อาจารย์เริ่มให้ทุกคนอยู่กับลมหายใจตนเองเช่นเคยราว ๕ นาที
หัวใจสำคัญของผู้นำที่แท้ คือ ความเมตตาและความรัก ในยามมืดสลัว ผู้นำต้องเป็นแสงเทียนส่องสว่างนำทางให้กับคนอื่น
ท่านมหาตมะคานที กล่าวว่า “จะเปลี่ยนโลก ต้องเปลี่ยนตัวเองก่อน”ผู้นำที่แท้ต้องรู้จักรักษาคำพูด <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt" class="MsoNormal">กระบวน ๑ อาจารย์ให้ Check หัวใจของตนเองให้ดีว่าจากเมื่อวาน เราได้ยินเสียงข้างในหัวใจของเราว่าอย่างไร ให้ครุ่นคิดฟังเสียงภายในของตนเองก่อนพูด เพราะพูดไปแล้วคือสิ่งที่ตนเองจะต้องทำ</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt" class="MsoNormal">ผู้นำที่แท้ต้องรู้จักบริหารจัดการเวลา Fogus ในเรื่องที่สำคัญ ซึ่งอาจไม่ใช่สิ่งที่เร่งด่วนก็ได้ สิ่งที่เร่งด่วนอาจจะไม่สำคัญก็ได้ นี่คือ ศิลปะการดูแลตนเอง</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> อาจารย์ให้จับคู่เล่า “ไฟ” (ปรารถนาอันแรงกล้าในชีวิตของเราในการใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย) ที่อยู่ในใจของเราให้กันและกันฟัง โดยใช้หลักการของ Dialogue เป็นพื้นฐานของการคุย คือ การรับฟังกันอย่างลึกซึ้ง (ด้วยความรักและเมตตา) ไม่สอดแทรก ไม่ตัดสิน หลังจากนั้นให้จับ ๓ คู่ ให้เล่า “ไฟ” ของคู่ตนเองให้กลุ่ม ๖ คนฟัง แล้วสรุปลงในกระดาษปรู๊ฟนำไปติดข้างฝา ประกาศให้ทุกคนได้รับรู้</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal" align="center"></p> ผู้นำที่แท้จริงต้องชัดเจนต่อเจตนารมณ์ของตนเอง (เห็นตัวเอง เห็นท้องถิ่น) Fogus ไปยังพลังที่มีอยู่ อาจารย์แนะนำหนังสือไปหาอ่าน ๒ เรื่อง “จักรวาลในอะตอม” ของทะไลลามะ และเรื่อง “ซัมบาลา” ของเชอเกียม ตรุงปะ <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> เป้าหมายคือ “สังคมแห่งการเรียนรู้” ดึงเอาสิ่งดีดี และศักยภาพในคนออกมาใช้ เป็นพลังเล็กๆ ของคนเล็กๆ แต่หัวใจยิ่งใหญ่ รวมเป็นพลังแผ่นดิน ฟ้าคือในหลวง ดินคือพวกเรา </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> “พระเจ้าจะลงโทษใคร พระเจ้าจะหยิบยื่นความสำเร็จให้” สุภาษิตเยอรมัน</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> ผู้นำที่แท้ ต้องมีสติ กล้าหาญ ไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรค ไม่มีเวลาให้ท้อแท้</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> เราต้องรู้จักฝึกตนเองอยู่เสมอ ต้องฝึกนกธรรมดาให้เป็นพญาอินทรีให้ได้ (เป็นคนมองการณ์ไกล มองเห็นสิ่งเล็กๆ ที่มีพลังที่จะเติบใหญ่ รับสิ่งที่จะเกิดในอนาคตได้)</p><p> กระบวน ๒ อาจารย์ให้ครุ่นคิดแล้วเดินดูไฟของแต่ละคนที่เขียนติดไว้ข้างฝาอย่างเงียบๆ แล้วคิดว่า “อะไรที่เป็นสิ่งที่เชื่อมเรื่องราวเข้าด้วยกัน” แล้วเข้ากลุ่ม ๕-๖ คน แล้วเล่าสู่กันฟัง</p><p></p><p> กระบวน ๓ อาจารย์ให้ครุ่นคิดต่อว่า “สิ่งที่มันอยู่ระหว่างคน-คน (ในกลุ่ม) มันมีอะไรเกิดขึ้น” Between หรือ Space between แล้วเข้ากลุ่ม ๕-๖ คน แล้วเล่าสู่กันฟัง</p><p> Resonant Leader Resonant หมายถึง ก้อง สะท้อน ไปมา นั่นคือลักษณะของผู้นำ ที่เป็นเหมือนผู้ที่ส่งคลื่นไปแล้ว มีคนกระทุ้งคลื่นให้เกิดไปอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย</p><p> Dissonance Leader Dissonance หมายถึง ขัดกัน ผิดจังหวะ นั่นคือลักษณะของผู้นำ ที่เป็นเหมือนผู้ที่ส่งคลื่นไปแล้ว มีคนกระทุ้งคลื่นผิดจังหวะ ขัดกัน ทำให้ไม่มีพลัง</p><p>สรรพสิ่งทั้งหลายเป็นคลื่น เป็นคลื่นแห่งพลัง</p><p>Hermann Haken ได้เขียนหนังสือเรื่อง “Synergictic” ทฤษฎีว่าด้วยการปฏิสัมพันธ์ Synergictic คือพลังคลื่นที่ต่อเนื่องและกลมกลืนกัน</p><p> กระบวน ๔ Check out อาจารย์ให้ครุ่นคิดว่า “การค้นพบสิ่งที่อยู่ระหว่าง และเชื่อม มีประโยชน์ต่อเราอย่างไร” แล้วจับกลุ่มย่อยเล่าสู่กันฟัง</p><p> ธรรมะแห่งพลัง (จากธรรมนูญชีวิต)</p><p>๑. ปัญญาพละ Wisdom</p><p>๒. วิริยะพละ Aspiration</p><p>๓. สังคหะพละ Serve รับผู้ใช้อื่น “พระโพธิสัตว์”</p><p>๔. อนวัชชะพละ Integrity กระทำด้วยสุจริตใจ “ใจที่ตื่น”</p>
ไม่มีความเห็น