เรื่องเล่า...เมื่อเธอปันใจ...


สวัสดีครับ

  มีเรื่องเล่า  คิดว่าเป็นกรณีตัวอย่างที่น่าสนใจพอสมควรครับ(หวังว่าจะมีคุณค่าต่อผู้อ่านบ้างครับ)

  พบเจอผู้รับบริการท่านหนึ่ง ....

  มาตรวจว่าตัวเองตั้งครรภ์หรือไม่  แม้จะทำหมันแล้ว  แต่ก็กลัว กังวล  เพราะว่าคนที่บ้านไกล้ๆ  ทำหมันแล้วแต่ตั้งครรภ์ที่ท่อนำไข่ จนต้องผ่าตัดด่วน  ..เธอก็กลัวครับ

    แต่ว่าผลตรวจปกติดีครับ...ไม่ท้องแน่นอน

  

  เมื่ออธิบายผลตรวจและตอบคำถามไปสักระยะ  เธอก็เริ่มเล่า  เรื่องราวบางอย่างครับ

   ***เริ่มที่การถามว่าจะแก้หมันได้หรือไม่

   ***เริ่มที่การถามถึงการตั้งครรภ์แบบเด็กหลอดแก้ว

   *** เริ่มการที่ดูดวงว่าตนเองดูไพ่..แล้วบอกว่าต้องมีครรภ์อีกคนแน่นอน

   ***เริ่มต้นที่...อีกหลายๆอย่าง  โดยเฉพาะที่ว่าตนเองไม่น่าทำหมันเลย(อายุ22)

      จนผมอดไม่ได้ที่จะบอกว่า  ขอโทษนะครับ...มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นที่บ้านหรือเปล่า....แรกๆก็ไม่ได้เล่าอะไร...

  

             แต่ต่อมา..หลังจากที่ผมเทศนาและให้คำแนะนำเรื่อง การครองเรียนให้มีความสุข  และการอยู่อย่างมีความสุขกับชีวิตหนึ่งและครอบครัวหนึ่ง(สรุปคือ ชีวิตเราจะมีความสุขได้ถ้าเราพอเพียงและมีคุณธรรม)

  

       ด้วยความที่ไม่รู้ว่าเรื่องราวมันไหลลื่น  ทำให้เผลอเล่าเรื่องราวให้ผมฟัง  หรือเพราะความไว้ใจที่มีต่อผู้ให้คำปรึกษาคนนนี้

สิ่งที่ได้ฟังคือ...

    ตอนนี้มีหนุ่มโสด  เป็นหนุ่มใหญ่และกระเป๋าหนักมาติดพัน  และเธอก็รูสึกดีมากๆ  อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับคนเก่า..มันรู้สึกเติมเต็มกับคนใหม่คนนนี้   มีอะไรที่เข้ากันได้ดีมากมาย..สารภาพว่าใจไปทางนี้แล้ว..

   ตอนนี้ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปทางไหน  มีทางเลือกชีวิตให้สองทางตอนนี้  แต่ก็คิดไม่ตก  เพราะคนเดิมก็ไม่ผิดอะไรมากมาย  และก็มีห่วงติดตั้งสอง...กับคนใหม่ใจก็ไปมากแล้ว

  

   

      เมื่อเห็นเรื่องราวทั้งหมด..ผมก็อึ้งๆไปเล็กน้อย  พยามรวบรวมสติ..  ที่จะให้คำแนะนำต่อ....

  

 กรอบความคิดที่จะให้คำแนะนำคือ

      --ความต้องการที่แท้จริง  ของผู้รับบริการท่านนี้...

      --การมองให้รอบด้าน  มองเชิงระบบ  ทุกแง่มุม

     -- การรอ..ใช้เวลาให้มากๆกับการตัดสินใจ...1 ปี 2 ปี 3 ปี

     -- มองที่อนาคต  มองที่สังคม..มองความจริง สัจธรรมของชีวิต

  จำไม่ได้ว่าผมบอกเธอว่าอะไรไปบ้าง  แต่พอสรุปได้ดังนี้....

     - คนเรามีชีวิตเดียว...ชีวิต เกิดมา โตและก็แก่ตัว ตายลงไป...

    - ความสุข..ความต้องการที่แท้จริง..คือความสุข ความสบายใจ บนความดี  ความงามและความพอเพียง เพียงพอ...

   - เงิน  ความร่ำรวยอาจจะไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริงของชีวิตเรา

  - เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคนที่เราจะเลือก..เป็นคนที่ดีกว่าเดิม อยากให้ดูให้ดีๆ...

   - ลูกๆ  คือสิ่งที่สำคัญที่สุด  เขายังเด็กมากๆ   เขาไม่ได้ผิดอะไร..

   - อดทน  รอคอย  ใช้เวลา..(ห้อยแขวน) รอจนอายุ 30 ดีมั๊ย(ลูกโตพอดี  หรือเราอาจจะเปลี่ยนใจ)

  - แยกแยะให้ดี  ความรักที่แท้จริง  ความต้องการ  ความหลงไหล..

  - ผมย้ำว่าผมเองเอียงให้เธออยู่กับลูกๆต่อไป  และคนเดิม  โดยถามถึงความพร่องที่เกิดขึ้นและมี  แล้วช่วยกันเติมเต็ม..น่าจะดีขึ้น

  - เรื่องมันฟังดูสับสนวุ่นวาย....เป็นเรื่องความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย

 ผมได้บทเรียนอะไรบ้าง...

    - การที่เราแสดงท่าทีกลางๆ  และสนใจเรื่องความรู้สึกจิตใจของผู้คน  แค่เพียงบางจุดที่เราสื่อออกไป  อาจจะไปโดนจุดที่ทำให้เขาพร้อมที่จะแบ่งปันเรื่องราวความทุกข์  ที่มีอยู่ในใจได้...

   - เรื่องราวของความรัก...  การเปลี่ยนแปลง  มันมีปัจจัยมากมายหลายอัน  ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง  ..ยากจริงๆที่จะสามรถเข้าใจและอธิบายด้วยแง่มุมใด แง่มุมเดียว  ทุกคนต่างมีเหตุผลเป็นของตนเอง  หลายคนคงเคยประสบมาแล้วนะครับ....???

  - ผมไม่รู้ว่าหลักการให้คำปรึกษาเรื่องนี้จริงๆเป็นอย่างไร  แต่พยามใช้ใจ  ใช้ความรู้สึกจริงๆ..และสิ่งที่ดีที่อยากให้เกิดขึ้น  คงอยู่..ต่อไป  และรู้สึกจะใช้ความพยามมาก   ที่จะเป็นกลางมากที่สุดต่อคำปรึกษาที่ผ่านออกไป...เป็นทางเลือก  เป็นสิ่งที่ได้นำไปตรึกตรอง

  - ผลลัพธ์ของการแบ่งปัน  ปรึกษากันครั้งนี้..ไม่รู้จะเป็นอย่างไร  น่าสนใจ....  อยากให้ทุกอย่างลงเอยด้วยดี

  - เรื่องความรัก....  น่าจะเชื่อมต่อกับผู้คนได้หลากหลาย..  และมีแง่มุมที่เกิดขึ้น  และน่าสนใจหลายอย่าง  จึงนำมาแบ่งปันครับ

       อาจจะมีความคิดเห็นดีๆ  ตามมา เพื่อต่อยอด  ความรู้  ความคิด ความเข้าใจ  และการเติบโตทางจิตวิญญาณของผู้เริ่มต้นเรียนรู้ครับ....

หมายเลขบันทึก: 153822เขียนเมื่อ 15 ธันวาคม 2007 21:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 09:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

สวัสดีค่ะ

หมอเป็นที่พึ่งพิงทั้งทางสุขภาพกายและใจเลยนะค่ะ

ตัวหนังสือเล็กมากเลยค่ะ คงต้องปรับขนาดตัวอักษรใหม่มั้ยค่ะ

คนแก่อย่างพี่อ่านไม่ออกครับน้องหมอ อิ อิ หาแว่นขยายมาดูแล้วนะเนี่ยะ  น้องหมอแกล้งคนสายตายาวอย่างพี่ละซี  อิ อิ

สวัสดี น้องหมอสุพัฒน์

  • แวะเข้ามาอ่านบ่อย ๆ
  • แต่ไม่ค่อยได้เข้ามาฝากรอยเท้าเอาไว้
  • พี่ว่า เค้าต้อง guilt แน่เลย พอคุยกับหมอเสร็จ..อิ อิ
  • จิตใจและเจตนาที่ดี เค้าย่อมสัมผัสได้
  • และเวลาที่เค้า0ะต้องไปตรึกตรอง
  • น่าจะช่วยนำพาชีวิตเค้าได้
  • passion จากอารมณ์รักใคร่ มีพลังรุนแรง
  • การหมดรักทั้งลูกและสามี หรือ ความรู้สึกเย็นชาอย่างนั้น
  • จะว่าไปถ้าสืบค้น คงมีอะไรแน่นอน
  • พี่กำลังนึกถึง Family therapy เลยนะนั่น
  • หมอสบายดีใช่ไหม  พี่ดีใจที่ทราบว่า
  • หมอยังใส่ใจและ ใจดีเหมือนเดิม
  • สู้ สู้   ^___^

ขอเอี่ยวด้วยคนค่ะ

เรื่องครอบครัวมันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ยากที่จะเข้าใจค่ะ ดิฉันก็เคยเจอมีทั้งเพื่อนร่วมงาน ลูกน้องเข้าปรึกษาเรื่องนี้ (ทั้งที่ตัวเองยังไม่มีครอบครัว) แต่ก็ได้แต่แนะนำไปตามที่เราคิดว่าถูกต้อง แต่บางครั้งใจคนเรามันก็ห้ามยากนะ เพราะบางทีคุยกับเรารับปากว่าจะดีกัน จะเลิกกับกิ๊ก แต่สุดท้ายกับจะคบทั้งสองคนก็มี มันคงเป็นเรื่องศีลธรรมในใจมากกว่า และเรื่องผิดถูกดีชั่ว ว่าแต่ละคนจะมีความอดทตที่จะใจแข็งทนกับสิ่งยั่วยุ ได้มากน้อยขนาดไหน หรือบางทีถ้าเราไปยุ่งมากไป ดีไม่ดีเราก็อาจจะกลายเป็นมือที่สาม ที่ทำให้ครอบครัวเค้าแตกแยกได้ค่ะ หากได้เอ่ยว่ามีใจไปกว่าครึ่งแล้ว แบบนี้คงกู่ไม่กลับแล้วค่ะ ก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกรรมของแต่ละบุคคลแล้วล่ะค่ะ 

สวัสดีครับอาจารย์P  paew

  ขอบคุณครับ  ปรับขนาดแล้วนะครับ

   เป็นประสบการณ์ที่ดีนะครับ

  เอามาจากชีวิตจริงและวิถีครับ 

   อยากให้เขาพบทางออกที่ดี

อย่างหนึ่งที่บอกไปคือ

   ทางออกที่เลือก  คือ ทางที่เราเลือกแล้วเราสบายใจที่สุด ตลอดไปครับ

สวัสดีครับP บางทราย (คนเข็นครก ขึ้นภูเขา)

  บอกตามตรง  คิดถึงพี่จริงๆนะครับ  ไม่ได้คุยกันนานนนน 

  อยากพบ  อยากเรียนรู้ด้วยครับ

  สบายดีนะครับ

   ....ขอบคุณมากครับที่มาให้กำลังใจ

สวัสดีครับP coffee_mania

  พี่กุ้งครับ...  มองเขาแล้ว  ก้อยากให้เขาพบทางออกที่ดีนะครับ

  เข้าใจว่าคนเราก็น่าจะมีอิสระเป็นของตน

  ลปรร  กับพี่หมอท่านหนึ่งบอกว่า

   คนนนี้เขาอาจจะเริ่มชีวิตครอบครัวเร็วไปหน่อย

  • ตัวหนังสือใหญ่ขึ้นแล้วนะ
  • อิอิอิ
  • แก้ไขทันใจจริง ๆ
  • วันนี้ปาย หนาวไหม
  • พี่หนาวจนแทบจะเป็นแมงขี้เกียจอยู่นในผ้าผ่มละ
  • ระวัง น้องสบายเป็นหวัดนะจ๊ะ

น้องหมอครับ

 

เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องเฉพาะตัวจริงๆ 

หากหยิบเอามาให้คนทั่วไปแสดงความคิดเห็นก็ต้องพูดหลักการหละครับ  หลักการที่สังคมการอยู่ร่วมกันพึงกระทำน่ะครับ

หนึ่ง  ต้องพูดตรงไปตรงมาว่า กลับหาคนเดิมเถอะ เขาจะดีมาก ดีน้อย เราก็ตัดสินใจร่วมทางเขามาแล้ว บ้านเราเมืองเราเคารพในสิ่งนี้ และยอมรับในสิ่งนี้ มีอะไรผิดใจกันก็พูดจากัน เอาผู้ใหญ่เข้ามาช่วยก็ยังได้เหมือนอีสานที่มีเจ้าโคตร คอยดูแลลูกหลานในเครือสายสกุลให้อยู่ในร่องรอย  มิเช่นนั้นมันมิเปลี่ยนคู่กันไปเรื่อยๆหรือ

รับประกันได้อย่างไรว่าคนใหม่ดีกว่าเก่า รับประกันได้อย่างไรว่าเมื่อไปอยู่กัยคนใหม่แล้ว เขาจะไม่มีใหม่อีก ผมคิดว่าต้องยืนยันหลักการคนเดิม หากขุ่นข้องหมองใจกันก็ค่อยๆปรึกษาหารือกันไปครับ

สอง  ถ้ามันอยู่ไม่ได้จริงๆ จะเป็นจะตายแล้ว..ใจมันร้อนเป็นไฟปลัยกัลป์ ต้องไปอยู่กับคนใหม่จะมีความสุขที่สุดในโลก ในจักรวาล  หากเป็นเช่นนั้นจริง คุณสุภาพสตรีต้องแฟร์กับฝ่ายชาย และครอบครัวฝ่ายชาย โดยการเปิดโต๊ะเจรจา พูดกันตรงไปตรงมาว่า ฉันไม่อาจอยู่กับเธอได้แล้ว ขอไปตามทางของฉัน บอกกล่าวให้ทุกคนทราบอย่างเป็นทางการ เพื่อแสดงความจริงใจและรับได้ของสังคมที่เปิดช่องว่างให้

 

น้องหมอ พี่ไม่ใช่ทนายความที่รู้เรื่องกฏหมายครอบครัวนะครับ ใช้สามัญสำนึกของความเป็นคนเท่านั้น

 

คิดถึงน้องหมอเช่นกันครับ

สวัสดีค่ะน้องหมอ

พี่ขอสารภาพว่ามีหลายบันทึกของน้องหมอที่ติดอยู่ในใจของพี่ในแบบที่อยากแลกเปลี่ยนด้วยเช่นบันทึกของคนไข้ที่ติดเชื้อแล้วกินยาฆ่าตัวตายรวมทั้งบันทึกนด้วยน่ะจ้ะ

 

เมื่อพอมีเวลาเล็กน้อยก็เลยรีบวิ่งเข้ามา่่ก่อน..

  • การที่เราแสดงท่าทีกลางๆ  และสนใจเรื่องความรู้สึกจิตใจของผู้คน  แค่เพียงบางจุดที่เราสื่อออกไป  อาจจะไปโดนจุดที่ทำให้เขาพร้อมที่จะแบ่งปันเรื่องราวความทุกข์  ที่มีอยู่ในใจได้...

  • เรื่องราวของความรัก...  การเปลี่ยนแปลง  มันมีปัจจัยมากมายหลายอัน  ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง  ..ยากจริงๆที่จะสามารถเข้าใจและอธิบายด้วยแง่มุมใด แง่มุมเดียว  ทุกคนต่างมีเหตุผลเป็นของตนเอง

  • พยายามใช้ใจ  ใช้ความรู้สึกจริงๆ..และสิ่งที่ดีที่อยากให้เกิดขึ้น  คงอยู่..ต่อไป  และรู้สึกจะใช้ความพยายามมาก   ที่จะเป็นกลางมากที่สุดต่อคำปรึกษาที่ผ่านออกไป...เป็นทางเลือก  เป็นสิ่งที่ได้นำไปตรึกตรอง

สิ่งที่พี่เน้นไว้นั่นแหละจ้ะคือหัวใจหลักของการให้คำปรึกษา การให้คำปรึกษา ( counseling ) ต่างจากการบำบัดรักษา ( Psychotherapy )  ตรงที่การลงลึกในโครงสร้างของรูปรอยคนไข้แต่ละคน แต่เหมือนกันอยู่อย่างคือ ความเป็นกลาง

การลงมือทำจริงทำให้ผู้ให้คำปรึกษาทราบว่าแท้ที่จริงแล้วทุกคนต้องตัดสินใจเลือกทางแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง เพราะนั่นคือ " ความรับผิดชอบ " ที่เค้าต้องทำต่อชีวิตของตน  เรามีหน้าที่เพียงช่วยเรียบเรียงทางเลือก เป็นเพื่อนเดินทางให้เค้าเดินบนหนทางของเค้าอย่างมีจุดหมายปลายทางที่ดีไม่ใช่การตัดสินใจให้เค้าเดิน ( คำว่าจุดหมายปลายทางที่ดีนี่แหละจ้ะที่ทำให้เราต้องเคลียร์อารมณ์ของผู้ที่มาปรึกษาเราก่อน ด้วยการให้ระบายออก และทำความเข้าใจสาเหตุที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังอารมณ์ที่เรียกว่า Hidden  agenda ..ความเป็นกลางความนิ่ง ความอบอุ่นของผู้ให้คำปรึกษาถึงสำคััญที่สุดไงจ๊ะ ) 

ที่สำคัญไม่ว่าเค้าจะตัดสินใจเลือกทางเดินอย่างไรก็ตาม เราก็ยังต้องคงความเ็ป็้นกลางไว้เสมอ แม้เค้าจะเดินเข้ามาหาเราอีกครั้งด้วยความเจ็บปวดจากการตัดสินใจเลือกของเค้าก็ตาม

Hearing  is  Healing ค่ะ..พี่ดีใจที่น้องหมอเข้าถึงหัวใจของการให้คำปรึกษานะคะ เพราะเมื่อใดที่เราฟังด้วยหัวใจเมื่อนั้นคือเราได้ให้ของขวัญที่ดีที่สุดกับทุกๆคนที่อยู่รอบข้างเราแล้วล่ะค่ะ..เพราะเราทำให้เค้าได้เติบโต ได้มองเห็นสิ่งที่เค้ามองข้ามไป  ได้เรียนรู้ว่าตัวเค้านั้นมีคุณค่าเพียงใด..และเราก็ได้ฝึกตัวเอง เห็นตัวเองได้ดีขึ้นแบบที่น้องหมอเห็นไงคะ

เราฟังได้จากทุกๆคนทั้งจากคนที่เรารัก คนที่รักเราหรือคนที่ไม่รักเราและเราไม่รัก เพราะเมื่อใดก็ตามที่เราฟังอย่างตั้งใจพลังงานจะก่อเกิดหมุนวนระหว่างเรากับคนที่เราฟัง   และมนต์วิเศษของการฟังจะเกิดขึ้นค่ะ...

สิ่งที่น้องหมอเห็นภายหลังการให้คำปรึกษาี้ทางพุทธเรียกวิหารธรรมค่ะ เป็นการน้อมนำเอาทุกสิ่งที่เห็นที่สัมผัสมาเรียนรู้เป็นบทเรียนของตนเอง

ขอให้น้องหมอประสบความสำเร็จต่อไปบนเส้นทางของการรู้ตัวเองและการเติบโตทางจิตวิญญาณนะคะ 

 

 

สวัสดีครับพี่บางทราย

  ขอบคุณครับที่เข้ามาอีกรอบครับ

  เห็นด้วยลึกๆครับ  คิดอย่างนั้น

  แต่ในบทบาทหมอ  ก็เหมือนพี่เบิร์ดกล่าวครับ

 ความเป็นกลาง  แต่ผมก็ว่า  เราจะแทรกเรื่องจริยธรรมเข้าไปอย่างไรให้เขาได้คิดและไม่ตรง  เกิดไปครับ

  ขอบคุณครับ

สวัสดีครับP เบิร์ด

  เป็นความเห็นที่มีคุณค่ามากครับ

  นี่เองเป็นสิ่งที่บอกว่าเราได้ตอบแทนกลับมาเสมอ  ถ้าได้แบ่งปันกับพี่ครับ

  สิ่งที่ผมทำไป  เหมือนการทำข้อสอบแบบหนึ่ง  แล้วพี่มาอธิบาย  เพิ่มเติม  ถือว่าเป็นสิ่งที่มีค่า  และเกิดประโยชน์ต่อผมเองมากๆครับ

   ผมได้ไปรษณียบัตรแล้วนะครับ บมจ

เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการให้คำแนะนำอย่างเป็นกลางครับ

แต่เป็นสิ่งที่ทำได้ยากในหลายๆสถานการณ์

ท้ายนี้หวังว่าผู้ได้รับคำแนะนำคงจะนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์ สังเคราะห์อย่างถูกต้อง เพื่อให้ผลการตัดสินใจเป็นไปในแนวทางที่เกิดผลดีกับทุกฝ่าย และกระทบกระเทือนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดน้อยที่สุดโดยเฉพาะผู้ให้คำแนะนำนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท