พี่ลืมน้องได้อย่างไร


พี่น้องทะเลาะกัน ใครผิด ใครถู ^_^ หากไม่มีใครยอมใคร แล้วเรื่องจะสงบได้อย่างไร ถ้าไม่ใช้ความนิ่งสยบการเคลื่อนไหว

            พี่น้องทะเลาะกันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาเพราะการทะเลาะกันของพี่น้องคู่นี้ได้กลายมาเป็นประเด็นให้คุณย่าและคุณอาที่แสนจะรักหลานทนไม่ได้ที่เห็นหลานมีพฤติกรรมโมโห โวยวาย กล่าวคำไม่สุภาพออกมาหลายคำ และที่สำคัญเวลาที่น้องโมโหน้องมีการปาข้าวของ ใครพูดอะไรก็ไม่ฟัง ขณะที่อีกคนก็ขอโทษ เงียบ อีกคนก็ยังโวยวาย โมโห โกรธ คุณพ่อเข้ามาพูดถามถึงเหตุการณ์ก็ไม่ฟัง โวยวายและก็ด่า....................

          ตอนนี้ทุกท่านก็คงอยากจะทราบรายละเอียดแล้วใช่ไหมค่ะว่าเหตุการณ์จะเป็นยังไงต่อไป

           ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเอกของเราก่อนนะคะ พี่น้องคู่นี้เป็นผู้ชาย คนพี่อายุ 16 ปี คนน้องอายุ 14 ปี ทั้งคู่เรียนโรงเรียนอินเตอร์

             เรื่องนี้เพิ่งเกิดขึ้นตอนเย็นนี้เอง ประเด็นก็มีอยู่ว่า หลังเลิกเรียน พี่ไปตัดผมที่สโมสรแห่งหนึ่ง เพราะพรุ่งนี้มีเรียน ร.ด. น้องก็ไปนั่งรอ และพี่น้องคู่นี้ก็นัดเจอกันที่ Lobby น้องก็คิดว่าไม่นานหรอกอย่างมากก็ 30 นาที คนน้องก็สั่งอาหารมาทานนั่งรอพี่ เผอิญวันนี้คนพี่มีเรียนกับนักกิจกรรมบำบัด และเราก็นัดเรียนกันตอน 17.00 น. รอถึง 17.15 น. น้องยังไม่มา ผู้บำบัดจึงได้โทรศัพท์ไปหาน้อง เพื่อบอกน้องว่าผู้บำบัดมาถึงแล้ว ด้วยความที่ตนเองสายแล้ว หลังจากตัดผมเสร็จคนพี่ก็รีบมาเรียนกับผู้บำบัด แล้วไม่ได้บอกน้องว่าตนเองกลับแล้ว พี่โทรศัพท์ไปหาน้องแต่ไม่ติด พี่ก็คิดว่าเดี๋ยวน้องกลับกับคุณปู่คุณย่าก็ได้ คนพี่ก็กลับมาถึงบ้านก่อน (บ้านอยู่ห่างจากสโมสรไม่ถึง 500 เมตร) และเรียนกับผู้บำบัด เรียนได้สักครู่ ตอนนี้ระเบิดก็ลงมาลูกเบ้อเริ่ม รับไม่ทัน ผู้บำบัดกับคนพี่ที่เรียนอยู่แตกกระเจิง น้องมาถึงก็โวยวาย ด่า คนพี่ว่ากลับมาแล้วทำไมไม่บอก ปล่อยให้นั่งรอตั้งนาน และที่สำคัญต้องเดินกลับมาด้วย เมื่อผู้เป็นพ่อได้ยินเสียงลูกทะเลาะกัน ก็ได้รีบขึ้นมาดู คุณพ่อถามว่าเกิดอะไรขึ้น คนน้องก็เอาแต่ด่าพี่ โวยวาย ใครพูดอะไรก็ไม่ฟัง คนพี่เองก็ตกใจตอนแรกก็ปฏิเสธก่อน ว่าตนเองได้โทรศัพท์ไปหาแล้วแต่ไม่ติด คนพี่ก็เอาโทรศัพท์ให้ดู คนน้องก็เช็คดู ไม่เห็นมีเบอร์โทรศัพท์โทรออกเป็นเบอร์ของพี่ น้องยิ่งโมโห โวยวายใหญ่ ประเด็นสำคัญที่ทำให้คนน้องโกรธพี่มากๆคือ ตนเองต้องเดินกลับและต้องเสียเวลากับการนั่งรอ และที่สำคัญไม่มีใครตำหนิคนพี่ มีแต่ตำหนิคนน้องว่าเรื่องแค่นี้เอง ไม่เห็นมีอะไรเลย รอกลับพร้อมคุณปู่คุณย่าก็ได้ถ้าไม่อยากเดินกลับ แต่เหตุการณ์ยิ่งดูรุนแรงมากขึ้น เพราะน้องไม่ฟังเหตุผลใดๆทั้งสิ้น คนพี่ก็ได้แต่นิ่งและขอโทษน้องว่ารีบมาเรียนและก็นึกว่าน้องกลับบ้านพร้อมกับคุณปู่คุณย่าได้

           เหตุการณ์เริ่มคลี่คลายลงได้เพราะคุณย่าและคุณอาได้เข้ามาเตือนสติของคนน้องว่าใครจะถูกหรือผิดไม่ว่า แต่มาแสดงพฤติกรรมโวยวาย เสียงดัง ว่าพี่ไม่ได้ และที่สำคัญคุณพ่อเข้ามาห้ามก็ยังไม่ฟังอีก ใครถุกใครผิดก็พูดคุยกันดีๆก็ได้ แต่ทำไมต้องโวยวายด่าไปทั่ว หลังจากนั้นคนน้องก็ค่อยๆสงบลง

           หลังจากที่คนน้องสงบลงผู้บำบัดก็ได้เข้าไปไกล่เกลี่ยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าใครถูกใครผิด ต่างคนก็เถียงกันผู้บำบัดต้องคอยเตือนให้แต่ละคนเงียบและฟังอีกฝ่ายพูด

           จากการพูดคุยกับทั้งสองฝ่าย คนพี่ยอมรับผิดที่ตนเองไม่ได้บอกน้องก่อนกลับ และลืมไปว่านัดน้องไว้ที่ Lobby

             คนน้องก็โกรธที่ต้องเดินกลับและนั่งรอตั้งนาน และโมโหสุดๆเลยคือไม่มีใครว่าพี่ มีแต่คนว่าน้อง ว่าเรื่องแค่นี้เองเดินกลับมาก็ได้ ถ้าไม่อยากเดินก็ให้คนขับรถไปรับก็ได้ แต่ประเด็นตรงผู้บำบัดจับความรู้สึกของคนน้องได้ว่า เวลาเกิดเหตุการณ์ต่างๆคนน้องต้องถูกดุ โดนต่อว่าเสมอ ทั้งๆที่ไม่ใช่ความผิดของตนเอง เวลาที่คนพี่ทำผิดก็ไม่ค่อยมีใครว่า ตรงนี้เลยกลายเป็นประเด็นที่ทำให้คนน้องโกรธสุดๆ

             ผู้บำบัดใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงในการพูดคุยให้น้องแต่ละคนเข้าใจมุมมองของอีกคนและชี้ให้เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของอีกคนถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับตนเอง ในที่สุดพี่น้องคู่นี้ก็ยุติศึกลงได้ด้วยดี

            แต่ประเด็นสำคัญที่อยากฝากไว้ให้คิดคือ เวลาทำอะไรอย่าลืมลูกอีกคนที่เขาไม่ได้เป็นอะไร อย่าให้คนที่ไม่เป็นอะไรต้องเสียสละมากจนเกินไป และโทษคนที่ไม่ได้เป็นอะไรโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงความถูกต้อง และที่สำคัญอย่ามีสองบรรทัดฐาน กล่าวคือถ้าลูกที่เป็นเด็กที่มีความต้องการพิเศษทำผิดไม่ได้รับการว่ากล่าวตักเตือนหรือลงโทษ แต่ขณะลูกที่ไม่ได้เป็นอะไร ทำอะไรผิดนิดหน่อยก็ว่ากล่าวตักเตือนหรือลงโทษ สักวันคนที่ไม่ได้เป็นอะไรก็จะมีปัญหาทางพฤติกรรมตามมาได้ ด้วยความคับข้องใจและไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคนในครอบครัว

หมายเลขบันทึก: 150618เขียนเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2007 22:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท