แน่นอนค่ะ การมาทำงานร่วมกันของคนหลายๆคน ก็ย่อมนำมาซึ่งหลายความคิดเห็น จนบางครั้งออกอาการไม่มีเจ้าภาพที่จะลงมือทำเพราะหาบทสรุปไม่ได้ว่าจะทำอะไรกันต่อไป อีกอย่างคือประสบการณ์ของพวกเราก็ยังน้อย ก้าวแรกของงานจึงเต็มไปด้วยความล่าช้า...
ตรงนี้แหละค่ะที่ได้เห็นความยืดหยุ่นของผู้นำ ก็ในเมื่อทำงานกันเป็นทีมใหญ่ไม่เวิร์ค ก็ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เป็นการลดขนาดคนให้เหมาะสมกับงาน ฟอร์มทีมย่อยๆเพียง 5-6 คนที่คิดว่าจะสามารถรับผิดชอบงานนั้นๆได้ และนัดทำงานกันเป็นทีมเล็กๆด้วยเป้าหมายเดียวคือ การเขียนเอกสารคุณภาพ นัดมาเขียนด้วยกันทุกสัปดาห์ พอมาเจอกันก็คุยกันอยู่เรื่องเดียวนั่นแหละไม่ต้องคุยเรื่องอื่น งานก็เดินได้รวดเร็วขึ้นและในที่สุดเอกสารคุณภาพก็เสร็จได้ภายในไม่กี่เดือน...
...พองานเสร็จ ทีมย่อยนี้ก็สลายตัว ไม่ต้องมานั่งคุยตบยุงกันอีกต่อไป ส่วนกรรมการไอโซก็ยังคงอยู่เพื่อช่วยกันทำงานอื่นอีกต่อไป
อีกความยืดหยุ่นหนึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือเรื่องกำหนดเวลาการยื่นขอรับการประเมิน ที่มีการเลื่อนจากต้นปี กลางปี ปลายปี เพราะเตรียมการไม่พร้อม จนในที่สุดแม้แต่บางหน่วยงานที่เดิมคิดว่าจะส่งขอด้วยแต่เมื่อถึงเวลาคิดว่ายังไม่พร้อม ก็ขอถอนตัวได้ เป็นการยืดหยุ่นพันธะสัญญาโดยไม่สร้างความกดดันให้กับคนทำงานเลย
ด้วยเหตุที่มีความยืดหยุ่นในการดำเนินงานหลายๆเรื่อง ผลงานจึงออกมาสำเร็จได้โดยไม่มี "การแตกหัก" เกิดขึ้นแม้แต่เรื่องเดียว.....
เห็นพี่เม่ยเขียนอย่างนี้แล้ว เกิดความหวังลึกๆ อีกแล้วว่า เราจะมีหนังสือเล่มที่ 2 ไหมนี่