ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โลกแคบลงด้วยการสื่อสารไร้พรมแดนความสะดวกสบายเกิดขึ้นมาพร้อมกับภาระที่มากขึ้นของมนุษย์ทั่วโลก ทำให้เกิดการแข่งขันกันทุกด้านอย่างรีบรุด ความพึงพอใจอยู่กับสิ่งที่มีกลับถูกมองว่าเป็นความด้อยพัฒนา คนรุ่นใหม่จึงห่างเหินจากการอ่านกวีนิพนธ์ที่ใช้คำยากๆ ที่ต้องศึกษาความหมายจากพจนานุกรมจึงจะเข้าใจ
วันนี้จึงนำบทกวี ของกวีและศิลปินอย่างท่านอังคาร กัลยาณพงษ์ ซึ่งได้ถ่ายทอดถึงสุนทรียรส ความละเมียดละไมในอารมณ์อันลุ่มลึก ไว้ในบทกวี "เสียเจ้า" ซึ่งใช้ภาษาไม่ยากนักจึงทำให้เข้าถึงทั้งอารมณ์และปฏิภาณกวี ได้ง่าย ลองอ่านซ้ำๆ ก็จะได้สัมผัสถึงความงามของภาษาอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของกวี
เสียเจ้า
เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า
มิหวังกระทั่งฟากฟ้า ซบหน้าติดดินกินทราย จะเจ็บจำไปถึงปรโลก ฤารอยโศกรู้ร้างจางหาย
จะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตาย อย่าหมายว่าจะให้หัวใจ
ถ้าเจ้าอุบัติบนสวรรค์ ข้าขอลงโลกันต์หม่นไหม้
สูเป็นไฟเราเป็นไม้ ให้ทำลายสิ้นถึงวิญญาณ
แม้แต่ธุลีมิอาลัย ลืมเจ้าไซร้ชั่วกัลปาวสาน
ถ้าชาติไหนเกิดไปพบพาน จะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตา
ตายไปอยู่ใต้รอยเท้า ให้เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้า
เพื่อจดจำพิษช้ำนานา ไปชั่วฟ้าชั่วดินสิ้นเอย
อังคาร กัลยาณพงษ์
การอ่านกวีนิพนธ์ อาจจะถูกมองว่ายืดยาด เสียเวลาคิด แต่เวลาที่เสียไปกับการอ่านคุ้มกับการที่ได้ถูกขัดเกลาด้วยความงามและความไพเราะของบทกวีอย่างแน่นอน ผลพลอยได้ก็คือช่วยฝึกสมาธิอีกด้วยค่ะ
ใครมีวิธีดีๆที่ช่วยส่งเสริมให้เยาวชนอ่านบทกวีนิพนธ์ รบกวนเสนอแนะเข้ามานะคะ
ขอเชิญชวนให้เยาวชนภาคภูมิใจในบทกวีอันเป็นสื่อสะท้อนวิถีชีวิตของผู้คนทุกยุคสมัย และอย่าลืมสร้างสรรค์ผลงานขึ้นใหม่เพื่อให้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นทั้งผู้อนุรักษ์และสืบทอดอย่างแท้จริง....ภาษาไทยจะได้เป็นภาษาที่แสดงความเป็นชาติไทยที่เด่นชัดที่สุด