วังเวงใจจัง เลือกตั้งคนดี อ้างอิง - ภาพ http://www.lomography.com/folkways ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม 2550 เราท่านคนไทยทั้งหลาย ยิ่งได้เห็นพฤติกรรมคน ได้แลเห็นกิเลส ตัณหา ความทะยานอยาก เสียงด่าทอ ประชดประชัน ความปลิ้นปล้อน ต่อรอง และบททดสอบที่เป็นจริงของพฤติกรรมมนุษย์ ในวิชาความรู้ว่าด้วยรัฐ พฤติกรรมเหล่านี้ถือเป็นฐานสำคัญ เรื่องพื้นฐานในใจคน ในการต่อรองผลประโยชน์ของสังคม การต่อรอง ช่วงชิง แก่งแย่ง เพื่อการจัดการทรัพยากรอันมีจำกัด เมื่อเก้าอี้ในสภาผู้แทนราษฎรแห่งราชอาณาจักรไทย มีจำกัดเฉพาะผู้คนเฉพาะบุคคล เพียง 480 ตัว คนไทยผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จึงต้องช่วย เราจึงต้องเลือกผู้คนที่ออกมาเสนอตัว อยากทำงานรับใช้ประเทศชาติ เลือกนักการเมืองทั้งหลาย ตามหลักการด้านรัฐศาสตร์พื้นฐาน คือเลือกคนเลวน้อยที่สุด ในท่ามกลางคนเลวทั้งหลาย หรือหากมองแบบอุดมคติก็ต้องเลือกคนที่มีความดีมากที่สุด ในท่ามกลางผู้คนทั้งหลาย ไม่ว่าจะมองโดยเหตุผลใด วันนี้เราท่านทั้งหลายจะได้มีโอกาส ได้ตัดสินใจชะตาชีวิตของตนเอง ชะตาชีวิตบ้านเมือง บนผืนแผ่นดินถิ่นเกิดของเรา มาตุภูมิที่รักของเรา ในท่ามกลางแผ่นดินอันงดงามของชีวิตคนไทย เรารับรู้ได้ถึงแผ่นดินถิ่นนี้ว่างดงามและยิ่งใหญ่เพียงใด แม้ว่าแผ่นดินนี้จะมีปํญหามากมาย มีเสียงบ่นและไม่พึงใจเพียงใด แต่เราทุกคนก็ยังคงรัก ยังคงเชื่อมั่นและศรัทธาที่จะมีชีวิตอยู่ วันเวลานี้ เราได้ยินเสียงบอกกล่าว เพื่อให้เราได้ตัดสินใจเลือกคนดี เข้าไปทำหน้าที่ในสภาแทนพวกเรา แต่ปัญหาวันนี้ก็มีปรากฎให้เราทั้งหลายได้รับรู้ว่า คนดีที่เราเห็น กับคนดีของคนไทยทั้งประเทศไม่เหมือนกัน ตาสีตาสายายมา ป้าอุ่นลุงหนู น้องก้อย พี่แดง อบต.ป้อม พยาบาลโอ๋ กำนันน้อม ทิดจุก หมอชัย และใครอีกมากมายในบ้านเมืองนี้ ซึ่งมีนิยามความดีและคนดีต่างกัน เรามีมาตรฐานความดีในแผ่นดินนี้อยู่มากมาย เรามีคนดีที่ให้เงินเรากับคนดีที่ไม่ให้เงิน เรามีคนที่เราชอบแต่ไม่เลือก นี้คือความจริงในบ้านเมืองของเรา ในท่ามกลางผลงานศึกษาวิจัยระดับเอกอุ เมื่ออาจารย์ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ มองความดีในเมืองไทย และมองความจริงในเมืองไทยด้วยแว่นขยายของปากคำประชาชน สองนคราประชาธิปไตย คือผลงานอันโดดเด่นที่ทำให้วันนี้ เรามีคำถามในใจ ถึงความแตกต่างแห่งเสียงตัดสินใจของพี่น้องชาวไทย บางคนอยากเลือกพรรคการเมือง อยากเลือกนักการเมืองคนดีแต่อยู่พรรคนั้น แต่กลับจำใจต้องไปลงคะแนนเสียงให้กับพรรคโน้น หลายบ้านหลายตำบลหลายอำเภอ เลือกนักการเมืองคนนี้ เพราะเขาเคยเป็นประธานงานแต่งน้าสาว เคยมาช่วยงานศพป้า เคยบวชให้หลาน เคยขนน้ำแข็งช่วยงานปีใหม่ เคยช่วยเหลือจึงต้องเลือก ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นคำตอบที่จริงของชีวิต ชาวบ้านไม่ผิดในท่ามกลางเหตุผลและหลักการเช่นนี้ หรือเราจะร่วมก่นด่านักการเมืองฉ้อฉลเหล่านี้ ที่เรียกตัวเองว่าเป็นผู้รับใช้ประชาชน จึงใช้สายสัมพันธ์เช่นนี้ ในท่ามกลางความเป็นคนดีในสายตาชาวบ้าน นอกเหนือจากนั้นอาจจะไม่รับรู้ นอกเหนือจากการเข้าสู่สภา เขาเหล่านั้นจะไปทำสัญญารับเงินใต้โต๊ะ ฮั้วประมูล ไม่ยอมเข้าประชุมสภา ไม่ยอมพิจารณากฎหมายอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน วันวันเอาแต่เที่ยววิ่งเต้น หรือกระทั่งหาเรื่องไปตีกอล์ฟ เที่ยวกลางคืน หรือเอาแต่นั่งเฝ้าหน้าห้องรัฐมนตรี เพื่อรอคอยผลประโยชน์ที่จะตกหล่นมาบ้าง
สิ่งเหล่านี้ประชาชนไม่ได้รับรู้ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ปรากฎขึ้นในการรับรู้ เพราะเขาสามารถไปงานบวชงานแต่งงานศพได้ทุกครั้ง มาตรฐานความดีในบ้านเมืองเราจึงหลากหลาย มาตรฐานคนดีของคนไทย ในแต่ละส่วนของผืนแผ่นดินนี้จึงมีอยู่หลากหลาย หลายระดับ หลายความเข้าใจ และหลากหลายการรับรู้ เพราะวันนี้เรามองคนดีด้วยสายตาอันแตกต่าง เราแต่ละคนต่างมีแว่นขยายแห่งความดีที่แตกต่าง บางคนยอมให้โกงได้บ้างแต่ขอให้ทำงานจริง บางคนไม่ยอมให้โกงอยากได้ใจซื่อ บางคนขอที่พูดเก่งด่าปากมัน ไม่ผิดและไม่ถูกต้อง สำหรับมาตรฐานที่แตกต่าง เพราะสิ่งเหล่านี้คือสิทธิของเราแต่ละคนซึ่งมิอาจมานั่งตีค่าในทุกสิ่ง เราทุกคนมีสิทธิจะเลือกและมองคนดีเหล่านี้ ด้วยความดีในใจเรา ด้วยแว่นขยายและมาตรฐานของคำว่าดี เราทุกคนต่างมีมาตรฐานอันแตกต่างในใจ เราจึงจะเป็นผู้กำหนดเสียงเหล่านี้ แค่เพียงรณรงค์ให้เลือกคนดี เรายิ่งเห็นมาตรฐานและบรรทัดฐานมากมาย เลือกคนซื้อเสียงเป็นบาปในสายตาพระสงฆ์องคเจ้า เลือกคนดีที่ช่วยเหลือบ้านเมือง คนดีไม่คดโกง หรือคนดีแบบอุดมคติ ล้วนมีคำตอบเท่ากับคนดีในใจชาวบ้านธรรมดาตาดำดำ คนดีที่ช่วยเหลือ คนดีที่จ่ายเงิน คนดีที่ช่วยให้มีรถแท๊กซี่ขับได้ คนดีที่ช่วยให้ขายของบนฟุตบาทได้ คนดีที่ช่วยให้ประกันตัวออกจากโรงพักได้ คนดีของคนธรรมดาหาเช้ากินค่ำ คนดีของคนทำงานบริษัทคนชนชั้นกลาง คนดีของหมู่บ้านจัดสรรและหมู่บ้านธรรมดาจึงแตกต่าง วันนี้เราอยู่ในประเทศไทย ที่ความดีมีความแตกต่าง นิยามความดีและให้คำจำกัดความบนความแตกต่าง ที่อยู่ในท่ามกลางเรื่องราวของความคาดหวังอันมากมาย วันนี้ไม่มีสิ่งใดจะกล่าวไปมากมายกว่า ถึงแต่ละความรู้สึก แต่ละความรับผิดชอบในฐานะคนไทยผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในโลกที่มีความดีกำลังได้รับการท้าทาย ในท่ามกลางคำง่ายง่ายของผู้คน เราทุกคนอยากอยู่เย็นเป็นสุข เราทุกคนต่างอยากมีเงินมีทองใช้ ทำมาซื้อขายได้สะดวก ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ไม่ถูกกดขี่ข่มเหง ไม่อยากถูกอำนาจบาตรใหญ่ ไม่ต้องการถูกรังแกกลั่นแกล้ง เราอยากมีชีวิตที่เป็นสุข จะสุขโดยมีเงินทองมากมาย หรือสุขโดยชีวิตเรียบง่ายก็ตามแต่ แต่สุดท้ายเราก็อยากอยู่ในสังคมที่ดี เราอยากเห็นประเทศไทยเป็นสังคมที่ดี อยากเห็นบ้านเมืองของเราเจริญรุ่งเรืองพัฒนา เราอยากเห็นผู้คนสรรเสริญยกย่องให้กับประเทศไทย เราท่านทุกคน อยากมีความสุข มีเกียรติ ได้รับการยอมรับ ได้ทำงานและมีความสุขในครอบครัว มีเงินทอง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ได้รับการศึกษา ได้รับการดูแล ได้รับการปกป้อง วันนี้เรามีความคาดหวัง และเราทุกคนกำลังกุมชะตาชีวิตของเรา กำลังกุมชะตาของประเทศชาติ ด้วยการตัดสินใจในวันเดียว ขอจงโปรดตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้ แม้จะเป็นเพียงเสียงเดียว วันนี้ผมแค่อยากบอกเพียงว่า ผมรักแผ่นดินนี้
|
ประเด็นนี้สำคัญ ที่ว่ากันบ่อย ผมว่าคนดีที่เราโหยหามันมีแต่ดีแบบอัตตา ทุกคนต้องการคนดีในมุมมองและมาตราฐานของตัวเองอย่างเดียว ทำชั่วขนาดไหนก็ยังใช้เป็นคนดีของตัวเอง