บ่ายอ่อนๆของวันที่ 5 ธค 50 พวกเราก็เดินทางมาถึงจังหวัดกระบี่ พอเครื่องแตะสนามบินซักพักก็ได้รับการต้อนรับจากชาวกระบี่เลยครับ เมื่อผมเปิดมือถือ เพื่อนซี้หมอยงยุทธ (เหิด) ก็โทรหาทันที นัดแนะโปรแกรมก่อนเข้าที่พัก ว่าเราจะไปไหนต่อไหนกันมั่งในบ่ายวันนี้ รับสัมภาระกันเสร็จเรียบร้อย เดินออกมาก็ได้พบ "เจ๊" (พญ.ศิริรัตน์ สุวันทโรจน์) กับทีมยืนรอต้อนรับอยู่ ผมเจอเจ๊ตั้งแต่วันแรกที่มาทำงานโรงพยาบาลกระบี่เมื่อ 24 ปีก่อนเรียกได้ว่าเป็นผู้มีอุปการคุณเลยหล่ะครับ สมัยนั้นผมกับอั้ยเหิดรับเงินเดือนคนละ สี่พันกว่าบาทมีเท่าไรก็ใช้ด้วยกัน ไม่เกินครึ่งเดือนก็หมดแล้ว ก็อาศัยเจ๊นี่แหละครับช่วยดูแลจนเติบโตตัวใหญ่มาได้จนถึงทุกวันนี้ ด้วยน้ำใจไมตรีที่ผมได้รับแม้เวลาผ่านไปกว่ายี่สิบปีไม่ได้ทำให้ผมลืมเลือนเลยแม้แต่น้อย วันนี้ได้เจอเจ๊อีกครั้งความรู้สึกยินดีกรุ่นอยู่ในอกผ่านออกมาทางรอยยิ้มที่ไม่จำเป็นต้องใช้สมองสั่งการ เป็นความสุขน้อยๆที่เกิดขึ้นในนาทีแรกที่ได้มาเยือน กระบี่..... เมืองที่ผมรัก
บ่ายวันนั้นหลังอาหารกลางวันพวกเราและทีมต้อนรับจากโรงพยาบาลกระบี่ (เจ๊ศิริรัตน์, พี่จิ หัวหน้าพยาบาลเวชกรรมสังคม, เอ้งและแหน พยาบาล ร.พ.กระบี่) พาพวกเราไปที่แรกคือ น้ำตกร้อน อำเภอคลองท่อม เป็นน้ำตกอุณหภูมิประมาณ สี่สิบองศาเห็นจะได้ไม่มีกลิ่นกำมะถันสักนิด เหิดเล่าให้ฟังว่าไหลมาจากตาน้ำบนยอดเขาพวกเราไม่ได้เดินตามไปดูหรอกครับ แต่ที่น่ามหัศจรรย์เป็นอย่างยิ่งคือ แอ่งหินตามธรรมชาติเรียงรายลดหลั่นเป็นชั้นๆเหมือนกับบรรจงสร้างสรรมาเพื่อให้เรานอนแช่ยังงัยยังงั้นเลยครับ
นี่ป้ายทางเข้าน้ำตกร้อน เรียงจากซ้ายไปขวา ผม ชมพู่ โต้ง หนูรัตน์ เจี้ยบ อ้อใส่หมวก หลวงตาวี และพี่ปรีชา
นี่ครับน้ำตกร้อนน่าสบายมั้ยครับ
ชั้นล่างสุดของน้ำตกร้อนก็จะเป็นธารน้ำไหลลึกแค่อก หลังจากแช่ตัวมาร้อนๆ หน้ากำลังแดงแล้วมากระโดดลงลำธารที่น้ำใสเย็นยะเยือกเกิดความรู้สึกเป็นสุขที่ยากจะบรรยายครับ สาวๆบอกว่าช่วยกระชับรูขุมขนได้เป็นอย่างดี ขึ้นมาจากน้ำตกร้อนสบายเนื้อสบายตัวหน้าเนียนกันเป็นแถว
ในบริเวณใกล้ๆกันนั้นนั่งรถไม่เกินสิบห้านาที หมอเหิดเพื่อนผมและเจ๊ศิริรัตน์พาพวกเรามาสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งใครได้มาเห็นจะต้องทึ่งในความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ นั่นคือสระมรกต สระน้ำขนาดใหญ่น้ำสีเขียวสดใสเหมือนมรกตจริงๆครับ
หลวงตาวีนั่งเต๊ะทีแรกว่าจะไม่ยอมลงน้ำในที่สุดก็ทนไม่ไหวต้องลงจนได้
น้ำใสมั้ยครับ
น้ำในสระมรกตใสสดงดงามจริงๆนะครับ แต่ในวันนั้นผมกลับรู้สึกว่า น้ำที่ใสที่สุด คือน้ำใจของคนกระบี่ที่ผมได้สัมผัสตั้งแต่นาทีแรกที่มาเยือน ต่อจากนี้อีกสี่วันคงมีเรื่องสนุกๆมาเล่าให้ฟังกันอีกมากมาย โปรดติดตามนะครับ