พอบอกแม่ว่าจะกลับมาอยู่บ้าน แม่ก็ไปติดต่อถามใครมาก็ไม่รู้ เลยรู้มาว่าที่รพ.แม่และเด็กเนี่ยกำลังต้องการพยาบาลวิชาชีพ ..เราก็ใส่ชุดที่คิดว่าเริ่ดและดูดีสุดเลยมาสมัครงาน...(แต่พอตอนหลังมาถามพี่ๆเขาบอกแกเว่อร์มาก..หัวฟูบาน แต่งหน้าเข้มใส่ถุงน่องด้วย) ครั้งนั้นพี่เขาก็คงจำใจต้องรับไว้เพราะเขากำลังขาดคนที่ NICU ที่ใครๆก็ไม่อยากไปทำ...ก็พอออกจากรพ.เอกชนในกทม.ก็มาเริ่มงานต่อที่แม่และเด็กเลย มาวันแรกก็เจอกับน้องเอียดที่มาสมัครเป็นคนงานอยู่ NICU ด้วยกันนี่ล่ะคะ พี่จิง รองหัวหน้าพยาบาลตอนนั้นก็ถามว่าไป ward ถูกมั้ย? ...ตามภาษาคนอย่างเรามีเรอะจะรู้จักแล้วไปถูก..ไม่ถูกคะพี่ พี่เขาเลยโทรตามพี่สุพิศให้ออกมารับเรากับน้องเอียด เห็นครั้งแรกโอ้โห! หน้าเข้มชะมัด ดุจัง ก็เดินตามไปเงียบๆ พี่จ๋อมก็แนะนำสมาชิกให้ พาแนะนำตามแผนกต่างๆ ก็ดีใจเจอพี่ม.ช. 3 คนทั้งรพ...มีเจ๊ทิพย์ พี่จิ๋มแล้วก็พี่หนัน...ค่อยดีหน่อย
ก็มาเจอเหตุการณ์ใหม่ๆตื่นตาตื่นใจอีกเยอะ เพราะตอนเรียนอาจารย์ไม่ได้ให้แทงน้ำเกลือเด็ก ไม่ให้ใส่ tube แต่พอมาอยู่ที่นี่ต้องทำทั้งหมดเลย เครียดเลยคะทั้งปรับตัวกับคนทั้งปรับตัวกับงาน มันส์มาก...ก็กว่าจะเข้าที่ทำผิดทำถูกมาเยอะ ก็ขออโหสิกรรมมาตลอดเพราะทุกอย่างที่ทำก็เต็มที่ของเราแล้วนะ ดีที่พี่ๆน้องๆทั้งคุณหมอเด็กใจดีมากแล้วสอนทุกอย่างมาให้เราเรื่อยๆ แม้กระทั่งการซ่อม chart ระบบการทำงานของเครื่อง suction และการพันสายไฟ ละเอียดจริงๆค่ะสมเป็นหมอเด็ก
สิ่งที่ประทับใจและได้จากการทำงาน NICU นอกจากเรื่องที่เล่าแล้วเรายังได้รับการแทรกซึมเรื่องการบริหารจัดการระบบการวางแผนงานให้เสร็จทันเวลา เพราะเวลาขึ้นเวรสมัยนั้นมีพยาบาลวิชาชีพคนเดียว ต้องทำทุกอย่างให้แล้วเสร็จในเวลา...แล้วพี่จ๋อมหัวหน้าตึกก็จะเป็นเจ้าแม่ไอเดีย...เลยทำให้เราเรียนรู้การต่อยอดไอเดียมาจากพี่จ๋อมนี่ล่ะคะ
สรุปก็คือได้..การทำงานเป็นทีม การบริหารจัดการ การต่อยอดไอเดีย
แถมด้วยความละเอียดโดยไม่รู้ตัว แต่ได้มาครบไม่ครบไม่ขอบอกนะจ้ะ
เป็นทีมที่ดีและยอมรับคุณสมบัติเฉพาะของแต่ละคนได้คะ...บางคนช้า บางคนเร็วมาก บางคนขี้บ่น บางคนอย่างไรก็ได้ บางคนชอบเอกสาร บางคนชอบบริการ ...แต่อย่างที่อาจารย์บอกล่ะคะ คือทีม ณ.ตอนนั้นสมัยอยู่ NICU