การอยู่การกินของพระนั้นเป็นเรื่องเล็ก ง่าย ๆ สบาย ๆ
แต่ถ้าพระติดกับเรื่องการอยู่และเรื่องการ “ฉัน” อันนี้สิเรื่องใหญ่
การได้มาใช้ชีวิตทั้งจำพรรษาและจำวัดอยู่ที่เชียงใหม่นาน ๆ ชักเริ่มมีสิ่งที่น่ากังวลอยู่อย่างหนึ่ง สิ่งนั่นก็คือ “เรื่องฉัน”
การอยู่การฉันที่เชียงใหม่ดีมาก บางครั้งดีจนเกินไป
ดีจนบางครั้งถ้าไม่สกัดจิตกลั้นใจก็อาจจะไหลหลงใหลให้รูปที่ได้เห็น จมูกที่ได้กลิ่นพร้อมทั้งรสชาติที่ลิ้นได้ลิ้มสัมผัส
อาหารที่ญาติโยมทำมา นำมาถวายดี ๆ ทั้งนั้น
ประณีต บรรจง สะอาด เรียบร้อย
แม้จะเป็นอาหารมังสวิรัติ ก็มิได้น้อยหน้าอาหารที่วางขายอยู่ในภัตตาคารเลยทีเดียว
ชีวิตนักบวช อยู่ก็เพื่อฝึกฝนปฏิบัติตนให้ละและคลายจาก “กาม กิน และเกียรติ”
ฉะนั้นเรื่องขบเรื่องฉันของพระนี่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่
เพราะถ้ากินแล้วฉันแล้วทำให้ติดในรสชาติ
ถ้าไม่มีแล้วต้องถามหา อาหารชนิดนั้นถือได้ว่าเป็นของที่พาพระพาเณรเมา
มัว เมา ลุ่มหลงอยู่ในรสชาติของอาหาร
จากการที่จะต้องฉันเพียงเพื่อให้ตั้งอยู่ได้แห่งกายนี้
กลับกลายเป็นการฉันเพื่อความสนุก สนาน เพลิดเพลิน สร้างเสริม กาม และกิเลส
ช่วงนี้จึงมีหลาย ๆ วันที่จำเป็นต้องสมาทาน “ฉันตกบาตร”
คือบิณฑบาตมาอย่างไรก็ฉันอย่างนั้น งดเว้นจากการพิจารณาอาหารที่ญาติโยมจัดไว้ให้ในภายหลัง
ญาติโยมใส่อะไรตอนบิณฑบาตให้ก็ฉันอย่างนั้น
มีกับข้าวหนึ่งอย่างก็ฉันหนึ่งอย่าง
มีแต่ข้าวเปล่าก็ฉันข้าวเปล่า
ไม่มีขนม นม ผลไม้ ก็ไม่ต้องฉัน
ฉันข้าวเปล่าก็ดีเหมือนกัน
สบายท้อง เบาท้องดี
ต้องหัดอยู่แบบอด ๆ ยาก ๆ บ้าง อย่าอยู่แบบชูชก
เรื่องอยู่ เรื่องฉัน ในชีวิตพระนั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่
แต่ถ้ามีมากจนเกินไป ก็จำเป็นต้องฝึกใจให้ตั้งมั่นไว้ว่า “ไม่ต้องห่วงฉัน”
ไม่มีความเห็น