อธิการบดีของ ม.ในกำกับ : หน้าตาเป็นอย่างไร?


   

พ.ร.บ. มน. 

 

 

พ.ร.บ. ม.มหิดล 

หมวด ๒ การดำเนินการ

มาตรา ๒๖    ให้มีอธิการบดีเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด และรับผิดชอบการบริหารงานของมหาวิทยาลัย และอาจมีรองอธิการบดีหรือผู้ช่วยอธิการบดี หรือจะมีทั้งรองอธิการบดีและผู้ช่วยอธิการบดี ตามจำนวนที่สภามหาวิทยาลัยกำหนด เพื่อทำหน้าที่และรับผิดชอบงานตามที่อธิการบดีมอบหมายก็ได้ หมวด ๓ การบริหารงาน มาตรา ๒๘    ให้มีอธิการบดีเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด และรับผิดชอบการบริหารงานของมหาวิทยาลัย และอาจมีรองอธิการบดีหรือผู้ช่วยอธิการบดี หรือจะมีทั้งรองอธิการบดีและผู้ช่วยอธิการบดี ตามจำนวนที่สภามหาวิทยาลัยกำหนด เพื่อทำหน้าที่และรับผิดชอบงานตามที่อธิการบดีมอบหมายก็ได้ 
  มาตรา ๒๗ 

  อธิการบดีนั้นจะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งโดยคำแนะนำของสภามหาวิทยาลัยจากผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา ๒๘

  มาตรา ๒๙  

  อธิการบดีนั้นจะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งโดยคำแนะนำของสภามหาวิทยาลัยจากผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา ๓๓

  หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาอธิการบดีให้เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย

  รองอธิการบดี นั้น ให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งโดยคําแนะนําของอธิการบดี จากผู้มี คุณสมบัติ
ตามมาตรา ๓๓ วรรคสอง

  ผู้ช่วยอธิการบดีนั้น ให้อธิการบดีแต่งตั้งจากผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา ๓๓ วรรคสอง 

      อธิการบดีมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี และจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งใหม่อีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระไม่ได้

  รองอธิการบดีนั้น ให้สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งโดยคำแนะนำของอธิการบดีจากผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา ๒๘

   ผู้ช่วยอธิการบดีนั้น ให้อธิการบดีแต่งตั้งจากผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา ๓๒ วรรคสอง
  เมื่ออธิการบดีพ้นจากตำแหน่ง ให้รองอธิการบดีและผู้ช่วยอธิการบดีพ้นจากตำแหน่งด้วย
  มาตรา ๓๐    อธิการบดีมีวาระการดํารงตําแหน่งคราวละสี่ปี และจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งใหม่อีกได้ แต่จะดํารงตําแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันมิได้

  เมื่ออธิการบดีพ้นจากตําแหน่ง ให้รองอธิการบดีและผู้ช่วยอธิการบดีพ้นจกตําแหน่งด้วย
  หมายเหตุ

มาตรา ๓๒ วรรค ๑
    ในส่วนงานตามมาตรา ๘ (๒) <วิทยาเขต> และ (๓) <คณะ> และส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าส่วนงานตามมาตรา ๘ (๒)<วิทยาเขต> หรือ (๓)<คณะ> ให้มีหัวหน้าส่วนงานคนหนึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบงานของส่วนงานนั้น และจะให้มีรองหัวหน้าส่วนงานตามจำนวนที่สภามหาวิทยาลัยกำหนดเพื่อทำหน้าที่และรับผิดชอบตามที่หัวหน้าส่วนงานมอบหมายก็ได้

          วรรค ๒
   หัวหน้าส่วนงานตามวรรคหนึ่ง ให้อธิการบดีแต่งตั้งจากผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาหรือ
เทียบเท่าจากมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาอื่นที่สภามหาวิทยาลัยรับรอง และได้ทำการสอนหรือมีประสบการณ์ด้านการบริหารมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปีในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาอื่นที่สภามหาวิทยาลัยรับรอง หรือมีประสบการณ์
ด้านการบริหารอื่นมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี

     
     นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามวรรคสอง อธิการบดีพ้นจากตำแหน่งเมื่อ
 (๑) ตาย
 (๒) ลาออก
 (๓) ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๒๘
 (๔) ถูกจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก
 (๕) เป็นบุคคลล้มละลาย
 (๖) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
 (๗) สภามหาวิทยาลัยมีมติให้ถอดถอนด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ 
  มาตรา ๓๑    นอกจากการพ้นจากตําแหน่งตามวาระตามมาตรา ๓๐ อธิการบดีพ้นากตําแหน่งเมื่อ
  (๑) ตาย
  (๒) ลาออก
  (๓) ถูกจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุก
  (๔) เป้นบุคคลล้มละลาย
  (๕) เป็นคนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
  (๖) สภามหาวิทยาลัยมีมติให้ถอดถอนด้วยคะแนนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนกรรมการเท่าที่มีอยู่
  (๗) สภามหาวิทยาลัยมีมติให้พ้นจากตําแหน่งตามมาตรา ๓๒ วรรคสาม
  (๘) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๓๓
        มาตรา ๓๒     ให้สภามหาวิทยาลัยจัดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของอธิการบดีเมื่อครบสองปีนับแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง
   การประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของอธิการบดี ตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
   ในกรณีที่อธิการบดีไม่ผ่านการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ ตามวรรคหนึ่ง และสภามหาวิทยาลัยมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนกรรมการสภามหาวิทยาลัยทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ให้พ้นจากตําแหน่ง ให้อธิการบดีพ้นจากตําแหน่ง
 
  มาตรา ๒๘     อธิการบดีและรองอธิการบดี ต้องมีคุณสมบัติสำเร็จการศึกษาปริญญาหรือเทียบเท่าจากมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาอื่นที่สภามหาวิทยาลัยรับรอง และได้ทำการสอนในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาอื่นที่สภามหาวิทยาลัยรับรองหรือมีประสบการณ์ด้านการบริหารมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี หรือเคยดำรงตำแหน่งกรรมการสภามหาวิทยาลัยมาแล้วรวมเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสี่ปี   มาตรา ๓๓     อธิการบดี ต้องสําเร็จการศึกษาไม่ต่ากว่าชั้นปริญญาเอกหรือเทียบเท่าจากมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาอื่นที่สภามหาวิทยาลัยรับรอง หรือดํารงตําแหน่งศาสตราจารย์ ศาสตราจารย์พิเศษ หรือศาสตราจารย์เกียรติคุณ หรือเคยดํารงตําแหน่งดังกล่าว รวมทั้งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามอื่นตามที่กําหนดในข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
   รองอธิการบดีและผู้ช่วยอธิการบดี ต้องสําเร็จการศึกษาปริญญาหรือเทียบเท่าจากมหาวิทยาลัย
หรือสถาบันอุดมศึกษาอื่นที่สภามหาวิทยาลัยรับรอง รวมทั้งมี คุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามอื่นตามที่กําหนดในข้อบังคับของมหาวิทยาลัย

ข้อสังเกต

  1. พ.ร.บ. มน. ไม่ได้กำหนดให้มีการออกข้อบังคับเรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาอธิการบดี (ดิฉันว่า เพื่อให้โปร่งใส ควรกำหนดไว้เช่นเดียวกับ ม.มหิดล)
  2. พ.ร.บ. มหิดล ระบุไว้ชัดเจน และครบวงจร มากว่า  อธิการบดีต้องถูกประเมิน โดยสภาฯ ทุก 2 ปี  หาก ไม่ผ่านการประเมิน และสภามหาวิทยาลัยมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนกรรมการสภามหาวิทยาลัยทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ให้พ้นจากตําแหน่ง ให้อธิการบดีพ้นจากตําแหน่ง 
  3. อธิการบดีของมหาวิทยาลัยภูธร คงหาได้ยากเย็นกว่าในเมืองกรุงยิ่งนัก จึงไม่ได้ระบุคุณสมบัติสูงส่งสักเท่าใด   อาจจบเพียง ป.ตรี ก็ได้  ใน พ.ร.บ. มน. ระบุคุณสมบัติพื้นฐานของผู้มีสิทธิได้รับแต่งตั้งเป็นอธิการบดี หรือรองอธิการบดีเหมือนกันทุกประการ  แต่ใน พ.ร.บ.ม.มหิดล อธิการบดีต้องเป็นผู้ที่ทรงคุณวุฒิมากเป็นพิเศษ  ส่วนรองฯ และผู้ช่วย คุณสมบัติพื้นฐานเหมือนกันทุกประการ
หมายเลขบันทึก: 155914เขียนเมื่อ 25 ธันวาคม 2007 23:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท