แบบทดสอบชีวิต


ชีวิตก็เป็นเช่นนี้

    คนเปรียบว่า "ชีวิตเหมือนแบบทดสอบ" เพราะในชีวิตจริงเรามักจะถูกสอนว่าควรจะไปทางไหน และทำอะไรจึงจะถูกต้อง หากเรามองชีวิตเหมือนกับแบบทดสอบที่ท้าทายการลองทำ หรือเป็นเหมือนบทหนึ่งของแบบทดสอบ คุณจะเริ่มมองเห็นว่าแต่ละข้อปัญหาที่คุณพบ นั้นเปรียบเสมือนโอกาสที่จะทำให้คุณเติบโตขึ้น ไม่ว่าคุณจะใช้ความพยายามหรือความสามารถเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างไร คุณก็ยังมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้ ถ้าคุณมองแต่ละปัญหาที่พบเหมือนเป็นสงครามที่รุนแรง ซึ่งต้องการที่จะเอาชนะเพื่อความอยู่รอดแล้วละก้อ คุณก็อาจรู้สึกว่ากำลังตกอยู่ในช่วงการเดินทางที่ลำบาก

  ถ้าลองมองปัญหาที่คุณพบว่าเป็นเหมือนคำถามในข้อสอบ แทนที่คุณจะมัวติดอยู่กับตัวปัญหานั้น คุณควรหันมามองหรือคิดว่าคุณสามารถเรียนรู้อะไรบ้างจากปัญหานั้น ทำไมปัญหานี้จึงเข้ามาในชีวิตเรา มันหมายความว่าอย่างไร และอะไรที่มันจะต้องเกี่ยวพันไปถึง คุณสามารถที่จะมองปัญหาให้แตกต่างจากที่เคยมองได้ไหม ตัวอย่างเช่น หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับเวลา มีความรู้สึกว่ามีเวลาไม่พอในการทำงาน ต้องรีบทำงาน ต่างๆรอบตัวให้เสร็จโดยเร็ว คุณจะรู้สึกหงุดหงิดและเริ่มบ่นตลอดเวลา พาลโทษโน่นโทษนี่ต่างๆ นานา จุดมุ่งหมายของคุณก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีการจัดการกับชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ หรือจนคุณรู้สึกว่าตนเองมีเวลามากขึ้น แต่คุณควรจะสามารถเข้าถึงจุดที่เรารู้สึกว่าเรา พอใจเข้าใจ และไม่กังวลใจ ว่าไม่สามารถที่จะทำทุกอย่างให้เสร็จไปได้อย่างที่เรารู้สึกว่ามันต้องเป็น

 มีบทเรียนของชีวิตบทหนึ่งที่เรามักจะพบอยู่เสมอคือ การที่ต้องติดต่อกับคนซึ่งเราไม่ชอบ การชมและการตำหนิเป็นเรื่องของวิธีการที่ถูกแต่งขึ้น เพื่อเตือนตนเองว่าคุณไม่เคยสามารถที่จะสร้างความพอใจให้กับทุกคนได้ทุกครั้ง ขอเพียงให้ตระหนักว่ายังมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับตนเองอยู่อย่างน้อยก็ครึ่งหนึ่งก็พอ เชื่อว่าหลายคนมีประสบการณ์ทั้งเรื่องการถูกชมและการถูกตำหนิ บางคนอาจจะชมว่าท่านเป็นคนน่ารัก นิสัยดี สุภาพเรียบร้อย แต่บางคนอาจจะว่าท่านเห็นแก่ตัว งก ไม่นึกถึงคนอื่น การชอบกับการไม่ชอบ การเห็นด้วยกับการไม่เห็นด้วย มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

 นอกจากนี้หลายคนคิดว่าความคิดเห็นไปในทางเดียวกันที่คาดว่าจะได้รับจากคนใน ครอบครัวเพื่อน คนที่ทำงานนั้นมีค่ามากกว่าของคนอื่นนั้น ไม่จริง ทุกคนมีความคิดเป็นของตนเองและไม่จำเป็นที่จะต้องเหมือนกับที่เราคิด เรามักจะโกรธ เจ็บใจ ผิดหวัง เมื่อมีคนปฏิเสธความคิดของเรา หรือไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของเรา เมื่อไรก็ตามที่เรายอมรับว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ทุกคนพอใจ เมื่อนั้นการดำเนินชีวิตของเราก็จะเป็นไปอย่างสงบสุข แทนที่เราจะมารู้สึกเสียใจกับการถูกปฏิเสธความคิด เราควรตระหนักและเตือนตนเองมากกว่าว่านี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คนอื่นคิดต่างจากเรา มันก็แค่นี้เองไม่เห็นจะแปลก

 อย่างที่บอกในตอนต้นแล้วว่า ชีวิตก็เหมือนกับแบบทดสอบ บางครั้งเราก็ตอบถูก บางครั้งเราก็ตอบผิดบ้าง มีทั้งสอบได้สอบตก ซึ่งมันไม่ทำให้คุณตาย แต่จะทำให้คุณได้มีโอกาสเรียนรู้ สิ่งต่างๆ และผู้คนรอบตัวมากขึ้น เข้าใจสัจจธรรมในชีวิต รู้จักมองโลกสองด้าน มีคนชอบก็ต้องมีคนไม่ชอบ เช่นเดียวกันคุณก็ต้องมีทั้งคนที่คุณชอบและคุณไม่ชอบ ขอเพียงอย่าเอาความไม่ชอบนั้นมาทำให้คุณรู้สึกหงุดหงิด เวลาที่มีความสุขก็คือเมื่อทุกอย่างดำเนินไปตามธรรมชาติ และคุณยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราทุกคน

         อ่านแล้วรู้สึกดีขี้นแล้วรวบรวมพลังกาย  พลังใจทำงานต่อไป

หมายเลขบันทึก: 155534เขียนเมื่อ 23 ธันวาคม 2007 16:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2012 15:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท