ร่มและฉัตร
ในภาษาพม่าคำเรียก ร่ม และ ฉัตร ใช้รากคำเดียวกันว่า ที ( 5ut X คำนี้จึงหมายถึงร่มกันแดดกันฝนธรรมดาก็ได้ หรือหมายถึงเครื่องสูงที่ใช้บอกฐานะหรือบรรดาศักดิ์ และยังหมายถึงเครื่องประดับที่อยู่บนส่วนยอดของพระเจดีย์ได้ด้วย
ในอดีตพม่ามีกษัตริย์ปกครองบ้านเมือง และสิ่งที่แสดงเครื่องหมายแห่งความเป็นพระเจ้าแผ่นดินก็คือที-ผยู่(5utez& X แปลว่า “ ร่มขาว” สำหรับขุนนางก็จะมีฉัตรแสดงบรรดาศักดิ์ อาทิ ขุนนางชั้นสูงจะมีฉัตรแดงเป็นเกียรติยศ เป็นต้น พม่าถือว่าเสวตฉัตรเป็นสิ่งคู่กับองค์พระมหากษัตริย์ ราชบัลลังก์ที่ไร้ฉัตรจึงหมายถึงการหมดสิ้นแห่งอำนาจและบารมี ดังตอนที่ราชวงศ์ของพม่าล่มสลายด้วยการยึดครองของอังกฤษเมื่อปี ค.ศ . ๑๘๘๕ นั้น พม่าถึงกับเปรียบการสิ้นสุดของระบบกษัตริย์ครั้งนั้นว่า ฉัตรหัก หรือ ทีโจ ( 5utdy7bt X อย่างไรก็ตาม แม้พม่าจะไม่มีสถาบันกษัตริย์อีกแล้ว แต่พม่ายังคงมีการใช้ฉัตรขาวเป็นเครื่องบ่งบอกบรรดาศักดิ์ของพระสงฆ์
สำหรับฉัตรที่ประดับยอดพระเจดีย์แบบพม่านั้น เรียกว่า พระฉัตร หรือ ทีด่อ ( 5utg9kN X เจดีย์แบบพม่าจะต้องมีฉัตร และในการสร้างเจดีย์จะมีการทำพิธีอัญเชิญพระฉัตร ซึ่งถือเป็นพิธีสำคัญและจะต้องกระทำเป็นลำดับสุดท้าย ดังเมื่อเดือนเมษายนของปี พ.ศ.๒๕๔๒ รัฐบาลพม่าได้จัดงานขึ้นฉัตรใหม่สำหรับเจดีย์ชเวดากองซึ่งเป็นงานยกฉัตรที่ยิ่งใหญ่ ด้วยว่างเว้นมานานนับแต่สมัยพระเจ้ามินดง รัฐบาลพม่าจัดงานนี้อย่างเอิกเกริก โดยใช้เวลาเตรียมงานหลายเดือนและใช้เวลาเพื่ออัญเชิญพระฉัตรถึง ๓ วัน และยังจัดงานฉลองพระฉัตรอีกนับ ๑; วัน นับเป็นงานหลวงที่สามารถเรียกศรัทธาจากชาวพุทธพม่าทั่วประเทศได้มาก ในพิธีมีผู้คนมาร่วมบริจาคแก้วแหวนเงินทองสำหรับประดับพระฉัตรกันมากมาย จนของบริจาคมากล้นเหลือ เลยต้องนำไปจัดเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์เสียส่วนหนึ่ง
พม่าถือว่าฉัตรที่ยอดพระเจดีย์เป็นดุจร่มที่กางกั้นเจดีย์ให้บังเกิดความร่มเย็น ชาวพม่ายังเชื่ออีกว่า การบูชาด้วยฉัตรเป็นการทำบุญที่ได้กุศลมากกว่าการทำบุญอื่นใด จึงเชื่อว่าหากมีวาสนาได้ถวายพระฉัตรแด่องค์พระเจดีย์ ชีวิตก็จะมีแต่ความร่มเย็นและประสบแต่ความสำเร็จ ทุกวันนี้ชาวพม่ายังนิยมถวายฉัตรแด่องค์เจดีย์ในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมิใช่เป็นฉัตรเงินหรือฉัตรทองแท้ๆ ฉัตรแบบนี้จะทำด้วยกระดาษสีเงิน สีทอง สีขาว สีเหลือง หรือสีเขียว ซึ่งมีจำหน่ายที่ร้านค้าแถวองค์เจดีย์ สีของฉัตรต่างมีความหมาย หากเป็นสีทองหรือสีเงินจะแสดงถึงความมั่งมี แต่ถ้าเป็นสีขาวจะแสดงถึงความสงบสุข เป็นต้น ชาวพุทธพม่านิยมบูชาพระเจดีย์ด้วยฉัตรประเภทนี้ เพื่อแก้เคล็ดหรือสะเดาะเคราะห์ ดังกรณีที่ประสบเคราะห์ร้าย ชาวพุทธพม่ามักจะต้องถวายฉัตรกระดาษแด่พระเจดีย์และในการตั้งเครื่องหมู่บูชาพระเจดีย์ ซึ่งพม่าเรียกว่า กเดาะ-บแว ( doNg9kHx:c X มักจะต้องปักฉัตรไว้ในสำรับบูชานั้นด้วย เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้พรที่ขอเกิดผลสัมฤทธิ์ ( ตามคติของพม่านั้น เครื่องบูชาที่มีฉัตรประดับจะถือว่าป็นเครื่องบูชาในฝ่ายศาสนา ต่างจากการบูชาเทพนัต ซึ่งชาวพม่าไม่นิยมใช้ฉัตรมาประกอบเครื่องบูชา ) การถวายฉัตรที่ทำด้วยกระดาษนี้ จึงต่างไปจากการถวายพระฉัตรสำหรับยอดพระเจดีย์ที่ทำเพื่อสืบพระศาสนาหรือเพื่อเป็นพุทธบูชา แต่การถวายฉัตรกระดาษสี จะเป็นเพื่อการขอความคุ้มครองและเพื่อความสงบสุขในชีวิตสำหรับผู้ถวาย
ฉัตรจึงถูกใช้ในหลายหน้าที่ เป็นทั้งเครื่องแสดงฐานะของกษัตริย์ เครื่องบ่งบอกยศศักดิ์ของขุนนางชั้นสูงเครื่องแสดงเกียรติยศสำหรับพระสงฆ์ และเป็นเครื่องประดับยอดพระเจดีย์ ตลอดจนนิยมใช้ฉัตรประกอบเครื่องบูชาสำหรับพิธีสะเดาะเคราะห์และขอพร การที่พม่าพัฒนาการถวายฉัตรแด่องค์พระเจดีย์มาจนถึงขั้นนี้ อาจเป็นเพราะฉัตรเป็นเครื่องหมายแห่งอำนาจและบุญบารมี อันจะนำมาซึ่งความมั่งมีและความร่มเย็นในชีวิต ซึ่งเป็นโลกียสุขที่ปุถุชนต่างปรารถนา
คราวนี้ลองหันมาดูร่มธรรมดาที่ใช้กันแดดกันฝนกันบ้าง คนพม่ามักจะพกร่มโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ร่มจึงเป็นสินค้าที่ขายได้ดี อันที่จริงชาวพม่าต่างนิยมใช้ร่มที่ทำด้วยกระดาษหรือผ้าดิบกันมาแต่อดีต ร่มพม่าที่ขึ้นชื่อที่สุดเป็นร่มที่มาจากเมืองพระสิมหรือที่พม่าเรียกว่าเมืองปะเต่ง ร่มพระสิมมีรูปลักษณ์ สีสัน และลวดลายออกจะคล้ายกับร่มที่บ่อสร้างของเชียงใหม่ และนิยมซื้อกันเป็นที่ระลึกหรือของฝาก และใช้เป็นเครื่องประดับมากกว่าที่จะใช้กันแดดกันฝนกันจริงๆ
พอถึงยุคปัจจุบัน ร่มที่นิยมกันมากกลายเป็นร่มผ้า ซึ่งจะมีสีสันและลวดลายหลากหลาย ร่มรุ่นใหม่นี้มักผลิตในนามบริษัทต่างประเทศ อาทิ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น และไทย มีทั้งการนำเข้าและตั้งเป็นโรงงานผลิตในพม่า ร่มที่นิยมกันมากเป็นร่มพับ เพราะสะดวกต่อการพกพา ตลาดร่มในพม่าขณะนี้ จึงมีการแข่งขันกันสูง มีการโฆษณาทางสื่อหลายชนิด รวมทั้งทางโทรทัศน์ และยังมีการนำดาราชื่อดังมาแสดงเป็นแบบอีกด้วย
พม่าใช้ร่มกันมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะพกพาได้สะดวก และสามารถกันได้ทั้งแดดและฝน ไม่เพียงแค่นี้ หากเดินในสวนสาธารณะหรือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในเมืองย่างกุ้ง มักจะพบหนุ่มสาวมานั่งกางร่มอิงแอบกันเป็นคู่ๆอยู่แถวใต้ร่มไม้ ปรากฏการณ์ที่หนุ่มสาวพม่ามานั่งกางร่มทั้งที่แดดไม่ร้อนและฝนไม่ตกในสวนสาธารณะได้กลายเป็นภาพชินตา แม้จะดูขัดต่อจารีตนิยมของพม่า แต่ร่มก็ถูกนำมาใช้เพื่อบังสายตาผู้คนมิให้เห็นโจ่งแจ้งจนเกินงาม
นับว่าชาวพม่าเป็นนักประยุกต์นิยม สามารถประยุกต์ฉัตรซึ่งเป็นเครื่องหมายแห่งอำนาจ เกียรติยศ และความร่มเย็น มาเป็นเครื่องประกอบบูชาเพื่อการสะเดาะเคราะห์และขอพรอย่างเข้าที และยังประยุกต์การใช้ร่มซึ่งใช้กันแดดกันฝนมาใช้กำบังสายตาผู้คน เพื่อระงับความอายได้อย่างไม่ใยดีต่อจารีตประเพณี
วิรัช นิยมธรรม
ในภาษาพม่าคำเรียก ร่ม และ ฉัตร ใช้รากคำเดียวกันว่า ที ( 5ut X คำนี้จึงหมายถึงร่มกันแดดกันฝนธรรมดาก็ได้ หรือหมายถึงเครื่องสูงที่ใช้บอกฐานะหรือบรรดาศักดิ์ และยังหมายถึงเครื่องประดับที่อยู่บนส่วนยอดของพระเจดีย์ได้ด้วย
ในอดีตพม่ามีกษัตริย์ปกครองบ้านเมือง และสิ่งที่แสดงเครื่องหมายแห่งความเป็นพระเจ้าแผ่นดินก็คือที-ผยู่(5utez& X แปลว่า “ ร่มขาว” สำหรับขุนนางก็จะมีฉัตรแสดงบรรดาศักดิ์ อาทิ ขุนนางชั้นสูงจะมีฉัตรแดงเป็นเกียรติยศ เป็นต้น พม่าถือว่าเสวตฉัตรเป็นสิ่งคู่กับองค์พระมหากษัตริย์ ราชบัลลังก์ที่ไร้ฉัตรจึงหมายถึงการหมดสิ้นแห่งอำนาจและบารมี ดังตอนที่ราชวงศ์ของพม่าล่มสลายด้วยการยึดครองของอังกฤษเมื่อปี ค.ศ . ๑๘๘๕ นั้น พม่าถึงกับเปรียบการสิ้นสุดของระบบกษัตริย์ครั้งนั้นว่า ฉัตรหัก หรือ ทีโจ ( 5utdy7bt X อย่างไรก็ตาม แม้พม่าจะไม่มีสถาบันกษัตริย์อีกแล้ว แต่พม่ายังคงมีการใช้ฉัตรขาวเป็นเครื่องบ่งบอกบรรดาศักดิ์ของพระสงฆ์
สำหรับฉัตรที่ประดับยอดพระเจดีย์แบบพม่านั้น เรียกว่า พระฉัตร หรือ ทีด่อ ( 5utg9kN X เจดีย์แบบพม่าจะต้องมีฉัตร และในการสร้างเจดีย์จะมีการทำพิธีอัญเชิญพระฉัตร ซึ่งถือเป็นพิธีสำคัญและจะต้องกระทำเป็นลำดับสุดท้าย ดังเมื่อเดือนเมษายนของปี พ.ศ.๒๕๔๒ รัฐบาลพม่าได้จัดงานขึ้นฉัตรใหม่สำหรับเจดีย์ชเวดากองซึ่งเป็นงานยกฉัตรที่ยิ่งใหญ่ ด้วยว่างเว้นมานานนับแต่สมัยพระเจ้ามินดง รัฐบาลพม่าจัดงานนี้อย่างเอิกเกริก โดยใช้เวลาเตรียมงานหลายเดือนและใช้เวลาเพื่ออัญเชิญพระฉัตรถึง ๓ วัน และยังจัดงานฉลองพระฉัตรอีกนับ ๑; วัน นับเป็นงานหลวงที่สามารถเรียกศรัทธาจากชาวพุทธพม่าทั่วประเทศได้มาก ในพิธีมีผู้คนมาร่วมบริจาคแก้วแหวนเงินทองสำหรับประดับพระฉัตรกันมากมาย จนของบริจาคมากล้นเหลือ เลยต้องนำไปจัดเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์เสียส่วนหนึ่ง
พม่าถือว่าฉัตรที่ยอดพระเจดีย์เป็นดุจร่มที่กางกั้นเจดีย์ให้บังเกิดความร่มเย็น ชาวพม่ายังเชื่ออีกว่า การบูชาด้วยฉัตรเป็นการทำบุญที่ได้กุศลมากกว่าการทำบุญอื่นใด จึงเชื่อว่าหากมีวาสนาได้ถวายพระฉัตรแด่องค์พระเจดีย์ ชีวิตก็จะมีแต่ความร่มเย็นและประสบแต่ความสำเร็จ ทุกวันนี้ชาวพม่ายังนิยมถวายฉัตรแด่องค์เจดีย์ในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมิใช่เป็นฉัตรเงินหรือฉัตรทองแท้ๆ ฉัตรแบบนี้จะทำด้วยกระดาษสีเงิน สีทอง สีขาว สีเหลือง หรือสีเขียว ซึ่งมีจำหน่ายที่ร้านค้าแถวองค์เจดีย์ สีของฉัตรต่างมีความหมาย หากเป็นสีทองหรือสีเงินจะแสดงถึงความมั่งมี แต่ถ้าเป็นสีขาวจะแสดงถึงความสงบสุข เป็นต้น ชาวพุทธพม่านิยมบูชาพระเจดีย์ด้วยฉัตรประเภทนี้ เพื่อแก้เคล็ดหรือสะเดาะเคราะห์ ดังกรณีที่ประสบเคราะห์ร้าย ชาวพุทธพม่ามักจะต้องถวายฉัตรกระดาษแด่พระเจดีย์และในการตั้งเครื่องหมู่บูชาพระเจดีย์ ซึ่งพม่าเรียกว่า กเดาะ-บแว ( doNg9kHx:c X มักจะต้องปักฉัตรไว้ในสำรับบูชานั้นด้วย เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้พรที่ขอเกิดผลสัมฤทธิ์ ( ตามคติของพม่านั้น เครื่องบูชาที่มีฉัตรประดับจะถือว่าป็นเครื่องบูชาในฝ่ายศาสนา ต่างจากการบูชาเทพนัต ซึ่งชาวพม่าไม่นิยมใช้ฉัตรมาประกอบเครื่องบูชา ) การถวายฉัตรที่ทำด้วยกระดาษนี้ จึงต่างไปจากการถวายพระฉัตรสำหรับยอดพระเจดีย์ที่ทำเพื่อสืบพระศาสนาหรือเพื่อเป็นพุทธบูชา แต่การถวายฉัตรกระดาษสี จะเป็นเพื่อการขอความคุ้มครองและเพื่อความสงบสุขในชีวิตสำหรับผู้ถวาย
ฉัตรจึงถูกใช้ในหลายหน้าที่ เป็นทั้งเครื่องแสดงฐานะของกษัตริย์ เครื่องบ่งบอกยศศักดิ์ของขุนนางชั้นสูงเครื่องแสดงเกียรติยศสำหรับพระสงฆ์ และเป็นเครื่องประดับยอดพระเจดีย์ ตลอดจนนิยมใช้ฉัตรประกอบเครื่องบูชาสำหรับพิธีสะเดาะเคราะห์และขอพร การที่พม่าพัฒนาการถวายฉัตรแด่องค์พระเจดีย์มาจนถึงขั้นนี้ อาจเป็นเพราะฉัตรเป็นเครื่องหมายแห่งอำนาจและบุญบารมี อันจะนำมาซึ่งความมั่งมีและความร่มเย็นในชีวิต ซึ่งเป็นโลกียสุขที่ปุถุชนต่างปรารถนา
คราวนี้ลองหันมาดูร่มธรรมดาที่ใช้กันแดดกันฝนกันบ้าง คนพม่ามักจะพกร่มโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ร่มจึงเป็นสินค้าที่ขายได้ดี อันที่จริงชาวพม่าต่างนิยมใช้ร่มที่ทำด้วยกระดาษหรือผ้าดิบกันมาแต่อดีต ร่มพม่าที่ขึ้นชื่อที่สุดเป็นร่มที่มาจากเมืองพระสิมหรือที่พม่าเรียกว่าเมืองปะเต่ง ร่มพระสิมมีรูปลักษณ์ สีสัน และลวดลายออกจะคล้ายกับร่มที่บ่อสร้างของเชียงใหม่ และนิยมซื้อกันเป็นที่ระลึกหรือของฝาก และใช้เป็นเครื่องประดับมากกว่าที่จะใช้กันแดดกันฝนกันจริงๆ
พอถึงยุคปัจจุบัน ร่มที่นิยมกันมากกลายเป็นร่มผ้า ซึ่งจะมีสีสันและลวดลายหลากหลาย ร่มรุ่นใหม่นี้มักผลิตในนามบริษัทต่างประเทศ อาทิ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น และไทย มีทั้งการนำเข้าและตั้งเป็นโรงงานผลิตในพม่า ร่มที่นิยมกันมากเป็นร่มพับ เพราะสะดวกต่อการพกพา ตลาดร่มในพม่าขณะนี้ จึงมีการแข่งขันกันสูง มีการโฆษณาทางสื่อหลายชนิด รวมทั้งทางโทรทัศน์ และยังมีการนำดาราชื่อดังมาแสดงเป็นแบบอีกด้วย
พม่าใช้ร่มกันมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะพกพาได้สะดวก และสามารถกันได้ทั้งแดดและฝน ไม่เพียงแค่นี้ หากเดินในสวนสาธารณะหรือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในเมืองย่างกุ้ง มักจะพบหนุ่มสาวมานั่งกางร่มอิงแอบกันเป็นคู่ๆอยู่แถวใต้ร่มไม้ ปรากฏการณ์ที่หนุ่มสาวพม่ามานั่งกางร่มทั้งที่แดดไม่ร้อนและฝนไม่ตกในสวนสาธารณะได้กลายเป็นภาพชินตา แม้จะดูขัดต่อจารีตนิยมของพม่า แต่ร่มก็ถูกนำมาใช้เพื่อบังสายตาผู้คนมิให้เห็นโจ่งแจ้งจนเกินงาม
นับว่าชาวพม่าเป็นนักประยุกต์นิยม สามารถประยุกต์ฉัตรซึ่งเป็นเครื่องหมายแห่งอำนาจ เกียรติยศ และความร่มเย็น มาเป็นเครื่องประกอบบูชาเพื่อการสะเดาะเคราะห์และขอพรอย่างเข้าที และยังประยุกต์การใช้ร่มซึ่งใช้กันแดดกันฝนมาใช้กำบังสายตาผู้คน เพื่อระงับความอายได้อย่างไม่ใยดีต่อจารีตประเพณี
วิรัช นิยมธรรม