เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้มิติใหม่เพื่อพัฒนางานส่งเสริมการเกษตร
กระผมจะขอเล่าที่มีโอกาสไปร่วม เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการพัฒนางานส่งเสริมการเกษตร ของกรมส่งเสริมการเกษตร จัดขึ้นที่อาคารฝึกอบรมศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร(พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง) จังหวัดสุพรรณบุรี ระหว่างวันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2550 โดยมีนักส่งเสริมการเกษตรระดับปฏิบัติการจากภูมิภาค หรือพูดง่ายๆก็คือส่วนใหญ่จะเป็นเลขานุการคณะกรรมการบริหารศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล ที่ประสบความสำเร็จในการทำงานส่งเสริมการเกษตรในระดับพื้นที่ และยังมีบุคลากรที่มีประสบการณ์ในการทำงานมาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยใช้เทคนิคจากเรื่องเล่าประสบการณ์จริงของการทำงานส่งเสริมการเกษตรในระดับพื้นที่และชุมชนนั่นเอง
เป้าหมายของการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครั้งนี้ก็คือ การพัฒนาระบบการทำงานส่งเสริมการเกษตร ที่เรียกว่ามิติใหม่ของกรมส่งเสริมการเกษตร ณ.ปัจจุบันนี้เองครับ ความจริงแล้วเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ลักษณะอย่างนี้ มีบุคลากรทั้งระดับกรม เขต จังหวัด อำเภอ และตำบล ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันและมีการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์จริง โดยได้งานและบรรยากาศ ซึ่งหาดูได้ยากจากการทำงานที่ผ่านมา สำคัญที่สุดก็คือการฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกันแต่มีข้อตกลงกันว่าต้องแสดงความคิดเห็นเชิงบวกที่เป็นลักษณะHOWTO หรือพูดง่ายๆก็คือให้พูดถึงขั้นตอนและวิธีการทำกันอย่างไร นั่นเองครับ ปกติเราเคยพูดกันในเวทีเสวนา KM ที่ส่งเสริมการพูดเชิงบวก คิดเชิงบวกนั่นเอง
การทำงานส่งเสริมการเกษตรมิติใหม่นี้จะมุ่งเป้าหมายไปที่ชุมชนเข้มแข็ง และพึ่งตนเองได้ โดยมีกรอบแนวคิดนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไปเป็นแนวทางในการดำเนินงาน ถ้าหากจะพูดถึงวัตถุประสงค์ของการจัดเวทีเพื่อที่จะพัฒนาระบบการทำงานส่งเสริมการเกษตรของ นักส่งเสริมการเกษตรทุกระดับ จะทำงานกันอย่างไร และจะใช้องค์ความรู้อะไรบ้างไปทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาชุมชนเกษตร องค์กรเกษตรกร และเกษตรกร นั่นเอง
จะขอเล่าต่อถึงกระบวนการที่จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้ง3 วัน โดยทีงานคุณอำนวยซึ่งประกอบไปด้วย ท่านไพรัช หวังดี (เกษตรจังหวัดสุพรรณบุรี ) คุณสรณพงษ์ บัวโรย (จากสมุทรสงคราม) คุณศิริวรรณ หวังดี (สพท.กรมส่งเสริมการเกษตร) คุณเชิงชาย เรือนคำปา (จากกำแพงเพชร)และผม และยังมีทีมงานอีกหลายท่านจากกรมส่งเสริมการเกษตร ที่ไม่ได้เอ่ยนามครับ ได้มีความตั้งใจ ที่จะให้เกิดบรรยากาศของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อพัฒนาระบบการทำงานส่งเสริมการเกษตรมิติใหม่นี้อย่างแท้จริง ซึ่งมีกระบวนการพอสรุปได้ดังนี้
ขั้นที่1 ซักซ้อมความเข้าใจของทีมเลขานุการและทีมวิทยากรกระบวนการ(ทีมคุณอำนวย) พร้อมได้ทบทวนการออกแบบกระบวนการ ที่จะดำเนินการทั้ง3 วัน
ขั้นที่2 มีการกำหนดโจทย์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ได้แสดงความคิดเห็นในเวทีใหญ่ โดยใช้บัตรคำเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล จากนั้นทีมช่วยกันจัดหมวดหมู่ ข้อมูล และใช้บันทึกลงในMind Map
ขั้นที่3 การแบ่งกลุ่มย่อยออกเป็นสองกลุ่ม โดยใช้ฐานข้อมูลจากMind Map ในขั้นที่2 และใช้ฐานข้อมูลจากนโยบายและแนวทางการดำเนินงานส่งเสริมการเกษตร ปี 2551 โดยเปรียบเทียบและบูรณาการร่วมกับเรื่องเล่าจากประสบการณ์การทำงานของนักส่งเสริมระดับปฏิบัติในระดับพื้นที่และชุมชน ในขณะเดียวกันให้ผู้แทนกลุ่มย่อยทุกกลุ่มได้ฝึกทักษะการเป็นคุณอำนวย และคุณลิขิตไปพร้อมกันด้วย
ขั้นที่4 ใช้เทคนิค AAR. ประเมินผล สรุปผลระหว่างปฏิบัติงานของทีมเลขานุการและ ทีมคุณอำนวย ขณะที่เสร็จสิ้นกระบวนการจัดเวทีทั้ง 2 วัน โดยมีการสะท้อนผลของจัดกระบวน และเติมในส่วนที่ขาดไป แต่ต้องรักษาบรรยากาศแห่งความร่วมมือครับ เพื่อจะกำหนดแผนปฏิบัติการในครั้งต่อไป
ขั้นที่5 นำเสนอผู้ของข้อมูลที่ได้จากการแบ่งกลุ่มเพื่อการอภิปรายในกลุ่มย่อย โดยผู้แทนกลุ่ม แล้วเปิดโอกาสให้ที่เวทีใหญ่ได้เสนอเพิ่มเติมเพื่อความสมบูรณ์ของข้อมูล ในขณะเดียกัน เราก็จับประเด็นในภาพรวมใหญ่อีกครั้ง โดยผมและคุณศิริวรรณ ได้ทำหน้าที่เป็นคุณลิขิต โดยใช้เครื่องมือModel และบัตรคำ แต่ในขณะเดียวกันทีมงานแลขาฯของกรม ก็จะบันทึกโดย Mind Map อีกครั้ง เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลในส่วนที่ตกหล่น ดำเนินช่วงเช้าทั้ง2วัน
ขั้นที่ 6 มีการประมวลข้อมูลที่ดำเนินการมาตั้งแต่ต้น และจะดำเนินการแลกเปลี่ยนในประเด็นที่ขาดข้อมูล เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุม โดยเทคนิคที่ใช้คือคำถามนำ แล้วตอบลงบัตรคำ ขณะเดียวกันทีมงานได้ช่วยกันจัดกลุ่มบัตรคำเป็นหมวดหมู่ แล้วทีมคุณอำนวยสรุปให้ที่ประชุมใหญ่ได้ทราบข้อมูลที่ได้ และเปิดโอกาสให้ที่เวทีใหญ่ได้เติมข้อมูลได้อีก พร้อมทั้งมีคณะทำงานระดับกรมส่งเสริมการเกษตร ได้ให้ข้อคิด ข้อสังเกต ข้อแนะนำ และการที่จะนำข้อมูลที่ได้เชิงคุณภาพครั้งนี้ไปประมวลผล และใช้ประโยชน์ต่อไปก็จะเป็นหน้าที่ของคณะทำงานระดับกรมส่งเสริมการเกษตรที่จัดเป็นคู่มือในการทำงานต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้
สี่งที่ผมพอใจมากคือในเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครั้งนี้ ทำให้นักส่งเสริมการเกษตรในอนาคต ที่จะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานจาก บนฐานทรัพยากร(Resource-Based) มาเป็นทำงานบนฐานองค์ความรู้ (Knowledge-Based )จะต้องมีกำหนดสมรรถนะ(Competeny)ในการทำงานต่อไปเพื่อพัฒนาไปสู่นักส่งเสริมการเกษตรมืออาชีพมีดังนี้คือ
1.จัดการความรู้(KM)เป็น
2.ทำการวิจัยและพัฒนา(R&D)เป็น
3.นักประสานงานที่ดี
4.กำหนดเป้าหมายการทำงานเป็น
5.สืบค้นหาข้อมูลเป็น
6.พัฒนาตนเองอยู่เสมอ /ใฝ่เรียนรู้
7.ทำงานอย่างมีระบบและเชื่อมโยงจัดระบบการทำงานของตนเองได้ ทำงานอย่างมีความสุข
(เชิญแลกเปลี่ยนเพื่อการเติมเต็มด้วยครับขอบคุณ)
หวัดดีครับ
สวัสดีครับ พี่เขียว