ถ้าอยู่สวนป่า คงเดินหาธรรมชาติรอบ ๆสวนป่าในการออกแบบลวดลายผ้า เพราะลายผ้าระยะหลังที่จะออกแบบจะลืมลวดลายแบบอีสานแต่จะเน้นแบบธรรมชาติแทน แต่ทั้งนี้จะอาศัยรูปแบบการมัดหมี่มาช่วยในการสร้างลาย
แต่วันนี้อยู่ขอนแก่น จึงไม่ได้ไปสัมผัสธรรมชาติที่ไหน จึงนั่งเปิดรูปไปมาพร้อม ๆ กับคิดฝันไปในจินตนาการถึงลวดลวยที่จะเกิดขึ้น เปิดดูรูปไหนก็จินตนาการหดหาย งานนี้ความคิดสร้างสรรค์อุดอู้ครับ
แต่ชะแว้บ ก็เปิดไปเจอหนังตะลุงอีสานมองมุมนั้นมุมนี้ นึกถึงตอนที่เขากำลังเล่น กำลังเชิดดูสนุกสนานและลื่นไหลไปตามธรรมชาติของคนอีสาน สะดุดบ้าง ลืมบ้างก็ตามรูปแบบศิลปะการแสดงพื้นบ้าน
เปิดไฟล์ดูภาพเงาที่ปรากฎบนจอจึงเกิดไอเดียที่จะเอาลวดลายเหล่านั้นมาทดลองออกแบบและทดลองทอในการทดลองร่วมกับชาวบ้านในระยะที่สองนี้
ก็เดา ๆ เอาว่ารูปแบบจะออกมายังไงเลยทำมาให้ดูสักตัวอย่างครับ และพอดีมันเข้ากับโทนสี ขาว-เทา-ดำ จากการย้อมมะเกลอเสียด้วยเลยจะทดลองในเร็ววันครับ
ท่านใดสนใจก็ตามติดครับ ว่าลายที่ออกแบบจากแรงบันดาลใจจากหนังตะลุงอีสานจะออกมาในรูปแบบไหน อิอิ ไปดูที่มาที่ไปและลายที่ออกแบบไว้ครับ ส่วนของจริงและงานทอจริงตามติดเร็ว ๆนี้
ที่มาของลวดลาย จากต้นไม้ที่ปรากฎบนจอหนังตะลุง ลวดลายงดงามดีครับ จากเรื่องสินไซ ของคณะ ส.สำลี
นี่เป็นลายที่ลองออกแบบดู ตัดนั้นตัดนี่ปแน้นแปะนี่ ก็ออกมาตามนี่ล่ะครับ ส่วนงานทอคงต้องมีปรับแน่ ๆ งานนี้คงต้องดูช่างมัด ช่างทอครับว่าเขาจะพลิกสถานการณ์การมัดการทอยังไง
ถ้าลองย้อมด้วยครามก็จะเป็นแบบนี้ครับ อิอิ ลองหลาย ๆ แบบ(จำนวนแบบที่ลองทำผกผันตามงบวิจัยครับ อิอิ)
ขอเพิ่มเติมนิดนึงค่ะ
ผญาอีสานมีอยู่ว่า..
ไผ๋วา เมืองอิสานฮ้าง สิจูงแขน มันมาเบิ่ง
ของดี ยังมีโจ้โก้ สิไปฮ้าง บ่อนจั่งได๋..พีน้องเอ้ย..