อากาศที่เย็นสบาย มีลมพัดตลอดในช่วงกลางวัน และหนาวในตอนเช้าและเมื่ออาทิตย์ลับขอบฟ้า ทำให้เป็นช่วงที่สบายที่สุดของปี อีกทั้งแมลงและยุงไม่ค่อยมีมารบกวนเท่าตอนที่ร้อนและฝนตก สายน้ำป่าสักก็ไหลเอื่อยเย็นตา มวลความสุขเป็นที่รู้กันในระหว่างผองกัลยาณมิตร ช่วงนี้ที่บ้านจึงมีผู้มาเยือนตลอด ที่สนิทมากก็พาลูกหลานมาพักค้างแรม
ต้นไม้ดูสดชื่นรับลมหนาว พลอยทำให้อยากแบ่งปันความสุขสดชื่นที่พบทุกวัน มาเล่ารายวัน หากตอนนี้มีบันทึกเรื่องต้นไม้ ดอกไม้ พืชผักบ่อยไปหน่อย หวังว่าท่านผู้อ่านคงนึกออกว่าผู้เขียนอยู่ในช่วงอารมณ์สุนทรีย์ที่ออกจะล้นไปสักหน่อย คงไม่ว่ากันนะคะ
ที่ท่าน้ำมีต้นสนุ่น เรียงรายอยู่หลายต้น พอน้ำท่วมใบที่เคยเขียวเต็มต้นก็เหลืองร่วง พอน้ำลดหมดก็พากันทิ้งใบเหลือแต่กิ่งก้าน มองดูเหมือนต้นไม้ที่ถูกน้ำท่วมแล้วยืนต้นตาย
ทว่าไม่นาน เมื่ออากาศเริ่มเย็น ก้านที่เคยเห็นเป็นสีน้ำตาลก็ค่อยเปลี่ยนเป็นสีเขียวและมีใบอ่อนสีเขียวแซมแดงในหลายเฉดผลิออกมาแสดงสัญญาณชีวิต
สนุ่นนั้นเป็นไม้ทนน้ำ เป็นพืชในตระกูลเดียวกับต้นไม้ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Willow เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง อยู่ในวงศ์ SALICACEAE ชอบขึ้นที่ชายน้ำ มีลำต้น เปลือกต้นเป็นสีน้ำตาลอ่อน สูงราว 6-10 เมตร แตกกิ่งก้านสาขาจำนวนมาก ทำให้เป็นทรงพุ่ม เปลือกต้นที่ปลายกิ่งก้านเป็นสีแดงออกน้ำตาล
ใบ เป็นใบเดี่ยว ขึ้นเวียนสลับตามกิ่ง รูปทรงหอกกว้าง 2-3 ซม. ยาว 6-10 ซม. โคนใบสอบ ปลายใบแหลมใต้ติ่ง ขอบใบเป็นหยัก ใบอ่อนมีสีแดงน้ำตาล
ดอก ออกเป็นดอกช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง แต่ละช่อมีดอกย่อยจำนวนมาก สีขาว แต่ไม่มีกลีบแยกเพศอยู่คนละต้น
ผล ทรงรี ขนาดเล็ก พอแห้งแล้วจะแตก
นอกจาก "สนุ่น" จะเป็นไม้ริมน้ำที่สวยงามสามารถนำไปปลูกตกแต่งสระหรือบึงน้ำได้ แล้วยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ด้านสมุนไพรได้อีกด้วย คือ เปลือก เป็นยาบำรุงหัวใจ หากนำมาต้มเอาน้ำอาบแก้ไข้ แก้หวัด คัดจมูกได้ เพราะในเปลือกมีสาร "salicin" ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยลดไข้ แก้ปวด เช่นเดียวกับยาแอสไพริน ส่วน ใบ ใช้ใบสดคั้นเอาน้ำแก้พิษงูสวัด
(ข้อมูลอธิบายลักษณะและประโยชน์ของต้นสนุ่นได้จาก http://www.komchadluek.net/news/2004/10-28/farm1-15170487.htm)
เพียงอึดใจเดียวหลังที่ผลิใบอ่อนสีแสนสวย ก็ออกดอกเป็นช่อๆ ไม่นานหลังจากนี้เขาก็จะกลายเป็นผลหรือฝัก ทีนี้ล่ะเตรียมจามได้เลย เพราะฝักจะแตกออกเป็นปุยๆสีขาว ให้ลมได้พัดพา กระจายพันธุ์ไปเติบโตตามที่ต่างๆตามแต่ลมจะพัดพาไป ลมมักหอบเจ้าปุยนี้มาติดตามมุ้งลวดที่บ้าน ทำให้พี่น้อยต้องเหนื่อยกับการแปรงออกอย่างยากเย็น
ต้นสนุ่นที่ท่าน้ำยังเป็นเพื่อนทุกยามเมื่อเราลงไปที่ท่าน้ำ ไม่ว่าจะเช้าหรือเย็น เป็นส่วนหนึ่งของความงามทุกฤดูกาล
ภาพยามเย็นแสนงามด้วยสีสันนี้ ก็ได้ยืนเก็บภาพข้างต้นสนุ่น
เห็นวงจรชีวิตของต้นสนุ่นแล้ว ได้รับรู้ถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่ให้พลังแก่ต้นสนุ่นที่จะยืนหยัด สู้แดด ทนน้ำ ไม่ยอมตาย ยอมแพ้ง่ายๆ มีประโยชน์สารพัดแม้คนมักมองข้ามหรือลืมเลือน แต่ต้นสนุ่นไม่ท้อถอยที่จะมีชีวิตอยู่ และถ่ายทอดวิเศษคุณด้วยการสร้างลูกสร้างหลานให้สืบเผ่าพันธุ์ยังประโยชน์ตราบเท่าที่โลกนี้ยังดำรงอยู่
ต้อมชอบภาพถ่ายจากฝีมือพี่นุชค่ะ สวยงาม และต้อมรู้สึกว่าภาพนี้อยู่เบื้องหน้านี่เอง ^_^ จริงๆ นะคะ ดูง่าย ดูงาม ไปตามธรรมชาติน่ะค่ะ
รูปนี้ดูราวกับเป็นภาพวาดแน่ะค่ะ ..
และกับ "ต้นสนุ่น" นี่ ต้อมเพิ่งเคยได้รู้จักจากพี่นุชนี่ล่ะค่ะ
[[ เห็นวงจรชีวิตของต้นสนุ่นแล้ว ได้รับรู้ถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่ให้พลังแก่ต้นสนุ่นที่จะยืนหยัด สู้แดด ทนน้ำ ไม่ยอมตาย ยอมแพ้ง่ายๆ มีประโยชน์สารพัดแม้คนมักมองข้ามหรือลืมเลือน แต่ต้นสนุ่นไม่ท้อถอยที่จะมีชีวิตอยู่ และถ่ายทอดวิเศษคุณด้วยการสร้างลูกสร้างหลานให้สืบเผ่าพันธุ์ยังประโยชน์ตราบเท่าที่โลกนี้ยังดำรงอยู่ ]]
ขอบคุณนะคะ ..
สวัสดีครับ
ต้นสนุ่นเคยเห็นไกลๆ ใครๆ ก็ได้ยินแต่ชื่อ ไม่ค่อยจะเห็นของจริง
พูดถึง "willow" แล้วอดนึกถึง The Wind in the Willows ไม่ได้ ชีวิตริมน้ำริมบึงเหมือนกัน ;)
ผ่านวัดลาดสนุ่น แถวลำลูกกา แต่ไม่เห็นต้นสนุ่น หรือว่าเห็นแต่ไม่รู้จักก็ไม่ทราบ
เห็นภาพของคุณพี่แล้ว ถ่ายมาทีไร ก็สวย สดชื่นทุกที
ภาพของคุณต้อมสวยจริงๆ เหมือนภาพวาด แปลกดีเหมือนกัน ถ้าภาพถ่ายสวยๆ ต้องดูเหมือนภาพวาด ภาพวาดสวยๆ ต้องดูเหมือนภาพถ่าย อิๆ
ต้นไม้ชนิดนี้ อาจเคยเห็นแต่อาจจะเรียกกันคนละชื่อค่ะ
ดีจังค่ะ ต้นไม้สอนการสู้ชีวิตให้เรา
ที่บ้านพี่มีต้นพญาสัตบรรณสูงๆ โดนลมพัดจนกิ่งใหญ่หัก ผลปรากฏว่า ต่อมา เขาไม่โตทางสูงค่ะ หันมาแตกพุ่มแทน นี่เป็นตัวอย่างว่า ต้นไม้ก็เอาตัวรอดเป็นค่ะ ขืนยืนสูงเหมือนเดิ ก็จะโดนลมพัดหักอีกค่ะ
เห็นไหมๆ คุณธวัชชัยก็มีความเห็นเหมือนต้อม ว่า ภาพถ่ายของพี่นุชสวย ^_^
สวัสดีค่ะพี่นุช
สวัสดีค่ะพี่นุช
เคยมีหัวหน้าไปรษณีย์คนหนึ่ง ชื่อสนุ่น น้องคิดว่า เพี้ยนมาจากองุ่นหรือเปล่า ค้างคาใจมาจนทุกวันนี้ จนพี่ได้นำเรื่องต้นสนุ่นมาเล่า ขอบคุณจริงๆเลยค่ะ
ไปสุพรรณกับพี่หมู ผ่านอยุธยา เราก็จะพูดว่า พี่นุชอยู่ตรงไหนหนอ แค่อยากแวะให้ได้เห็นหน้า พอหายคิดถึง เท่านั้นค่ะ คงจะมีสักวันนะคะ
สวัสดีครับ
ชอบเรื่องราวที่เขียน-เล่าเกี่ยวกับต้นไม้ใบหญ้า มากครับ โดยเฉพาะ ต้นสนุ่น ต้องขอขอบคุณที่ทำให้ผมนึกถึงชีวิตวัยเด็ก กับประสบการณ์ต้นสนุ่น ทำให้ย้อนนึกถึงความสุขสมัยเด็ก ๆขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งครับ
ต้นสนุ่นที่ผมรู้จักจะมีอยู่ 2 ชนิด คือ
1. สนุ่นชนิดต้นเป็นกอ สูงประมาณ 1 - 1.5 เมตร มีรากยึดติดตามลำห้วย รากคล้ายต้นโกงกาง ขวางอยู่ตามลำน้ำ ลำห้วยที่มีน้ำไหล ดินที่ชอบขึ้นจะเป็นดินปนทราย เขาจะเรียกว่าต้นไคร้ ประโยชน์ที่เห็นเด่นชัดคือช่วยยึดตลิ่งไม่ให้น้ำเซาะได้ดี สมัยเด็กจะนำใบมาขยี้ถูเล่นเพื่อให้เกิดฟอง คล้ายกับสบู่แล้วนำมาขัดขี้ไคลตามแขนขา เป็นที่สนุกสนานกันเป็นประจำ
2. สนุ่นชนิดไม้ยืนต้นสูงประมาณ 6-10 เมตร ลำต้นตั้งตรง อยู่ตามริมแม่น้ำเหมือนกันแต่รากจะลึกและแผ่กว่าชนิดแรก จะชอบขึ้นตามดินที่เป็นดินมากกว่าทราย เรียกว่าต้นไคร้นุ่น เราสามารถจะรู้และสังเกตได้ว่าตรงบริเวณใดมีลำน้ำ ลำห้วยอยู่ให้สังเกตว่ามีต้นไคร้นุ่นขึ้นอยู่ตามแนวลำน้ำเป็นระยะ ๆ ได้ถูกต้อง 99.99%เลยละครับ โดยสังเกตจากใบของต้นไคร้นุ่น เวลาลมพัดใต้ท้องใบจะเป็นสีเงินระยิบระยับพริ้วไหวแต่ไกล
** ต้นไคร้ ต้นไคร้นุ่น หรือสนุ่นเหล่านี้ถ้าใครอยากจะปลูกสามารถขยายพันธุ์โดยการปักชำได้ง่ายมากด้วยนะครับ * *
สวัสดีครับ
สวยทุกภาพ งามทุกตัวอักษร ที่ปรากฎในบันทึกนี้ครับ
ทำให้ผมรับรู้ว่า ท่ามกลางสภาพอันเสื่อมโทรม การปนเปื้อนทางมลภาวะ
ยังมีที่แห่งหนึ่งริมสายน้ำป่าสักนี่เอง ที่ยังคงมีความงดงาม ความร่มรื่น อยู่อย่างล้นเหลือครับ
เป็นบันทึกแห่งสุนทรีย์แท้จริงครับ
สวัสดีครับคุณนายดอกเตอร์
แล้วอ่านว่า "สะ-หนุ่น" หรือ "สะ-นุ่น" ครับ
ไม่เคยเห็นเหมือนกันครับ
บรรยากาศสวยงามมากจริงๆ อิจฉาๆๆ
สวัสดีครับ
สวัสดีและขอโทษทุกท่านเลยนะคะที่หายไปนานไม่ได้รีบตอบ ขอบคุณที่ทุกท่านอุตส่าห์แวะมาทักทาย แล้วถูกปล่อยให้คอยอย่างนี้
ภาพที่คุณต้อมชอบพี่ก็ชอบมากค่ะ ตอนนำภาพลงคอมฯแล้วเปิดดูยังปลื้มเลยที่กล้องเด็กๆ ของพี่ถ่ายภาพอย่างนี้ได้ด้วย ดีใจที่เพิ่มความรู้รอบตัวจากต่างถิ่นให้คุณต้อมอีกเรื่องหนึ่งค่ะ
ต้นสนุ่นนั้นดูเผินๆเป็นต้นไม้ที่พื้นๆมาก ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นด้วยรูปทรง หรือ ดอก ใบ แต่หากมีเวลา หรือช่างสังเกตจึงจะพอมองเห็นความงาม อย่างที่คุณอารามเขียนว่า "เวลาลมพัดใต้ท้องใบจะเป็นสีเงินระยิบระยับพริ้วไหวแต่ไกล" เล่าถึง The Wind in the Willows บ้างซีคะ ไม่เคยอ่านค่ะ
สนุ่น เป็นต้นไม้ที่มีหลายชื่อค่ะ เช่น คล้าย ไคร้นุ่น ไคร้บก
นี่ล่ะมีน้องๆทีเก่งเทคโนโลยี เทคนิค ก็ดีอย่างนี้ ขอบคุณที่ทำให้ข้อมูลสมบูรณ์ เป็นประโยชน์ยิ่งขึ้นค่ะ
คุณหมีเชอรี่ ชอบต้นสนุ่นตรงเป็นนักสู้ที่ให้ข้อคิดแก่เราได้ดี มีโอกาสก็มาชมต้นจริงกันนะคะ
คุณ นายสายลม อักษรสุนทรีย์ เพิ่งมาเปิดเผยความหล่อที่นี่เป็นครั้งแรกนะคะ ต้องขอบคุณที่ต้นสนุ่นชักนำมา ที่จริงไม่เคยเหงาเลยค่ะ คงเป็นคนไม่โรแมนติค รู้สึกมีธรรมชาติรอบตัวและธรรมะกับตัว อีกทั้งมิตรมากมายทั้งจากโกทูโนว์และคนจริงๆที่เข้ามาแวะเยือน ทำให้ชีวิตทุกวันเต็มอิ่มค่ะ
คุณบุญรุ่งอยู่แถบทะเลเลยอาจไม่มีใครพูดถึงชื่อต้นสนุ่นนะคะ เป็นต้นไม้บ้านนอกที่ชาวบ้านมักปลูกริมน้ำให้ยึดตลิ่ง และพวกปลายังชอบมาเวียนว่านอาศัยตามรากที่อยู่ใน้ด้วยค่ะ
คุณARAM นำประสบการณ์ตรงมาแบ่งปัน ได้ทั้งความรู้และภาพชีวิตกับธรรมชาติได้ดีมากจริงๆค่ะ ดีใจที่คุณเข้ามาช่วยทำให้เรื่องราวมีสาระขึ้น เป็นความรู้ที่คนเมืองที่เพิ่งมาอยู่บ้านนอก(ไม่รังเกียจคำว่าบ้านนอก ดูจริงใจและน่ารักดี แม้คำว่า ชนบทจะดูสุภาพกว่า)อย่างดิฉันไม่มีทางทราบได้หากไม่มีใครบอกเล่าให้ฟังค่ะ
คุณ paleeyon แหมชมซะเขินเลยค่ะ ก็เป็นความงามแบบตรงๆ จากชีวิตจริงๆ ถูกใจคนรักธรรมชาติ และคนในเมืองใหญ่ที่ไม่ค่อยพบเห็นสิ่งเหล่านี้ ซึ่งที่จริงยังมีอีกมากมายหลายแห่งค่ะ เพียงแต่เราอาจไม่ทราบ ให้ซ่อนตัวรู้กันเฉพาะหมู่คนที่ชื่นชมและรักษา ดีกว่าชื่นชมเพียงต้องการเสพย์นะคะ
คุณ อัยการชาวเกาะ ชาวเกาะคงไม่ได้เห็นกันได้ง่ายๆหากไม่ไปเยือนชาวท้องทุ่งบ้างค่ะ
อ่านว่า สะ -หนุ่น ค่ะ
คุณ หนุ่ม ร้อยเกาะ คงไม่ผิดหวังแน่นอนสำหรับข้อมูลต้นสนุ่น มีผู้เข้ามาช่วยเติมให้แล้วข้างต้น ขอบคุณที่ข้ามน้ำมาเยี่ยม สงสัยมาเรือลำเดียวกันกับท่าน อัยการชาวเกาะ หรือเปล่าคะ ^_^
ขอบคุณคุณดวงพร ที่มาเยี่ยมและชวนไปเดินอย่างมีความสุขด้วยกัน ไปเดินมาแล้วค่ะ แต่ไม่ได้แสดงตัว หมู่นี้ไม่ค่อยมีเวลาและพลังที่จะเข้าไปอ่านและเขียนความเห็น คำทักทายอย่างที่เคยทำอยู่ประจำค่ะ
อ้อยควั้น ดีใจที่นำเรื่องแปลกๆมาให้เพื่อนๆและน้องๆในบล็อกได้รู้จักสมบัติแห่งแผ่นดินของเรากันค่ะ ต่างคนก็ต่างนำเรื่องราวมาเล่า มาแบ่งปันกัน เป็นความสุขจากกัลยาณมิตร และสุขที่ได้เรียนรู้ด้วยนะคะ
บ้านของดิฉันชื่อหมู่บ้านท่าสนุ่น มีคลองเล็กชื่อคลองท่าสนุ่นไหลออกมาบรรจบกับคลองแควออ้ม แล้วไหลออกมาบรรจบกับแม่น้ำแม่กลองอีกทีค่ะ อยู่อ.เมือง จ.ราชบุรี ตอนเด็กๆที่ดิฉันจำได้ลักษณะธรรมชาติเหมือนกับในรูปและที่คุณบรรยายไม่ผิดเพี้ยน แต่บัดนี้ไม่เหลือต้นสนุ่นไว้ให้ลูกหลานได้ดูแม้แต่ต้นเดียว ดิฉันเคยพายเรือเพื่อตามหาต้นสนุ่นตั้งแต่ต้นคลองจนถึงท้ายคลองเพื่อตามหาต้นสนุ่นต้นสุดท้ายเพื่อมาปลูกให้ลูกหลานได้ดูว่าชื่อหมู่บ้านของเราคือหมู่บ้านท่าสนุ่น แต่สัญญลักษณืของหมู่บ้านไม่มีเหลือให้เห็นแล้ว ดิฉันอยกทราบว่าสถานที่ที่คุณถ่ายรูปมาให้ดูคือที่ใด จะได้ไปขอพันธ์ต้นสนุ่นมาปลูกให้ตลอดคลองท่าสนุ่นเพื่อให้บรรยากาศเก่าๆ ธรรมชาติดีกลับคืนมาค่ะ ขอความกรุณาช่วยตอบด้วยนะคะ
สวัสดีค่ะคุณ mhon ดีใจจังค่ะที่มีผู้เห็นคุณค่าของต้นไม้ที่ดูธรรมดาเช่นต้นสนุ่น คนสมัยนี้ไม่ค่อยจะได้รู้จักกันแล้วนะคะ
ภาพที่ถ่าย เรื่องที่เล่าประกอบ เป็นเรื่องจริงจากบ้านและชีวิตประจำวันของดิฉันเองค่ะ ที่อยู่คือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ดิฉันเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ราวเจ็ดปี ต้นสนุ่นนั้นเป็นต้นไม้เดิมที่อยู่ที่ชายน้ำอยู่แล้วค่ะ แถวนี้ยังมีต้นสนุ่นอยู่อีกมาก ดิฉันจะหาข้อมูลให้ว่าจะนำไปปลูกต้องทำอย่างไร ปลูกด้วยเมล็ดคงจะนานกว่าจะโต คุณช่วยส่งอีเมล์ให้ที่อยู่ไว้ได้มั้ยคะ เผื่อมีข่าว ข้อมูลจะได้ส่งไปให้ค่ะ (ไปที่อีเมล์นะคะ ไม่ใช่โพสต์ข้อมูลที่ตรงนี้ ซึ่งดิฉันไม่เห็นอีเมล์แอดเดรสของคุณค่ะ)
ยินดีมากค่ะหากจะช่วยให้คุณทำสิ่งดีๆแก่หมู่บ้านที่เกิดของคุณได้
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณที่กรุณาตอบและหาวิธีขยายพันธ์ให้ดิฉันส่งอีเมล์และที่อยู่ไว้ให้ที่อีเมล์ของคุณแล้วค่ะ
สวัสดีครับ พี่นุช
ได้รู้จักต้นสนุ่นด้วย แถมยังเห็นภาพทั้งแบบไม่มีใบ vs มีใบอีกต่างหาก (ชอบภาพคู่นี้)
ผมเลยติดใจคำว่า willow เลย เพราะฝังหัวมาว่าเป็น ต้นหลิว พี่นุชหรือใครช่วยขยายความ/แก้ไข หน่อยครับ
ขอยอมรับว่าตอนแรกอ่านเป็นต้นนุ่นค่ะ 555 ฟามรู้น้อย ; P แต่อ่านไปอ่านมากลับเคยรู้จักเพราะชื่อภาษาอังกฤษนะคะ แดะไปหน่อย แต่ได้ยินชื่อ willow มาก่อนหน้าสนุ่นแน่ๆ เคยผ่านตาจากการอ่านหนังสือฝรั่งแต่ก็นึกหน้าตามันไม่ออกเวลาเขาบรรยาย และมาอ่านเจออีกครั้งในเรื่อง Harry Potter คือโรงเรียน Hogwarts เขาปลูกเจ้า Whomping Willow ไว้ มาเห็นภาพในหนังแต่ก็ไม่รู้ว่าของจริงเหมือนที่เขาทำไว้หรือเปล่า
ปล. ที่พี่ชิวเข้าใจก็ไม่น่าผิดนะคะ เพราะไปเปิด dictionary ดู เขาว่า willow เป็นต้นไม้จำพวกสนุ่นและหลิว สงสัยต้องรอพี่นุชมาไขข้อข้องใจ
ตอบอาจารย์ดร.บัญชา และน้องซูซาน Little Jazz ด้วยกันเลยนะคะ
แหม พี่ก็เป็นพวกนักนิยมวัชพืชพื้นบ้าน รู้นิดๆหน่อยค่ะ ดีที่ถามทำให้ได้ค้นคว้าขยายความรู้กัน เท่าที่ค้นๆและอ่านสรุปมาได้ก้ประมาณนี้ต่ะ
Willow นั้นเป็นคำกลางๆที่ใช้เรียกต้นไม้ประเภทไม้ยืนต้นขนาดกลาง ในFamily SALICACEAE(เป็นพวกไม้มีดอก) , genus Salix, มีถึง 400 species
ต้นหลิวเป็นที่รู้จักกันกว้างขวางเรียกว่า weeping willow
ยังมีwillow อีกชนิดทีคนไทยคุ้นเคย คือ Pussy Willow ที่ดอกเป็นตุ่มๆเหมือนกำมะหยี่อยู่เรียงกันบนก้านยาวๆ นิยมนำมาเป็นไม้แต่งแจกัน
พวกต้นไม้ตระกูลนี้มีชื่อมากเรื่องปลูกชายน้ำให้ยึดตลิ่งค่ะ
อ่านเพิ่มเติมที่นี่นะคะ
อยากปลูกต้นสนุ่นน้ำค่ะ ไม่รู้จะหาซื้อจากที่ไหน พี่ๆท่านใดมีแหล่งข้อมูลรบกวนขอความรู้นิดนึงนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณคุณเกิดเป็นกวางที่เข้ามาแวะอ่านค่ะ เพิ่งมาเป็นสมาชิกใหม่หรือคะ ยินดีต้อนรับค่ะแล้วมาแวะที่บล็อกนี้บ่อยๆนะคะ
ต้นสนุ่นที่บ้านเป็นต้นไม้ติดที่ มาอยู่ก็เห็นเป็นแถวเป็นแนวไปตลอดโค้งน้ำช่วงนี้ค่ะ ต้นไม้พื้นบ้านน่าจะหาซื้อยาก มีข้อมูลว่าสนุ่นขยายพันธุ์ง่ายด้วยการปักชำ ยังไม่เคยลองเลยค่ะ
อปันสัก 1-2 ต้นได้ไหมคะ เป็นนักศึกษาแพทย์ หาอยู่นะคะ หายาก มีบ้านอยู่ริมคลองบางแวก จะลองปลูกดูนะคะ มือถือ 086-470-0972 ขอบคุณล่วงหน้านะคะ ขอด่วนด้วยได้ไหมคะ