บ้านห้วยลุหลวง โอกาสแห่งครูบ้านนอก


ด้วยจิตวิญญาณแห่งการเป็นครู ผมจึงอาสาเป็น"ครูบ้านนอก"

          ด้วยอำนาจแห่ง เงินตรา ที่พยายามเข้ามาแทรกซึมในทุกหย่อมหญ้าของสังคมทุกชนชั้น  ผลของมันทำให้มนุษย์ได้หลงไหลได้ปลื้มกับความพยายามในการหา "เงินตรา" มาไว้ในครอบครองให้ได้มากที่สุด เพราะนั่นจะเป็นโอกาสที่จะได้มาซึ่ง "อำนาจ" ที่มาพร้อมกันกับความมีมากของ "เงินตรา" และแม้กระทั่งกิจกรรมที่สรรสร้างความเป็นมนุษย์ การพัฒนาความฉลาดด้านอารมณ์ (EQ) และการพัฒนาตนเอง พัฒนาสังคม และพัฒนาชาติอย่างกิจกรรมค่ายอาสาพัฒนา กลุ่มผู้ที่ผมเคยร่วมสุขร่วมทุกข์กันมา บัดนี้หลาย ๆ คนได้ผันผ่านแนวคิด และวิถีทางอันดีงามของการออกค่ายอาสาหรือการบำเพ็ญประโยชน์ไปอยู่ภายใต้อำนาจของเงินตราเช่นเดียวกัน

          ความพยายามที่จะแสวงหากิจกรรมที่สนองตอบต่ออุดมการณ์อันแรงกล้าของผมก็เริ่มต้นขึ้น ด้วยความหวังของผมในอันที่จะทำประโยชน์ให้กับสังคมด้วยกำลังกาย กำลังใจและกำลังเงินอันน้อยนิดที่ผมมีอยู่  สอบถามจากผู้มีประสบการณ์ ค้นคว้าจากหนังสือ ค้นหาจากฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ก็พบว่ามีมูลนิธิแห่งหนึ่งที่ได้จัดกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อเด็ก ๆ เยวชนของชาติผู้ซึ่งจะเป็นกำลังอันสำคัญต่อการพัฒนาประเทศชาติต่อไป ซึ่งโครงการนี้ชื่อโครงการ "ครูบ้านนอก " เป็นหนึ่งในหลายโครงการที่ทางมูลนิธิได้จัดขึ้นมาเพื่อสร้างสรรค์ประโยชน์ให้กับสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดเชียงราย

           ด้วยรายได้จากเงินเดือนครูอาจารย์อันน้อยนิด เปรียบเทียบกันกับภาษีสังคมที่คนในอาชีพนี้ต้องประสบอยู่ ไม่ว่าจะเป็นงานบวช งานแต่ง งานศพ งานรับขวัญลูก ของเหล่าบรรดาลูกศิษย์ในอดีต และยังต้องรับภาระคอยดูแลความเป็นอยู่ของลูกศิษย์ในปัจจุบันอีก มันช่างแสน ลำบาก กับการที่จะใช้ชีวิตเพื่อคนอื่นนอกเหนือจากการสอนหนังสือภายในชั้นเรียน แต่เมื่อชะตาชีวิตได้กำหนดให้เราค้นหาสิ่งที่สังคมได้ขาดหายไป เราคงต้องสละเงินจำนวนหนึ่ง คือ 890 บาท ซึ่งคงเป็นเงินจำนวนไม่มากมายสำหรับบางคน แต่เป็นจำนวนเงินที่มากพอดูสำหรับผม แต่ผมต้องใช้มันเพื่อให้มันนำผมไปสู่โลกภายนอก โลกแห่งการทำประโยชน์เพื่อคนอื่น  แต่มันคงไม่เป็นเพียงเท่านั้น ผมต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นค่ารถรับส่งในการทำกิจกรรมที่เชียงรายประมาณ 150 บาท และค่ารถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพมหานคร ไปถึง บขส.เชียงราย คิดเป็นเงิน 810 บาท (ราคาค่าโดยสารจริงคือ 900 บาท ได้ส่วนลด 10%) และขากลับจากเชียงรายสู่กรุงเทพมหานครอีก ซึ่งผมคาดว่าคงจะใช้เงินจำนวนเท่ากันหรือมากกว่า เนื่องจากในช่วงนี้รัฐบาลประกาศให้ รถประจำทางขึ้นค่าโดยสารได้ 3 สตางค์ต่อกิโลเมตร ก็คงใช้เงินประมาณ 800 บาทเป็นค่ารถขากลับ ค่าแท็กซี่ไปกลับหมอชิตอีกประมาณ 200 บาท และคงต้องเตรียมเงินไว้เผื่อซื้อของฝาก ซื้อของให้เด็ก ๆ อีก รวมแล้วผมคิดว่าประสบการณ์ครั้งนี้คงจะประมาณ 3,500 บาท

 

          ผมได้เชื้อเชิญนักศึกษาผู้มีแนวทางและแนวความคิดร่วมกันไปด้วย เด็กเหล่านี้เคยร่วมงานกับผมในชมรมสร้างสรรค์สังคมชนบท เราพยายามช่วยเหลือกัน เจียดเงินกัน หรือแม้กระทั่งออกเงินค่าใช้จ่ายให้ก่อน ได้สมาชิกเป็น ศญามล(แจง) นที(ที) แซม ซึ่งเป็นทีมของเรา 4 คน โดยแซมเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยสยามซึ่งเคยไปเข้าค่ายทำโครงการร่วมกันในโครงการต้นกล้าสีขาวของธนาคารกรุงไทย นอกจากนี้ผมยังได้ชักชวนคนคุ้นเคยรุ่นเก่า ๆ เด็ก ๆ ที่เคยออกค่ายอาสาและทำงานอยู่ที่วิทยาลัยเดียวกันนี้ ก็คือ สุทธิพร(ปอนด์) ถิรวุฒิ(วุฒิ)และ ศิริชัย(หนึ่ง) แห่งสำนักกิจการนักศึกษา และก็ยังมีเด็กที่สนใจจะไปด้วยอีกสองหนึ่งชื่อ โชติรพี และอนุสาท(นัน) จนในที่สุดขบวนคนอาสาจากวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพของเรา ก็ได้สมาชิกทั้งสิ้น 9 คนถ้วน แล้วเราทุกคนจะเดินทางกันในวันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม 2550 อยากรู้จังครับว่าเราจะได้ทำอะไรกันบ้าง

 

 

 

         

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 147289เขียนเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2007 21:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 มิถุนายน 2012 13:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ยินดีด้วยสำหรับการออกไปเป็นครูบ้านนอก เลยขอฝากกลอนไว้ดังนี้

ครูบ้านนอกคอกนาภาระมาก

ต้องเป็นครกเป็นสากกันเต็มที่

หนอนสังคมทำร้ายศิษย์ทั้งกดขี่

ยากเหลือที่จะขจัดปัดเป่ามัน

ฉันเป็นครูบ้านนอกสองปีแล้ว

คงไม่แคล้วมีทุกข์ไร้สุขสันต์ท

ทำแต่งานพร่ำสอนอยู่ทั้งวัน

ยังไม่เคยได้ สองขั้นเหมือนใครใคร

เป็นครูเมืองมีแต่เรื่องอยากดังเด่น

ฉันเคยเป็นมาก่อนพาไหลหลง

แม้นมีพวกมีศักดิ์ มีพรรคพงศ์

ผศ.ดร.คงหาได้อยู่ไม่ไกล

เป็นครูเถื่อนเป็นได้เหมือนวิหกหงส์

ทั้งบินตรงบินเฉียงหัวเอียงซ้าย

พร่ำสอนศิษย์ติดอาวุธทางปัญญาให้ก้าวไกล

เพื่อนำไทยชูธงธรรม นำมวลชน

สวัสดีครับ สหายเก่า สหาย(แก่) ขอบคุณเป็นอย่างสูงที่แวะมามอบบทกลอนอันทรงคุณค่า แฝงไว้ด้วยความเสียดสี ฝากบทกลอนไว้บ้างแล้วกันนะครับ

ด้วยคำมั่นสัญญาของครู

จะเป็นผู้พร่ำสอนศิษย์ให้แตกฉาน

ทั้งความรู้ ความคิด จิตวิญญาณ

ให้สืบสานทำความดีเพื่อแผ่นดิน

ด้วยความรักในสันดานที่มุ่งมั่น

ต้องปลุกปั้นพัฒนาทุกที่ถิ่น

ไม่ว่าศิษย์อยู่ที่ใดในแผ่นดิน

จะโผบินร่อนไปด้วย จิตอาสา

ขอบคุณคร๊าบที่อุตส่าห์อ่าน

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท