8 วิธีลดไข้หวัดท้องเสีย (ทำให้ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน)
โลกเรามีไวรัสตัวร้ายที่ทำให้เกิดโรคไข้หวัดลำไส้อักเสบ (viral gastroenteritis) ซึ่งพบมากในทวีปที่คนส่วนใหญ่ไม่รวยคือ อาฟริกาและเอเชีย
ไวรัสตัวร้ายที่เป็นสาเหตุของโรคนี้มีหลายชนิด ทว่า... ชนิดที่สำคัญคือ "โรต้าไวรัส (rotavirus)" ซึ่งมักจะระบาดในหน้าหนาว เนื่องจากไวรัสชนิดนี้ไม่ชอบอากาศร้อน และเติบโตได้ดีในช่วงอากาศเย็น
...
เจ้าไวรัสตัวร้ายทำให้เด็กๆ ทั่วโลกเป็นไข้ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียตายกันประมาณปีละ 611,000 คน
สาเหตุที่ป่วยกันถึงตายนั้น... ส่วนหนึ่งเป็นผลจากโรคแทรกซ้อน เช่น ท้องเสียนานทำให้ภาวะขาดอาหารรุนแรงขึ้น เมื่อขาดอาหารแล้วภูมิต้านทานจะลดลง ปอดบวม หูชั้นกลางอักเสบ โพรงรอบจมูก(ไซนัส)อักเสบ ฯลฯ
...
ท่านอาจารย์ทิโม เวซิคาริ และคณะ แห่งมหาวิทยาลัยทามเปอเรอ ฟินแลนด์ ทำการศึกษาผลของวัคซีนจากบริษัทแกลกโซสมิธไคลน์ในเด็ก 3,874 คน
วัคซีนนี้ครอบคลุมไวรัส 5 สายพันธุ์ (G1,G2,G3,G4,G9) ซึ่งครอบคลุมโรต้าไวรัสที่ระบาดบ่อยๆ 98%
...
ผลการศึกษาพบว่า วัคซีนมีประสิทธิผลในการป้องกันโรคเฉลี่ยประมาณ 87.1% ซึ่งนับว่า เป็นข่าวดี
ทีนี้ข่าวดีย่อมมาคู่กับข่าวร้าย... ข่าวร้ายคือ วัคซีนที่ออกใหม่มักจะมีราคาแพง และคนจนในทวีปอาฟริกา-เอเชียส่วนใหญ่ก็ไม่มีเงินซื้อวัคซีน
...
กว่าวัคซีนจะมีราคาถูกลงจนคนทั่วไปมีโอกาสใช้กัน มีวิธีป้องกันเจ้าโรต้าไวรัสที่ทำให้เกิดโรคไข้หวัดลำไส้อักเสบดังต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก โดยเฉพาะในห้องแอร์ รถโดยสารติดแอร์
- ล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งก่อนกินอาหาร ดื่มน้ำ แปรงฟัน บ้วนปาก ขยี้จมูก (เช่น เวลาคันจมูก ฯลฯ) หรือเข้าบ้าน (เพื่อป้องกันการนำเชื้อโรคจากนอกบ้านเข้าบ้าน)
- ล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งหลังออกจากห้องน้ำ ไอ จาม ขยี้จมูก (เช่น เวลาคันจมูก ฯลฯ)
- สถานที่สาธารณะ โรงเรียน โรงงาน โรงพยาบาลควรจัดทำห้องนำประเภทที่ไม่ต้องเปิด-ปิดประตู ใช้ประตูซิกแซกที่บังตาได้แทน เพื่อลดการแพร่เชื้อผ่านลูกปิดประตู และควรจัดอ่างล้างมือ-สบู่ไว้ให้พร้อม
- ควรมีนโยบายส่งเสริมโรงเรียน โรงงาน หรือโรงพยาบาลสะอาด โดยส่งเสริมให้ทุกคนที่เข้าไปในหน่วยงานล้างมือด้วยสบู่ก่อนทุกครั้ง
- โรงพยาบาล... อย่าเน้นเรื่องล้างมือเฉพาะเจ้าหน้าที่ ควรส่งเสริมให้คนไข้และญาติล้างมือก่อนเข้าไปในหน่วยงานด้วย เนื่องจากเชื้อโรคติดต่อผ่าน "มือ" ของคนทุกคน ไม่ใช่ติดต่อผ่านเฉพาะ "มือ" ของเจ้าหน้าที่
- ไม่ควรใช้แบบสอบถามว่า ล้างมือกันมากน้อยเท่าไร เนื่องจากคำตอบที่ได้มักจะแฝงไปด้วยคำโกหก ควรใช้เทคโนโลยีตรวจจับ เช่น ตรวจนับจำนวนครั้งของการล้างมือผ่านกล้องวงจรปิด ฯลฯ
- ไม่ควรใช้นโยบายส่งเสริมให้คนไม่ลาป่วย หรือให้รางวัลการลาป่วยเป็น 0 วัน เนื่องจากจะทำให้คนที่ป่วยไปทำงาน หรือไปเรียน และแพร่โรคติดเชื้อมากขึ้น
...
การช่วยกันใส่ใจสุขภาพมีส่วนสำคัญในการช่วยชาติประหยัดค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ผลิตผลที่ตกลงจากการขาดงานในโรงงาน ฯลฯ
การติดเชื้อไวรัส ไม่ว่าจะเป็นหวัด ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือไข้หวัดลำไส้อักเสบ อาจมีโรคติดเชื้ออื่นๆ แทรกซ้อน เช่น ปอดบวมในคนสูงอายุ โรคขาดอาหารในเด็ก ฯลฯ ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้ การป้องกันไว้ก่อนจึงปลอดภัยกว่าการตามแก้ไขปัญหาในภายหลัง
...
โรคติดเชื้อไวรัส เช่น หวัด ฯลฯ ไม่ได้ติดต่อผ่านการไอ จาม หรือทางอากาศอย่างเดียว ทว่า... ติดต่อผ่านการสัมผัสด้วย เนื่องจากเวลามีน้ำมูก น้ำลายติดมากับมือ ไปป้ายสิ่งของต่างๆ ก็จะทำให้เกิดการแพร่กระจายโรคไปได้อย่างรวดเร็ว
การล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์จึงมีส่วนช่วยป้องกันโรคได้มากกว่าที่คิด
...
ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
ที่มา
- Thank Reuters > Ben Hirschler > Glaxo rotavirus vaccine highly effective: study > [ Click ] > November 22, 2007. / Lancet.
- ข้อมูลและการอ้างอิงในบล็อก "บ้านสุขภาพ" เป็นไปเพื่อส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค ไม่ใช่เพื่อรักษาโรค
- ท่านที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาหมอ พยาบาล เภสัชกร หรืออนามัยที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้
- ขอขอบคุณอาจารย์ณรงค์ ม่วงตานี > สนับสนุนเทคนิค iT.
- นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ > 23 พฤศจิกายน 2550.
ความเห็น (9)
ขอบคุณครับคุณหมอ
จะได้นำไปปฏิบัติตนเอง และเผยแพร่ให้คนอื่น ๆ ทราบและปฏิบัติครับ
สวัสดีครับ
ขอขอบคุณ... คุณนายช่างใหญ่...
- ขอขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียน และให้กำลังใจครับ
- ถ้าผมเป็นไข้หนักๆ
- จะท้องเสียประจำเลย
- แงๆ
ขอขอบคุณ... คุณ suksom
- คนเรามีธรรมชาติไม่เหมือนกันหลายเรื่อง
ผมเชื่อว่า คนที่ถ่ายง่ายอย่างไรเสียก็ยังดีกว่าคนที่ถ่ายยาก
- ที่ทำงานผมมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง... ท่านถ่าย 3 วันต่อ 1 ครั้ง
- ผมยังสงสัยอยู่เลยว่า การนับกำหนดวันถ่ายของท่านคงจะยุ่งไม่น้อยทีเดียว
สัปดาห์ก่อน...
- สัปดาห์ก่อนมีนักศึกษาพยาบาลไปดูงานที่โรงพยาบาล
- นักศึกษาท่านหนึ่งบอกว่า ท่านถ่าย 20 วันต่อ 1 ครั้ง
- แบบนี้ยิ่งยุ่งใหญ่...
หมอค่ะ...
ที่บ้าน ท้องเสียกันทุกคนเลยค่ะ
* อาการท้องเสียบ่อยๆ ออกแบบกระปิดกระปอย คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้
( ป่วยเป็นอะไรหรือค่ะ ? ) ( เป็นทั้งบ้านเลย )
แต่ไม่ได้เป็นพร้อมกัน เป็นถัดๆ วันกันมาค่ะ
ตอนนี้เป็นมาแล้ว 3 วัน ค่ะ หมดแรง ไปไหนไม่ได้เลย
ทำยังงัยดีค่ะ?
เป็นอะไร? ทานยาไรดี? กินอะไรดี? ไม่กินอะไรบ้าง?
*******ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ*******
บล็อก "บ้านสุขภาพ" คงจะให้การวินิจฉัยโรค หรือรักษาโรคออนไลน์ไม่ได้ เนื่องจากจะทำให้ไม่มีเวลาเตรียมเขียนเรื่องใหม่ๆ
- เรียนเสนอให้ปรึกษาหมอใกล้บ้านครับ
อาการดังกล่าวเป็นพร้อมกันทั้งบ้าน มีไข้ ท้องเสียบ่อย คลื่นไส้ อาเจียน
- หน้าหนาวแบบนี้มีโอกาสเป็นไข้หวัดลงลำไส้-กระเพาะอาหาร (viral gastroenteritis) สูงมากๆ ครับ
- อาจจะลองซื้อยาแก้อาเจียนจากร้านขายยาที่มีอาจารย์เภสัชกร กินก่อนอาหารครึ่งชั่วโมงทุกๆ 6 ชั่วโมง
- เมื่ออาการคลื่นไส้ทุเลาแล้ว ควรงดหรือลดนมลงประมาณครึ่งหนึ่งนาน 1-2 สัปดาห์ กินนมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียมแทนไปก่อนได้
- หลังจากนั้น.... ถ้าอาเจียนไม่มาก ควรดื่มน้ำเกลือแร่ (ORS) บ่อยๆ และกินยาพาราเซตามอลแก้ไข้แก้ปวด อาการมักจะดีขึ้นภายใน 4-6 ชั่วโมง (ควรกินยาลดคลื่นไส้ก่อนเสมอ)
สวัสดีคะ หนูอายุ 11 ปีนะคะช่วงปีใหม่นี้หนูเป็นหวัด พอตกเย็นก็ท้องเสีย หนูว่าน่าจะเป็นเจ้า โรต้าไวรัศ นี้แหละค่ะ
สวัสดีค่ะคุณหมอวัลลภ ดิฉันอยากสอบถามเรื่องอาการของไช้หวัด คือ ลูกชายของดิฉัน อายุ 5 ขวบ ทุกครั้งท่ีเขาเป็นหวัดจะมีไข้สูงร่วมด้วยอาการปวดท้อง จะปวดแบบเจ็บเกร็งสักพักแล้วก็คลาย ไม่มีอาการท้องเสีย หรืออาเจียน หรือเวลาท่ีเขาเมารถเขาจะปวดท้องมาก หลังจากนั้นก็จะอาเจียน ไม่มีอาการมึนหรือปวดหัวแต่จะปวดท้องอย่างเดียว ทำใมถึงเป็นเช่นนั้นคะ เพราะตัวดิฉันเองเวลาเป็นหวัดก็จะมึนหัว มีไข้สูง หรือเวลาเมารถก็ไม่เคยมีอาการปวดท้อง เหมือนกับลูกชาย จึงสังสัยว่าทำใมลูกถึงมีอาการแบบนั้นคะ
ง
ภูษณิศา ภัทรพรภักดี
เรียนคุณหมอค่ะ
คุณแม่ท้องเสียตั้งแต่ 11 เมษายน 56 จนบัดนี้ 10 พค 56 เีิ้ริ่มจากอาการท้องเสียและเริ่มถ่ายตลอดวันจนต้องใส่
แพมเพอร์สทุกวันนี้ จากที่เคยทานได้ปกติ อาทิตย์นี้ทานอะไรไม่ได้เลย ทั้งอาหาร ขนม ผลไม้สักชิ้นเดียวก็ไม่ลง
ดื่มแต่น้ำเกลือแร่ พร้อมยาทางรพ.เจริญกรุงประชารักษ์ให้มาหลังจากที่ไปหาหมอถึง 2 รอบ ณ วันนี้คุณแม่อาเจียน
ทั้งที่ไม่มีอะไรลงท้องมา3-4วันแล้ว ไ้ด้แต่กินยา ไม่มีเรี่ยวแรง อะไรก็เหม็นไปหมด นอนครางอย่างเดียว
มีโรคประจำตัวคือเบาหวาน ความดัน ไม่ทราบจะรักษารพ.ไหนดีที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยสุด เนื่องจากฐานะทางบ้าน คุณแม่มีบัตรทองอยู่รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ ถนนตกค่ะ รอปีหน้าทำเรื่องย้ายมเหสักข์เพราะระยะทางใกล้บ้านอีกหน่อยค่ะ เมื่อ2-3 วันก็ไปรพ.จุฬา เขาไม่รับบอกคนไข้เต็มเลยไม่ได้หาหมอ ตอนนี้เห็นอาการแล้วน่าเป็นห่วงมากค่ะคุณหมอ