จะสอนซ่อมเสริมอย่างไรให้เด็กอ่านออกเขียนได้


จะสอนซ่อมเสริมอย่างไรให้เด็กอ่านออกเขียนได้

...รู้สึกเจ็บปวดทุกครั้ง เมื่อได้ยินได้ฟัง "เด็กไทยอ่านไม่ออก-เขียนไม่ได้"...

...อ่านอะไรไม่ออก...เขียนอะไรไม่ได้

...ใครจะรับผิดชอบในเรื่องนี้

...จะแก้ไขอย่างไร ? "ซ่อม" "เสริม" "ซ่อมเสริม" ทำอย่างไร ?

...โปรดติดตามนะคะ..

หมายเลขบันทึก: 146852เขียนเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2007 12:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 22:36 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

แฟนคลับ..กำลังรอเมื่อไหร่ อาจารย์อ้วน จะเขียนให้อ่าน...ครับ....

ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ อาจารย์วิชัย เมื่อวานก็คิดถึงอยู่แต่อยากลองผิดลองถูกดูนะคะ...ผิดจริง ๆ ขอบคุณสำหรับการ share ของอาจารย์วิชัย ค่ะ .ขอบคุณ..ขอบคุณ

สวัสดีตอนเช้าครับ

  • รออ่านเรื่องต่อไปครับ :)
  • ขอแนะนำเพิ่มเติม เรื่องคำสำคัญครับ ใส่ได้หลายคำ อาจจะใส่คำว่า สอนซ่อมเสริม คำว่า ภาษาไทย และคำว่า การอ่าน (และคำอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง) เอาไว้ทุกๆ บันทึกเลยก็ได้ครับ  ไม่แนะนำให้ใส่ยาวเป็นประโยค ครับ
  • วิธีนี้ทำให้เราไม่ต้องใส่ชื่อบันทึกที่ยาว และคล้ายๆ กัน และสะดวกในการค้นหาครับ

สวัสดีค่ะ..ครู

ขอบคุณค่ะ..สำหรับความกรุณาเรื่องเทคนิควิธีการเขียนคำสำคัญได้เริ่มแก้ไขไปบ้างแล้วค่ะ..เห็นประโยชน์ในการสืบค้น..สะดวกจริงด้วยค่ะ..

Learn..care..share..shine..ได้รับจากครู..จาก gotoknow..เกินคำบรรยาย..ค่ะ

จะพยายามเขียนงานต่อไปค่ะ..

สวัสดีครับ

ผมชอบบล็อกของพี่มากเลยนะครับ

ผมเองก็เป็นอาจารย์สอนภาษาไทยชั้นม.1-2 อยู่น่ะครับ

ไว้ผมจะมาขอคำแนะนำและมาอ่านบล็อกของพี่นะครับ

วันนี้ที่บ้านอากาศเย็นกำลังดี สบายมากๆๆๆๆๆๆ ฝนตกทั้งวันเลย ไม่โดนแดดเลยวันนี้(รู้สึกดีจัง) แล้วที่โน่นล่ะไงบ้าง

ไงคืนนี้ก็หลับฝันดี อย่าลืมห่มผ้าด้วยนะครับ

ปัจฉิมลิขิต. คิดถึงกันบ้างนะครับ

  • ธุ  พี่ศน.อ้วนค่ะ..

จากผลการวิจัย(จากไหนก็ไม่รู้) ดูเหมือนว่าการอ่านของคนไทยจะมีค่าเฉลี่ยละคนละไม่กี่บรรทัดต่อปี    คราวที่ต้อมเขียนบันทึก หนังสือ กับ การอ่าน เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2550  นั้นค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 8 บรรทัดต่อปี

ที่เด็กอ่านไม่ออก-เขียนไม่ได้คงเพราะมีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น สภาพแวดล้อม  การเงิน  การศึกษา  ผู้ปกครอง   และอื่นๆ   เนอะ

P

 สวัสดีค่ะ.. น้องบ่าวชื่อยาวโดนใจ ความดีนั้นมีมาก หายากผู้กระทำ

  • ดีใจจังค่ะ..ยินดีค่ะ
  • พี่สาวชาวเหนือ..น้องบ่าวชาวใต้..ที่มีหัวใจรักภาษาไทยเช่นกัน
  • อากาศทางนี้..บ้านพี่สาวหนาวเย็นสบายดีมากค่ะ
  • ปัจฉิมลิขิต(สำหรับวันนี้)..ฝันดีและคิดถึงเช่นกันค่ะ

ผมชอบบล็อกของพี่มากเลยนะครับ

ผมเองก็เป็นอาจารย์สอนภาษาไทยชั้นม.1-2 อยู่น่ะครับ

ไว้ผมจะมาขอคำแนะนำและมาอ่านบล็อกของพี่นะครับ

วันนี้ที่บ้านอากาศเย็นกำลังดี สบายมากๆๆๆๆๆๆ ฝนตกทั้งวันเลย ไม่โดนแดดเลยวันนี้(รู้สึกดีจัง) แล้วที่โน่นล่ะไงบ้าง

ไงคืนนี้ก็หลับฝันดี อย่าลืมห่มผ้าด้วยนะครับ

ปัจฉิมลิขิต. คิดถึงกันบ้างนะครับ

  • ขอบคุณ..สำหรับมิตรภาพค่ะ
  • พี่อ้วน

P

   จ๊ะเอ๋..น้องต้อม

  • เยๆ..เจอนักอ่านตัวจริงแล้ว
  • ใช่แล้วค่ะ..สาเหตุ  อุปสรรคปัจจัยของการอ่านไม่ออก-เขียนไม่ได้ เยอะแยะ ดังที่น้องต้อมทราบแหละค่ะ
  • ดังนั้นการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ ต้องอาศัยการร่วมด้วยช่วยกันของทุกฝ่ายค่ะ..เริ่มตั้งแต่พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู อาจารย์ ผู้บริหารโรงเรียน  หน่วยงานทางการศึกษาที่รับผิดชอบทุกระดับ  ชุมชน  ท้องถิ่น  หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน  ....ฯลฯ...อีกเยอะอยู่นะคะ  และต้องเอาจริงเอาจัง  ทำต่อเนื่องด้วย  เป็นเรื่องที่ต้องปลูกฝังค่ะ  ให้เกิดความตระหนักและจิตสำนึกที่ดีต่อภาษาไทยที่เป็นภาษาชาติ  ที่สำคัญคือตัวเด็กเองด้วยค่ะ..
  • น้องต้อมหนักใจไหมคะ..
  • อย่างไรก็ตาม  พี่อ้วนเห็นแล้วว่าน้องต้อมเป็นผู้นำเชียวค่ะ ในเรื่องการใช้ภาษาไทย  ..หากน้องต้อมเป็นครู..เด็กๆต้องไม่เจอปัญหาอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้แน่นอนจ้ะ..พี่อ้วนเชื่อมั่น
  • ขอบคุณค่ะ..ฝันดีนะคะ..
  • ธุ  พี่ ศน.อ้วนค่ะ..

เมื่อคืนต้อมหนีไปนอนก่อน อิอิ  พลาดดูฝนดาวตกด้วย.......

ค่ะ  อุปสรรคและปัจจัยที่เป็นสาเหตุของการอ่านไม่ได้-เขียนไม่ออกนั้นมีมากมายเหลือเกิน   แต่ปัจจัยที่สำคัญก็คือตัวเด็กเอง    เพราะถ้าหากเด็กขวนขวายที่จะอ่าน..เขาก็จะได้อ่านนะคะ    และต่อให้เขาไม่อยากอ่าน..ขนาดหนังสือกองโตวางอยู่ตรงหน้าก็คงจะไม่แตะ

ต้อมอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็ก    ถ้าใครๆ จะบอกว่าเพราะต้อมมีพ่อเป็นคุณครูที่รักในการอ่านก็เลยมีโอกาสดีกว่าคนอื่นๆ นั้น     ต้อมจะบอกได้เลยว่า..ไม่ใช่ทั้งหมด    เพราะพ่อไม่เคยต้องเคี่ยวเข็ญให้ต้อมต้องอ่านหนังสือ    แต่ที่รักการอ่านนั้น..ต้อมเป็นด้วยตัวของตัวเอง    จะอ่านหนังสือมากมายและแม้กระทั่งถุงกล้วยแขก  ฉลากน้ำปลา  และอื่นๆ

หากจะแก้ไขปัญหาด้านนี้ก็คงต้องอย่างที่พี่อ้วนบอกนั่นล่ะค่ะ   ว่าต้องอาศัยความร่วมมือจากบุคคลต่างๆ หลายฝ่ายด้วยกันที่จะจุดประกายในการรักการอ่าน และเมื่อจุดประกายแล้วก็ต้องส่งเสริมสนับสนุนกันให้ตลอดรอดฝั่งในระยะยาว   

ต้อมเคยสงสัยว่าการอ่านหนังสือจะช่วยให้คนเราฉลาดได้จริงไหม???????   ก็สงสัยจริงๆ และมีพี่สาวคนหนึ่งได้ตอบกลับมาว่า..ต้อมสงสัยว่า ..... การอ่านหนังสือช่วยให้เราฉลาดได้จริงๆ ไหม    คำว่าหนังสือ...เป็นคำที่มี credit ที่ดีมากๆ     เมื่อเราเอ่ยถึงหนังสือ     ความรู้สึกเราก็คือหนังสือเป็นสิ่งที่ดีเป็นตัวกลางในการถ่ายทอดความรู้อันมีค่า   แต่หนังสือมันก็ไม่ได้ตกมาจากฟากฟ้า     หรือมีต้นกำเนิดมาจากแหล่งเดียวกัน   มันเกิดมาจากคนแต่ง คนเขียนที่หลากหลาย  หลากหลายทั้งทั้งความคิด  ทัศนคติ  ความเชื่อ  ค่านิยม  และจริยธรรม

หนำซ้ำยังต้องผ่านกระบวนการกลั่นกรองทางการตลาด จากสำนักพิมพ์ต่างๆ    อันมี บ.ก. หรือเจ้าของสำนักพิมพ์ที่ก็มีหลากทัศนะอีก    และยังผ่านการกลั่นกรองจากอำนาจรัฐไม่ให้เฉไฉไปในทางที่รัฐคิด(ทึกทัก)ว่าดี    หนังสือจึงไม่ใช่สิ่งที่มีแต่ส่งที่ดีทั้งหมด   และไม่ได้เหมาะกับเราทั้งหมด

มาถึงคำถามว่า..การอ่านหนังสือจะช่วยให้เราฉลาดได้ไหม    คิดว่าก็คงพอๆ กับที่หนังสือจะช่วยให้เราโง่ได้อีกเช่นกัน    เพราะหนังสือมีอำนาจอันทรงพลังให้เราเชื่อและคล้อยตาม    ถ้าสารที่ส่งผ่านมายังตัวหนังสือเป็นเรื่องที่เสกสรรปั้นแต่ง หรือหลอกลวง เราก็คงติดบ่วงแห่งสารนั้น

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการรู้จักเลือกอ่าน     การไตร่ตรอง การวิพากษ์  วิจารณ์หนังสือนั่นพร้อมๆ ไปกับการตระหนักรู้ว่าตัวเรา กับหนังสือมันไปด้วยกันได้หรือไม่  

ต้อมก็ฉะไปว่า..ก็แหม .. ต้อมสงสัยนี่   เมื่อสงสัยก็อยากจะรู้  เมื่ออยากจะรู้ต้อมก็ต้องหาคำตอบ   เพราะหนังสือแต่ละเล่มมาจากต้นตอแหล่งกำเนิดที่ต่างกันไง   เลยทำให้แต่ละเล่มมีความน่าสนใจต่างกัน   ไม่ว่าจะด้วยคนเขียนที่หลากหลาย  ทัศนคติที่ต่างกันไป   ความเชื่อ  ค่านิยม  และคุณธรรม  จริยธรรม  อย่างที่พี่ว่ามา

ต้อมก็ไม่ได้บอกว่า หนังสือนี่ดีนะ สักหน่อย   เพราะอย่างที่เรารู้ ๆ กัน  ทุก ๆ อย่างล้วนแต่ไม่ได้มีแค่ด้านเดียว   หนังสือก็มีทั้งที่ดีและ((เราคิดว่า))ไม่ดี   การที่คนกลุ่มหนึ่งยกย่องให้หนังสือเล่มหนึ่งดี  ก็ใช่ว่ามันจะดีจริง ๆ สำหรับคนอีกกลุ่ม   มันเป็นไปตามค่านิยมและกระแสสังคมของคนบางส่วนเท่านั้น   มันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างนะ  อย่างเช่น ผู้บริโภค  

หนังสือสร้างความนิยมหลากหลาย  ทั้งกระจายความรู้ข้อมูลข่าวสาร   ให้ความบันเทิง  หนังสือเป็นอีกสื่อหนึ่งที่ทรงพลังนะ 

 

 

 

แวะมาทักทาย  บันทึกแรกนะคะ

มีความสุขในทุกๆวัน นะคะ

รออ่านเหมือนกันค่ะ เพื่อเป็นข้อมูลในการทำวิทยานิพนธ์สาขาการศึกษาพิเศษค่ะ

ชอบบล็อกครูอ้วนมาก มีประโยชน์สำหรับครูทุกเรื่อง หนูได้นำสื่อพัฒนาการอ่าน เขียนภาษาไทยไปใช้กับเด็กแล้วดีมาก

เด็กอ่านออกเขียนได้มากขึ้น ทำให้รู้สึกดีขึ้น เพราะเมื่อไรที่ได้ยินคำพูดที่ว่า "เด็กไทยอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้" ครูจะรู้สึกแย่มาก แต่พอนำสื่อที่คุณครูมอบให้แล้วใช้ได้ผล รู้สึกดีใจเหมือนตัวเองได้ทำบุญอย่างหนึ่ง ขอให้บุญที่หนูได้รับไปถึงครูอ้วนด้วยนะคะ ขอให้สุขภาพแข็งแรง

จะรอสื่อดี ๆ จากครูอ้วนต่อไปคะ

จำน้องสาวคนนี้ได้หรือเปล่า

คนงี่เง่าพูดมากครูรากแก้ว

ที่ทุ่งสักรุ่นที่สี่ที่ส่อแวว

เสียงเจื้อยแจ้วกว่าใครในวงวรรณ

เป็นคนใต้สามสาว ศรี ป้อม อ้อย

พี่อ้วนคอยปลอบปลุกให้สุขสันต์

ทุกเวลาอยู่กลุ่มเดียวเกี่ยวก้อยกัน

ยังจำมั่นตลอดมาถึงครานี้

สมหมาย งามสมิทธิ์

Download แบบบันทึกการสอนว่อมเสริมภาษาไทยไม่ได้ค่ะ...แต่อยากได้ค่ะเอาไว้ไปว่อมเสริมเด็กค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท