คราวที่แล้วเขียนเรื่อง "นกกับหนอน" แต่นกไม่ได้กินหนอน คราวนี้เขียนเรื่อง "งูเห่ากับเขียด" พ่อเล็กลำสินธุ์บอกว่า "งูเห่าจ้องจะกินเขียด".
.....ไปลำสินธุ์ อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง เมื่อ 9 ธันวาคม..รถทัวร์ 24 ที่นั่งจากกรุงเทพฯ นั่งกันไปแค่ 6 คน หันไปมองรถอื่นๆที่วิ่งลงใต้ ผู้คนกระปริบกระปรอย... บริษัทอาจจะขาดทุนก็อย่างหนึ่ง แต่ที่น่าห่วงกว่า ก็คือ ทรัพยากรของชาติถูกใช้ไม่คุ้มค่า น้ำมันที่ใช้อยู่ก็นำเข้าทั้งนั้น...
รถเข้าเขตนครศรีธรรมราชตอนฟ้าเริ่มสาง แล้ววิ่งตรงดิ่งไปพัทลุง ดีใจที่เห็นท้องนาเขียวขจีกับบรรยากาศชุ่มฝน .. บรรยากาศของทุ่งนาหาได้ไม่ง่ายนักในเขตภาคใต้ ..พัทลุงปลูกข้าวมากหน่อย รายได้หลักมาจากเกษตร ก็เลยกลายเป็นจังหวัดค่อนข้าง "ยากจนทางรายได้" เมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นๆในภาคใต้ (ทั้งๆที่ออกจะอุดมสมบูรณ์) พัทลุงมีข้าวสังข์หยดที่คนใต้รู้จักดี
ทิวเขาของพัทลุงเป็นตะปุ่มตะป่ำ เป็นภาพที่คุ้นตามมาตั้งแต่เด็กๆ (มีความสุข) ตอนนั่งเรือจากบ้านข้ามทะเลสาบสงขลา มาขึ้นฝั่งที่พัทลุง (ลำปำ) เห็นเขาอกทะลุ จากนั้นก็นั่งแทกซี่จากพัทลุงข้ามเขาพับผ้า (พังไปแล้ว) เข้าสู่จังหวัดตรังเพื่อไปเรียนหนังสือ
ถึงสถานีบขส.พัทลุงตอน 6 โมงกว่าๆ เป็นสถานีที่กว้างขวางแต่เงียบมาก ลูกศิษย์มารับไม่ได้ ผลสุดท้ายต้องไปคุยกับคุณน้าที่ร้านขายของ ปรึกษาเรื่องเข้าหมู่บ้าน คุณน้าใจดีเลือกมอเตอร์ไซค์คันที่ไว้ใจได้มากที่สุดให้ ก็เลยได้นั่งมอเตอร์ไซค์เข้าหมู่บ้านเป็นครั้งแรกที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์เกือบ 20 กิโลเมตร... เข้าหมู่บ้านที่ลำสินธุ์
ที่นั่นกำลังจัดอบรมของ ปปส... ปล่อยให้วิทยากรคนอื่นๆว่ากันไปก่อน .. พ่อเล็กมานั่งคุยกับเรา เรื่องการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ...
นั่นเป็นที่มาของคำว่า "งูเห่ากินเขียด" ... เราให้พ่อเล็กจัดลองลำดับ...หน่วยงานที่ตั้งท่าจะกลืนชุมชนมากที่สุด คือ มหาดไทย (นึกแล้ว!!) หน่วยงานที่เป็นมิตรมากที่สุดคือ สาธารณสุข (ไม่แปลกใจอีกเหมือนกัน)
เราตกลงกับพ่อเล็กว่าจะให้ลูกศิษย์จัดเวทีถอดบทเรียนของหน่วยงานต่างๆที่ทำงานร่วมกับเครือข่ายสินธุ์แพรทองปลายเดือนมกราคม
เราถามเรื่องการอบรม พ่อเล็กสรุปให้เราฟังว่า เครือข่ายจากสี่จังหวัดที่มาอบรมครั้งนี้ยังเข้าไม่ถึง...
คุยกับพ่อเล็กเสร็จ เราก็ไปสังเกตการณ์การอบรมต่อ...รู้สึกเหมือนทุกครั้งว่าพื้นที่นี้ทำงานอย่างนักยุทธศาสตร์จริงๆ ทำงานเป็นทีม ไม่ใช่ผู้นำเดี่ยว เขียดตัวนี้ไม่ธรรมดาและใช่ว่าใครจะกินได้ง่ายๆ
บ่ายสี่โมงเย็น วินมอเตอร์ไซค์คันเดิมมารับเรากลับไปส่งที่สถานี บขส. เจอฝนพอให้เปียก ต้องจอดเข้าเพิงข้างทาง ใต้เพิงเล็กๆนั้นวินมอเตอร์ไซค์คันอื่นกำลังนั่งโขกหมากรุกกันอย่างเอาจริงเอาจัง เมื่อฝนซา ก็ออกรถต่อได้...
ขากลับ รถทัวร์เข้ากรุงเทพฯ เต็มทุกคัน.. ก็เลยถึงบางอ้อว่า บริษัทอยู่ได้ก็รถเที่ยวขึ้นกรุงเทพฯนี่เอง
นึกสงสัยอยู่สักพักใหญ่ว่า ทำไมจำนวนคนไปกับคนกลับจึงต่างกันมาก (เพราะเอาตัวเองเป็นที่ตั้งว่า ไปแล้วก็ต้องกลับ) ในที่สุดก็เดาคำตอบออก .....
ก็เป็นเพราะคนชอบเข้ากรุงเทพฯแล้วไม่ชอบกลับออกมาไง...
ไม่มีความเห็น