เมื่อสิ่งที่เห็นไม่ใช่สิ่งที่เป็น


ทุกสิ่งทุกอย่างที่สายตาเรามองเห็น มักมีที่มาที่ไปที่มากกว่าอยู่เบื้องหลังเสมอ

ขึ้นต้นบันทึกมาอย่างนี้ อย่าเพิ่งแปลกใจนะคะ ว่าวันนี้จะมาไม้ไหน ประโยค"สิ่งที่เห็นไม่ใช่สิ่งที่เป็น" นี้เป็นประโยคที่พูดคุยกันบ่อยๆในกลุ่มเพื่อนค่ะ เวลาที่เราเห็นปรากฏการณ์ของมนุษย์ แล้วเราเอามาเป็นประเด็นในการนั่งถกกันในวง(ปาร์ตี้) เพราะทุกๆวันนี้คนเรามักตัดสินคนอื่นๆจากเฉพาะสิ่งที่ตนเองเห็นเท่านั้น (บางทีแค่เห็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ก็ตัดสินได้เลยว่าคนๆนั้นเป็นอย่างไร) แต่พระท่านยังบอกเลยนะคะว่าการรับรู้ของคนเราที่จะก่อให้เกิดสุขหรือทุกข์นั้น มาจากตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ

ดังนั้นเพียงแค่ตาเราเห็นและรีบด่วนสรุปคงจะไม่ดีนัก เคยฟังเพลงของวงเฉลียงไหมคะ "อื่นๆอีกมากมาย" ทุกอย่างมีที่มาที่ไปเสมอ ซึ่งถ้าเราเข้าใจซะโลกนี้อาจจะร้อนน้อยลง! (อ้าวเกี่ยวอะไรกันเนี่ย) ความจริงแล้วทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวข้องกันนะคะ สมัยวัยรุ่นตัวเองเป็นคนชอบขับรถเร็ว แล้วเชื่อได้เลยว่าไอ้พวกที่ชอบขับรถเร็วมักจะหงุดหงิดเวลาขับไปเจอรถคันหน้าที่ขับช้าๆ (แถมชิดขวาอีกต่างหาก)  แล้ววันหนึ่งได้ไปนั่งรถคนอื่นที่ขับรถเหมือนที่ตัวเองเคยหงุดหงิดแป๊ะเลย คือขับชิดขวาแถมขับช้าอีกต่างหาก แกขับไปแล้วคุยไปมีจังหวะหนึ่งบทจะเปลี่ยนเลนส์แกก็เปลี่ยนเลย ได้ร้องบอกแกว่า "ระวังรถหลังนะคะ" แกว่าไงรู้ไหมคะ แกว่า "เป็นหน้าที่ที่คันหลังต้องระวังเอง" 555! เออ งงไปเลย (ตูไม่น่ามาขึ้นกะมันเลยให้ตาย) เพราะตัวเองไม่เคยคิดว่าจะมีคนคิดแบบนี้ แต่เชื่อเถอะค่ะ พอเราอายุมากขึ้นและรู้จักคนเยอะๆ ความคิดที่แปลกๆกว่านี้จะมีอีกเยอะ (แล้วเราก็จะงงๆปนขำ รวมทั้งหวาดหวั่น 555!) พอตอนนี้เวลาขับรถแล้วเจอรถประเภทนี้ ก็ถือว่าได้โอกาสสร้างกุศลค่ะ เพราะเราวิ่งตามเขา เขาอาจจะคิดฝากชีวิตไว้ในมือเรา เราก็ช่วยให้ชีวิตเค้า(และเราด้วย)ไม่เป็นอะไร แค่นี้ก็ได้บุญโขแล้ว ไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรเลย

ถึงตอนนี้คุณผู้อ่านคงสงสัยว่าแล้วไอ้เรื่องที่เล่ามันเกี่ยวอะไรกะที่จั่วหัวเอาไว้  ก็จะบอกว่าถ้าโลกที่เราเห็น มนุษย์ที่เราเห็น และทุกอย่างที่สายตาเรามองเห็นมักมีที่มาที่ไปที่มากกว่าอยู่เบื้องหลังเสมอ เราลองมองให้มากกว่าสิ่งที่เราเห็นดูบ้าง ตอนนั้นหล่ะค่ะสีสันของชีวิตก็จะเกิดทันที ไอ้ที่เคยหงุดหงิดจากการเห็น อาจสร้างความรื่นรมย์ในแต่ละวันก็ได้ โดยเราอาจจะได้ประโยคที่ว่า "เออ คิดได้ไง " (ทั้งไอ้คนทำและไอ้คนคิดคือเรา) ที่นับไม่ถ้วนในแต่ละวัน

แด่ผู้เสพความรื่นรมย์ทุกท่านค่ะ

หมายเลขบันทึก: 147834เขียนเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2007 10:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีจ้ะ..แอะแอ้..

ว่าแต่ว่า..คนที่ตัวนั่งด้วย..คงไม่ใช่..ใครๆแถวนี้นะ..555

เค้าว่า..นอกจากสิ่งที่เห็นจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นแล้ว..สิ่งสำคัญ..ก็ไม่อาจเห็นด้วยตาด้วย..เพราะบางทีตามันบอกสนิทไปแล้วน่ะง.เหอเหอ..

ไปก่อนนะ..คิดถึงนะจ๊ะ..ทั้งครอบครัวหมูหยองเลย..

มาคอนเฟรรริมม จ้า ว่า สิ่งที่เห็นไม่ใช่สิ่งที่เป็น

(เหมือนที่พี่เห็นเอนั่นแหละ จริงๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่พี่คิดซะหน่อยว่าป่ะ)

แล้ว ความรักทำให้ตาบอดล่ะพี่  มันจิงมั้ยน้อ

(เกี่ยวกันมั้ยเนี้ยะ งิงิ) 

 

5555+

ในที่สุด....ก็มี Blog ....

รออ่านเรื่องต่อไปนะจ้า.....

ขอบใจจ้าครูแอ๊ว และหนูเอ "ความรักทำให้คนตาบอดเนี่ย" ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่ถ้าบอดเห็นทุกสีเป็นสีชมพูไปหมดก็ว่าไปอย่าง เหอๆๆ (เอเอ๊ย พี่ว่าสิ่งที่เห็นอาจน้อยกว่าสิ่งที่เป็นนะ เหอๆ) 

และขอบคุณนะคะ อ.จ๊ะ ที่เข้ามาช่วยๆกันอ่าน 555!

กว่าคนจะรู้ว่า "สิ่งที่เห็นไม่ใช่สิ่งที่เป็น" มักจะรับรู้ว่า

"สิ่งที่เป็นนั้นคือสิ่งที่เห็น" นั้นแล"

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท