่งปัจจุบันคือมณฑล ภาค หรือ Division นั้น
เป็นคำเก่าที่ใช้มาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ กล่าวคือ
ประเทศพม่าเคยมีการเรียกพื้นที่ต่างๆเป็น ๘ ตาย ได้แก่
สุนาปรันตะ(l6okxioµ96b'Nt)อยู่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของแม่น้ำอิรวดี
ตัมปะทีปะ(9,»mux96b'Nt)อยู่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ของแม่น้ำอิรวดี
สีรีเขตตะรามะ(luiug-9µik,96b'Nt)อยู่ทางเมืองแปร
ไชยวัฒณะ(g=py;ÂI96b'Nt)อยู่แถบตองอู
รามัญญะ(ik,P96b'Nt)ประกอบด้วยพะสิม พะโคและเมาะตะมะ
สุวรรณภุมิ(l6;I³46,Áb96b'Nt)อยู่แถบเมืองสะเทิมซึ่งอาจเรียกว่าฉาน
๕๗ เมือง (ia,Nt *) 1,bh)
กัมโพจะ(dg,¾k=96b'Nt)อยู่ไปทางเขตฉานก่อนถึงตองจี
และเซ่ง(0b,NH96b'Nt)หรือเขตจีนจะอยู่ทางพะมอทางใต้ของเขตกะฉิ่นติดแดนจีนลงมาถึงโมเมะ(,6bt,b9N)ในเขตฉาน
ส่วนคำว่า ขะหย่าย(-U6b'N)นั้น
ในอดีตพบว่าใช้เรียกพื้นที่แถบเจ้าก์แซ ว่า แล-ตวีง ๙ ขะหย่าย
(]pN9:'Nt + -U6b'N) ส่วนในสมัยเจ้าญองยาง(gPk'Ni,Nt,'Nt9iktWdut)
เรียกเมืองเชียงใหม่ว่า ซีงแม ๕๗ ขะหย่าย (='Nt,pN *)
-U6b'N)เป็นต้น ขะหย่ายจึงหมายกลุ่มเมืองที่เรียกรวมกัน
แต่พอหลังยุคอังวะ-ญองยางแล้ว
การเรียกชื่อพื้นที่เป็นขะหยายก็ค่อยๆเลือนลางไป
ในยุคคองบอง มิปรากฎคำเรียก ตาย หรือ ขะหย่าย
อย่างไรก็ตามในปลายยุคคองบองสมัยเจ้าธีบอกลับมีการใช้ขะหย่ายสำหรับแบ่งเขตการปกครองราชอาณาจักรออกเป็น
๑๐ ขะหย่าย โดยไม่รวมเขตฉาน พร้อมกับมีการแต่งตั้งเจ้าขะหย่าย
(-U6b'N;oN) ไปปกครองพื้นที่ดังกล่าว อันได้แก่ ปฐมฐานะ(x5,{ko)
ทุติยฐานะ(m69bp{ko) ตติยฐานะ(99bp{ko) ตองดวีงจี(g9k'N9:'NtWdut)
เอ้าก์มยิจซีง(gvkdNe,0N0fN) ปะคังจี(x6-oNtWdut)
ชิงดวีง(-y'Nt9:'Nt) สะกาย(00Nd6b'Nt) สิงฆะ(lbS§)
อะญามยิจซีง(vPke,0N0fN)
พอในสมัยอาณานิคมอังกฤษ
มีการแบ่งแผ่นดินพม่าเป็นพม่าตอนบน(v5dNe,oN,kexPN)
และพม่าตอนล่าง(gvkdNe,oN,kexPN)โดยแบ่งเขตพม่าแต่ละตอนออกเป็นภาค(Division)ต่างๆ
กล่าวคือ พม่าตอนล่างหรือที่เรียกว่า
พม่าของอังกฤษ(wrb9blYe,oN,kexPN) นั้นแบ่งออกเป็น ๔ ภาค คือ
ภาคยะไข่(i-6b'N) ภาคตะนาวศรี(9ol§kiu) ภาคพะโค(xc-^t)
และภาคอิรวดี(Vik;9u) พออังกฤษยึดพม่าตอนบนได้แล้ว
จึงแบ่งเขตปกครองพม่าตอนบนออกเป็น ๔ ภาค คือ ส่วนเหนือ(ge,kdNx6b'Nt)
ส่วนกลาง(v]pNx6b'Nt) ส่วนใต้(g9k'Nx6b'Nt)
และส่วนตะวันออก(vgiahx6b'Nt) โดยไม่นับรวมเขตฉาน ต่อมาในปี ค.ศ.
๑๘๙๗ จึงเปลี่ยนชื่อภาคพม่าตอนบนเป็น ภาคมัณฑะเล(,Oµg]t)
ภาคสะกาย(00Nd6b'Nt) ภาคมะเกว(,gd:t) และภาคมิตถิลา(,b9¶u]k)
ตามลำดับ ดังนั้นในสมัยอาณานิคมอังกฤษพม่าจึงแบ่งพื้นที่การปกครองเป็น
๘ ภาคดังกล่าว
ในแต่ละภาคจะแบ่งเขตย่อยๆเป็นอำเภอ(District)
โดยผู้ปกครองในระดับภาคเรียกว่า Division Commissioner หรือ
ข้าหลวง และในระดับอำเภอเรียกว่า Deputy Commissioner หรือ ผู้ตรวจการ
(vgitx6b'N) อย่างไรก็ตาม สมัยนั้นอาจเทียบ Division เท่ากับ ขะหย่าย
ส่วนคำว่า ตาย นั้นยังไม่ได้มีการกำหนดใช้
คำว่า ตาย และ ขะหย่าย เพิ่งมีการใช้ในสมัยฟาสซิสต์ญี่ปุ่น
โดยในปี ค.ศ. ๑๙๔๔ มีการประกาศเขตการปกครองประเทศพม่าเป็น ๔ ตาย หรือ
มณฑล ได้แก่ มณฑลอุดร(f9µi96b'Nt) มณฑลประจิม(x0b©,96b'Nt)
มณฑลทักษิณ(md¢bI96b'Nt) และมณฑลกัมโพชะ(dg,¾k=96b'Nt)
โดยแต่ละมณฑลจะแบ่งพื้นที่ย่อยออกเป็นขะหย่าย
ภายหลังที่พม่าได้รับเอกราช ได้มีการแบ่งเขตเป็น ๘ มณฑล ได้แก่
มณฑลมัณฑะเล(,Oµg]t) มณฑลสะกาย(00Nd6b'Nt) มณฑลมะเกว(,gd:t)
มณฑลมิตถิลา(,b9¶u]k) มณฑลพะโค(xc-^t) มณฑลอิรวดี(Vik;9u)
มณฑลยะไข่(i-6b'N) มณฑลตะนาวศรี(9ol§iu) และเขตพิเศษฉิ่น(-y'Nt)
แต่ละ ตาย ประกอบด้วย ขะหย่าย ในตอนนี้ตายจึงเทียบได้กับ Division
ส่วน ขะหย่าย เทียบได้กับ District
ของสมัยอาณานิคมอังกฤษ
ในสมัยสังคมนิยม มีการยกเลิกขะหย่ายเมื่อปี ค.ศ. ๑๙๗๒
แต่กำหนดเป็นมโยะแน(1,bhopN)ซึ่งแปลว่า township แทน
แต่มาถึงสมัยรัฐบาลทหารชุดปัจจุบัน
กลับหันมาใช้ขะหย่ายดังแต่ก่อน โดยแต่ละขะหย่ายจะประกอบด้วยมโยะแน
และแต่ละมโยะแนประกอบด้วยหมู่บ้าน โดยสรุป ตาย : ขะหย่าย : มะโยะแน :
ย-หว่า อาจเทียบได้กับมณฑล : จังหวัด : อำเภอ : หมู่บ้าน หรือ มณฑล :
อำเภอ : ตำบล : หมู่บ้าน ตามแต่จะเลือกเทียบเอา
ส่วนภาษาอังกฤษนั้นจะใช้ว่า Division : District : township : village
ตามลำดับ
ตอนที่พม่าได้รับเอกราชนั้น พม่ามี ตาย ๘ มณฑล กับรัฐเพียง ๔
รัฐ ที่เป็นตายได้แก่ มณฑลสะกาย(00Nd6b'Nt96b'Nt)
มณฑลมัณฑะเล(,Oµg]t96b'Nt)
มณฑลมะเกว(,gd:t96b'Nt)มณฑลพะโค(xc-^t96b'Nt)
มณฑลเอยาวดี(Vik;9u96b'Nt)
มณฑลตะนาวศรี(9ol§kiu96b'Nt)มณฑลยะไข่(i-6b'N96b'Nt)
และมณฑลพิเศษฉิ่น(-y'Nt;bgll96b'Nt)
ส่วนที่เป็นรัฐ(exPNopN)นั้น ได้แก่ รัฐกะฉิ่น(d-y'NexPNopN)
รัฐฉาน(ia,NtexPNopN) รัฐคะยา(dpktexPNopN)
และรัฐกะเหรี่ยง(di'NexPNopN)
รัฐกระเหรี่ยงเคยใช้ชื่อว่ารัฐก่อทูเล(gdkNl^tg])
ก่อนเปลี่ยนชื่อภายหลัง
ต่อมาในปี ค.ศ. ๑๙๗๔ รัฐธรรมนูญฉบับสังคมนิยม ได้กำหนดให้มี ๗ มณฑล
และ ๗ รัฐ โดย แยกมณฑลพะโคด้านใต้ให้เป็นมณฑลย่างกุ้ง(ioNd6oN96b'Nt)
ยกระดับมณฑลพิเศษฉิ่นให้เป็นรัฐฉิ่น(-y'NtexPNopN)
เปลี่ยนมณฑลยะไข่ให้เป็นรัฐยะไข่(i-6b'NexPNopN)
และกำหนดให้มณฑลตะนาวศรีตอนบนให้เป็นรัฐมอญ(,:oNexPNopN)
ส่วนมณฑลตะนาวศรีตอนล่างนั้นให้คงเป็นมณฑลตะนาวศรีดังเดิม
ปัจจุบันประเทศสหภาพพม่าจึงประกอบด้วย ๑๔ เขตการปกครอง
แบ่งเป็นมณฑล(ตาย) ๗ มณฑล และรัฐ(ปะหยี่แหน่) ๗ รัฐ ได้แก่
มณฑลสะกาย(00Nd6b'Nt) มณฑลมัณฑะเล(,Oµg]t) มณฑลมะเกว(,gd:t)
มณฑลพะโค(xc-^t) มณฑลย่างกุ้ง(ioNd6oN) มณฑลอิรวดี(Vik;9u)
มณฑลตะนาวศรี(9ol§kiu) ส่วนรัฐได้แก่ รัฐกะฉิ่น(d-y'N)คะยา(dpkt)
รัฐกะเหรี่ยง(di'N) รัฐฉิ่น(-y'Nt) รัฐมอญ(,:oN) รัฐยะไข่(i-6b'N)
และรัฐฉาน(ia,Nt) และบนผืนธงชาติของพม่าก็ประกอบด้วยดาว ๑๔
ดาวในขนาดเสมอกัน เพื่อแสดงถึงเขตการปกครองทั้ง ๑๔ เขตดังกล่าว
วิรัช
นิยมธรรม