ในอดีตเมืองสำคัญของพม่าที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจมีอยู่ ๓ เมือง คือ ย่างกุ้ง ,มัณฑะเล,และเมาะลำไย
เมืองใหญ่
ในอดีตเมืองสำคัญของพม่าที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจมีอยู่
๓ เมือง คือ ย่างกุ้ง (ioNd6oN) มัณฑะเล (,oµg]t)
และเมาะลำไย(g,kN]1,b'N)พม่ามีคำกล่าวอยู่ว่า
หากเอ่ยถึงอาหารต้องเมืองเมาะลำไย (g,kN]1,b'N v0kt)
หากเอ่ยถึงภาษาต้องเมืองมัณฑะเล (,oµg]t 0dkt)
และหากเอ่ยถึงความหรูหราน่าโอ้อวดก็ต้องเมืองย่างกุ้ง (ioNd6oN
vEd:kt) ย่างกุ้งเป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองใหญ่ลำดับหนึ่ง
รองลงมาคือมัณฑะเล และเมาะลำไยตามลำดับ
เมืองเมาะลำไย(Mawlamyine) หรือที่ไทยเคยเรียกว่า เมาะลำเลิง
หรือที่ฝรั่งเรียกว่า เมาะละแหม่ง(moulmein) นั้น
เป็นเมืองท่าสำคัญของพม่ามาตั้งแต่ยุคอาณานิคม
คือตั้งแต่อังกฤษยึดครองพื้นที่ตอนล่างของพม่าหลังสงครามพม่า-อังกฤษครั้งแรก
(ค.ศ.๑๘๒๔)
เมาะลำไยจึงเป็นเมืองหนึ่งที่ได้รับความเจริญแบบตะวันตกในช่วงแรกของยุคอาณานิคม
ส่วนเหตุที่เมาะลำไยมีชื่อเสียงด้านอาหารการกินนั้น
ก็เพราะเป็นเมืองท่าเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมทะเล
จึงมีอาหารทะเลให้เลือกมาก และเป็นชุมทางของสินค้าทางเรือ
อีกทั้งเมาะลำไยยังขึ้นชื่อว่ามีผลไม้รสดี
และยังเคยมีชื่อว่าเป็นเมืองสาวงาม เมาะลำไยมีอากาศดีและอาหารดี
ชาวเมืองเมาะลำไยมีทั้งพม่า มอญ ยะไข่ กะเหรี่ยง ปะโอ ชาน แขก และจีน
แต่ใช้ภาษาพม่าเป็นภาษากลาง
สำเนียงพูดของชาวพม่าจากเมาะลำไยอาจหาฟังได้ไม่ยากหากไปเยือนแม่สอด
มัณฑะเล(Mandalay)เป็นราชธานีเมื่อปี ค.ศ. ๑๘๕๗ ในสมัยพระเจ้ามินดง
และเป็นราชธานีสุดท้ายก่อนสิ้นยุคราชวงศ์ของพม่า
ชาวพม่าถือว่าสำเนียงมัณฑะเลเป็นสำเนียงภาษาพม่าที่แท้และดั้งเดิม
เพราะมัณฑะเลอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับราชธานีโบราณอื่นๆของพม่า อาทิ
พุกาม อังวะ รัตนะสิงฆ์(ชเวโบ) และอมรปุระ
ในอดีตชาวมัณฑะเลไม่ค่อยมีคนต่างเผ่าเข้ามาอาศัยปะปนมากนัก
แต่พอมัณฑะเลขยายตัวในฐานะศูนย์กลางทางการค้าและการคมนาคมของพม่าตอนเหนือ
คนมัณฑะเลจึงเริ่มพูดกันหลายสำเนียง
และมีจำนวนไม่น้อยที่พูดภาษาพม่าไม่ชัดด้วยซ้ำ
มัณฑะเลจึงเริ่มกลายเป็นชุมชนของชนหลายชาติพันธุ์
เหตุนี้คำกล่าวที่ว่าสำเนียงมัณฑะเลเป็นสำเนียงพม่าขนานแท้จึงเริ่มลดความขลังลงไปมาก
ส่วนย่างกุ้ง(Yangon)นั้นเป็นเมืองหลวงของพม่า
และเป็นศูนย์กลางทางการปกครอง เศรษฐกิจ การศึกษา
และเทคโนโลยีสมัยใหม่มาตั้งแต่สมัยอาณานิคม (ค.ศ.๑๘๕๒–๑๙๔๘)
สิ่งแปลกใหม่จึงเข้าสู่พม่าผ่านย่างกุ้ง
และสินค้าจากท้องถิ่นต่างๆของพม่าก็ไหลเวียนมารวมตัวอยู่ ณ
ย่างกุ้งก่อนจะกระจายไปยังพื้นที่อื่นหรือส่งยังต่างประเทศ
และแม้แต่ผู้ยึดอาชีพทางศิลปะการแสดงสาขาต่างๆต่างมุ่งหน้ามาทำมาหากินกันที่ย่างกุ้ง
ย่างกุ้งจึงเปรียบเป็นหัวใจของแผ่นดินพม่า
มีผู้ตั้งข้อสังเกตุว่าก่อนที่พระเจ้าอลองพญาของพม่าจะยึดย่างกุ้งได้ในปี
ค.ศ. ๑๗๕๕ ชาวย่างกุ้งน่าจะพูดภาษามอญเป็นหลักมาก่อน
และหลังจากที่อังกฤษเข้ายึดครองย่างกุ้งในปี ค.ศ. ๑๘๕๒
ภาษาย่างกุ้งซึ่งอยู่ในพื้นที่ตอนล่างจึงค่อยๆยกระดับเป็นสำเนียงมาตรฐานข่มชาวมัณฑะเลเจ้าของสำเนียงพม่าดั้งเดิม
ปัจจุบันสำเนียงมัณฑะเลจึงเป็นเพียงสำเนียงชาวบ้านสำเนียงหนึ่ง
ในขณะที่สำเนียงย่างกุ้งที่เชื่อว่าปนน้ำเสียงมอญนั้นได้กลายเป็นสำเนียงชาวเมืองแทน
อย่างไรก็ตาม ชาวมัณฑะเลมักภาคภูมิใจและนิยมในท้องถิ่นตน
บ้างมองว่าชาวย่างกุ้งขี้อวด ชอบทำตัวนำสมัย ใช้ของฟุ่มเฟือย
ต่างจากมัณฑะเลที่มีสายเลือดพม่าแท้ๆ มีสำเนียงไพเราะนุ่มนวล
สุภาพอ่อนโยน ช่างโอภาปราศรัย ไม่พูดห้วนอย่างคนย่างกุ้ง
ที่เป็นเมืองสุมผู้คนไร้หลักแหล่ง (xy"dy1,bh) จึงยุ่งเหยิง
คนมักแล้งน้ำใจ
บ้างว่าคนย่างกุ้งเอาแต่แต่งตัวและปล่อยบ้านช่องให้รกรุงรัง
อย่างไรก็ตามขณะนี้ต่างยอมรับกันว่ามัณฑะเลก็เริ่มจะมีสภาพไม่ต่างไปจากย่างกุ้งมากขึ้นเรื่อยๆเพราะคนต่างถิ่นต่างเผ่าเข้ามาอาศัย
กระนั้นก็ภูมิใจที่มัณฑะเลคือเมืองแห่งราชสำนักในอดีต
ส่วนชาวย่างกุ้งอาจภูมิใจว่าเป็นเมืองแห่งความทันสมัย
และเมาะลำไยนั้นคือประตูสู่ทักษิณที่ยังมีชื่อด้านอาหารการกินเช่นเดิม
หากถามว่าสิ่งใดคือเอกลักษณ์ท้องถิ่นของเมืองอื่นๆในพม่าบ้างเล่า
ชาวพม่าอาจจะเคยนึกถึงเจดีย์และพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองเป็นลำดับแรก
แต่หลังจากที่พม่าเปลี่ยนวิถีเศรษฐกิจจากระบบสังคมนิยมมาเป็นระบบตลาด
พร้อมกับได้มีความพยายามพัฒนาการเกษตร การชลประทาน การคมนาคมขนส่ง
ตลอดจนความปลอดภัยในชีวิต
ผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่นจึงถูกกล่าวถึงไม่แพ้ศาสนสถาน
ทั้งนี้เพราะระบบตลาดเปิดซึ่งมิได้ผูกขาดโดยรัฐอีกต่อไปและการคมนาคมที่สะดวกขึ้นกว่าเดิมได้ทำให้การค้าในระดับท้องถิ่นมีการขยายตัวมากขึ้น
หลายเมืองกลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจด้วยภาพลักษณ์ของสินค้าท้องถิ่นที่แตกต่างกันไป
สินค้าท้องถิ่นที่ส่งขายไปทั่วประเทศได้ทำให้เมืองต่างๆมีเอกลักษณ์ของตัว
อาทิ ย่าม(]:pNvb9N)จากตองจี, โสร่ง(x6C6bt)จากเมืองยอและยะไข่,
รองเท้า(zboxN)จากมัณฑะเล, ร่ม(5ut)จากพะสิม
แป้งตะนาคา(loxN-jt)จากชเวโบและฉี่งมะตอง,
กะปิปลาร้า('jtxb)และน้ำปลา('"exkiPN)จากมะริด ทะวาย และยะไข่,
ทุเรียน(m^ti'Nt) เงาะ(EddNg,kdNlut) และมังคุด(,'Nt8:9N)
จากเมาะลำไย, มะม่วงอกร่อง(i'Nd:c)จากมัณฑะเล,
กล้วยหอม(lutg,;t)จากตองอู, น้อยหน่า(El=klut)จากหม่อซาที่เมืองแปร,
สับปะรด(oko9N)จากมะเย่าก์อูที่รัฐยะไข่,
ส้ม(]bg,ÁkN)จากอ่องปาง(gvk'NxoNt)ที่เมืองตองจี,
มะเขือเทศจากทะเลสาปอีงเลในรัฐฉาน, ส้มโอ
(dc°gdklut)จากไต้จี(96bdNEdut)ในภาคย่างกุ้งและเมืองเมาะลำไย,
แตงโม(ziclut)จากได้อู(m6bdNFt)ในภาคพะโค เป็นต้น
ปัจจุบัน
สินค้าท้องถิ่นจึงช่วยให้เมืองหลายเมืองมีชื่อในทางเศรษฐกิจ
และสินค้าท้องถิ่นที่เห็นวางจำหน่ายในพม่านั้น
ก็บอกถึงแหล่งผลิตและเส้นทางขนส่งที่โยงใยเมืองสำคัญไว้ และที่น่าสนใจ
เอกลักษณ์ท้องถิ่นของเมืองต่างๆในพม่าได้รวมเอาสินค้าจากท้องถิ่นไว้ด้วย
นอกเหนือจากเจดีย์และพระพุทธรูปสำคัญ
วิรัช นิยมธรรม