"ยอมโง่บ้างก็ดี"
การทำตัวเป็นคนมีน้ำใจ มีความซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา รักษาความยุติธรรมนั้น คนอื่นเขาอาจมองไปว่าเราโง่ ไม่รู้จักกอบโกย ไม่รู้จักทำมาหากิน ไม่ถือคติน้ำขึ้นให้รีบตัก ก็ยอมให้เขามองให้เขาว่าไปเถอะ ยอมให้เขาว่าโง่ดีกว่าเป็นคนไร้น้ำใจ ไม่ซื่อสัตย์ ไม่ยุติธรรม
เราทำงานด้วยความซื่อสัตย์ มีน้ำใจ ตรงไปตรงมา แม้จะไม่ร่ำรวยเหลือกินเหลือใช้เหมือนเขานัก แต่เราก็สบายใจ ครอบครัวเราอาจขาดแคลนไปบ้างแต่ก็อบอุ่น อยู่กันพร้อมหน้า ไม่วิตกกังวลหรือหวาดระแวงอะไรมาก ระหว่างร่ำรวยแต่ไม่อบอุ่น กับอบอุ่นแต่ไม่ร่ำรวย ท่านจะเลือกทางไหน
มีคนส่วนหนึ่งต้องเชิดคอทำหน้าชื่นอยู่ในสังคม มีเวลาไว้คอยเอาอกเอาใจคนอื่น มากกว่าครอบครัวของตนเอง หรือต้องดิ้นรนคอยรักษาผลประโยชน์ของตัวเองอยู่ตลอดเวลา ให้เวลาแก่ผลประโยชน์มากกว่าครอบครัว หรือต้องคอยประจบสอพลอคนอื่น เพื่อผลประโยชน์นั้น มักจะคิดว่าตัวเองฉลาดที่ทำอย่างนั้นได้ โดยลืมนึกไปว่าเพราะความฉลาดนั่นแหละที่ทำให้ตัวเองกินไม่เป็นเวลา นอนไม่เป็นเวลา ไม่มีเวลาให้ครอบครัว ทำให้ครอบครัวขาดความอบอุ่น ต้องคอยพินอบพิเทาคนอื่นเกินความจำเป็น
คนที่นอนไม่หลับเพราะคิดมากเรื่องงานเรื่องธุรกิจนั้น ล้วนเป็นคนที่คิดว่าตัวเองฉลาดทั้งนั้นแหละ คนที่ยอมตัวเป็นคนโง่หรือเป็นคนโง่จริง ๆ นั้น หัวถึงหมอนเมื่อไรเป็นหลับยาวได้ตลอดคืน ยอมเป็นคนโง่เสียบ้างก็สบายดีเหมือนกันนะท่าน
ขอบคุณค่ะ...เฟื่องฟ้า เฟื่องฟู เฟื่องใจ
พี่ขา..OOHOOH ก็อยากโง่นะคะ..แต่มันแหม่ง ๆ จังค่ะ
ระบายได้ ... สบายได้ .. เนี่ยไม่เรียกว่าโง่ค่ะ