ลิเกฮูลู
วันนี้ขออนุญาตพัก “การแสดงพื้นเมืองภาคอีสาน” ไว้ก่อนนะครับ ช่วงที่ผมได้ไปร่วมงานมหัศจรรย์เด็กไทย ระหว่างวันที่ ๑ – ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ ได้ชมการแสดงของนักเรียนจากจังหวัดต่างๆ และได้เคยนำเสนอ “ฟ้อนวี” เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ ในงานวันนั้นมีการแสดงชุดหนึ่งที่น่ารักมาก บนเวทีการแสดงของภาคใต้ จึงเข้าไปเก็บภาพไว้ การแสดงชุดนั้นก็คือ“ลิเกฮูลู”
“ลิเกฮูลู”
หรือ ดิเกฮูลู มาจากคำว่า ลิเก หรือดิเก และฮูลู
ท่านผู้รู้ได้กล่าวไว้ว่าลิเกหรือ ดิเกมาจากคำว่า ซี เกร์ หมายถึง
การอ่านทำนองเสนาะ ส่วนคำว่าฮูลู แปลว่า ใต้หรือทิศใต้
รวมความแล้วหมายถึง
การขับบทกลอนเป็นทำนองเสนาะจากทางใต้
“ลิเกฮูลู”
เป็นการละเล่นพื้นบ้านแถบจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับความนิยมมากของชาวไทยมุสลิม
มักจะใช้แสดงในงานมาแกปูโละ งานสุหนัด งานเมาลิด งานฮารีรายอแล้ว
คำว่า "ลิเก" หรือ "ดิเกร์" เป็นศัพท์เปอร์เซีย
มีความหมาย ๒ ประการ คือ
๑. เพลงสวดสรรเสริญพระเจ้า
ซึ่งเรียกการสวดดังกล่าวนี้ว่า "ดิเกร์เมาลิด"
๒. กลอนเพลงโต้ตอบ
นิยมเล่นกันเป็นกลุ่มคณะ เรียกว่า "ลิเกฮูลู"
บ้างก็ว่าได้รับแบบอย่างมาจากคนพื้นเมืองเผ่าซาไก เรียกว่า
มโนห์ราคนซาไก
บ้างก็ว่าเอาแบบอย่างการเล่นลำตัดของไทยผสมเข้าไปด้วย
การตั้งวงคล้ายกับการตั้งวงลำตัดหรือเพลงฉ่อยของภาคกลาง
คณะหนึ่งมีลูกคู่ประมาณ ๑๐ กว่าคน
ผู้ร้องเพลงและขับร้องมีประจำคณะอย่างน้อย ๒ - ๓ คน
และอาจมีนักร้องภายนอกวงมาสมทบร่วมสนุกอีกก็ได้ กล่าวคือ
คนดูคนใดนึกสนุกอยากร่วมวงก็จะได้รับอนุญาตจากคณะลิเกคล้ายๆ
กับการเล่นเพลงบอกภาคใต้ เวทีแสดงยกสูงไม่เกิน ๑ เมตร โล่งๆ
ไม่มีม่านหรือฉาก ลูกคู่ขึ้นไปนั่งล้อมวงร้องรับและตบมือ
โยกตัวเข้ากับจังหวะดนตรี ส่วนผู้ร้อง
หรือผู้โต้กลอนจะลุกขึ้นยืนข้างๆ วงลูกคู่
ถ้ากรณีมีการประชันกันแต่ละคณะจะขึ้นนั่งบนเวทีด้วยกัน
แต่ล้อมวงแยกกัน การแสดงก็ผลัดกันร้องทีละรอบ
ทั้งรุกทั้งรับเป็นที่ครึกครื้นสบอารมณ์ผู้ชม
การแต่งกาย
แต่เดิมผู้เล่นจะโพกหัว
สวมเสื้อคอกลม นุ่งโสร่ง
บางครั้งอาจเหน็บขวานทำนองไว้ข่มขวัญคู่ต่อสู้
ต่อมามีการแต่งกายแบบการเล่นสิละ แต่ไม่เหน็บกริชหรือถือกริช
อาจเหน็บขวาน
ในปัจจุบันมักแต่งกายแบบไทยมุสลิมทั่วไปหรือตามแบบสมัยนิยม
เครื่องดนตรี
ประกอบด้วย
รำมะนา(รือบานา) อย่างน้อย ๒ ใบ ฆ้อง ๑ วง และลูกแซ็ก ๑ - ๒ คู่
อาจมีขลุ่ยเป่าคลอขณะลูกคู่ร้อง และดนตรีบรรเลง
ดนตรีจะหยุดเมื่อมีการร้องหรือขับ
ทำนองเดียวกับการร้องลำตัดหรือเพลงฉ่อย ท่วงทำนองปัจจุบันมี ๓ จังหวะ
คือ สโลว์ แมมโบสเลว์ และจังหวะนาฏศิลป์อินเดีย
ซึ่งเนื้อร้องจังหวะใดก็ต้องใช้ร้องกับจังหวะนั้นๆ
จะใช้ร้องต่างจังหวะกันไม่ได้
วิธีการเล่น
วิธีการเล่น
เริ่มแสดงดนตรีโหมโรงเพื่อเร้าอารมณ์คนดู
สมัยก่อนมีการไหว้ครูในกรณีที่มีการประชันกันระหว่างหมู่บ้าน
หรืออาจมีหมอผีของแต่ละฝ่ายปัดรังควานไล่ผีคู่ต่อสู้ก็มี
ปัจจุบันสู้กันด้วยศิลปคารมอย่างเดียว
เมื่อลูกคู่โหมโรงต้นเสียงจะออกมาร้องทีละคน
เริ่มด้วยวัตถุประสงค์ของการแสดง หลังจากนั้นก็เริ่มเข้าสู่เรื่องราว
อาจจะเป็นเหตุการณ์บ้านเมือง หรือความรักของหนุ่มสาว หรือเรื่องตลก
ในกรณีที่มีการประชัน หรือบางครั้งก็เป็นเรื่องราวการกระทบกระแทก
เสียดสีกัน หรือหยิบปัญหาต่าง ๆ
มากล่าวเพื่อให้ผู้ชมชื่นชอบในคารมและปฏิภาณ
โอกาสและเวลาที่เล่น
แต่เดิมนิยมแสดงในงานพิธีต่าง
ๆ เช่น เข้าสุหนัต งานแต่งงาน (มาแกปูโล๊ะ)
ปัจจุบันลิเกฮูลูยังแสดงในงานเทศกาลต่าง ๆ ร่วมกับมหรสพอื่น ๆ
บางท้องที่ก็แสดงในงานพิธีสำคัญ เช่น
พิธีถวายพระพรวันเฉลิมพระชนมพรรษา
เป็นต้น
สวัสดีครับ
ขอบคุณมากสำหรับความรู้ที่ไม่ต้องค้นคว้าจากที่อื่นได้ความรู้เรื่องลิเกฮูลูแล้วอยากรู้เรื่องลิเกป่าครับ มันมีที่มาที่ไปอย่างไร แล้วเล่นกันยังไง มันเหมือนกับเล่นลิเกของภาคกลางไหม ยังไม่เคยดูเคยแต่ได้ยินชื่อครับ
ผมอยากได้เนื้อร้องและท่ารำของลิเกฮูลูอ่ะคับ ขอความกรุณาด้วย
วันนี้ได้นำนักเรียนภาคกลางดูตัวอย่างการแสดงฮูลูด้วยขอบคุณจริง ๆ