เพลงอีแซว
สายเลือดสุพรรณฯ
บนถนนสายวัฒนธรรม
ตอนที่ 6 “แห่งความทรงจำ”
ชำเลือง มณีวงษ์
ช่วงเวลาในการทำงาน ความจริงแล้วงานภูมิปัญญาท้องถิ่นเพลงพื้นบ้านที่ผมทำอยู่อย่างต่อเนื่องนี้ ผมทำด้วยใจรัก ทำด้วยความสมัครใจไม่มีใครมาบังคับกะเกณฑ์ว่าผมจะต้องทำ เป็นการทำงานที่เปรียบเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปนานแล้ว การที่ผมได้เข้ามาทำงาน เพลงพื้นบ้านตรงนี้ ทำให้ผมได้รู้จักกับบุคคลสำคัญอีกมากมาย และขยายวงกว้างออไปนอกจากในเขตจังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดใกล้เคียงแล้ว ปัจจุบันนี้ วงเพลงอีแซว สายเลือดสุพรรณฯ ได้รับความเมตตาจากผู้ที่มาติดต่อไกลออกไปในต่างจังหวัด โดยเฉพาะงานวัด งานในสถาบันระดับสูงและงานสังคมในชุมชนต่าง ๆ มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด
(คณะเพลงอีแซวสายเลือดสุพรรณ ครบทีมแสดงในวันสิ้นปี 2549 ที่คุ้มหม่อมไฉไลบางเลน)
ครั้งหนึ่ง ปี พ.ศ. 2548 ผมได้นำคณะนักแสดงไปแสดงประกวดเพลงพื้นบ้าน ที่คุ้มหม่อมไฉไล อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม เมื่อการประกวดจบลง คณะของเราได้รับรางวัลรองชนะเลิศ (คณะกรรมการเป็นผู้ชี้ขาด) แต่คุณท่าน คือหม่อมไฉไลได้เข้ามาหาผมและกล่าวชื่นชมการแสดงของเด็ก ๆ ว่า ”เล่นดีมาก เดี๋ยวพี่มีงานจะโทรไปตามมาเล่น” ต่อจากนั้นไม่นานผมก็ได้รับการติดต่อจากคุณท่านจริง ๆ ท่านพูดทางโทรศัพท์ว่า “ฉันหม่อมไฉไลนะ อยากได้เพลงของอาจารย์มาเล่นในวันส่งท้ายปีเก่า (31 ธันวาคม2549) ผมนำคณะนักแสดงไปเล่นที่คุ้มของท่าน โดยแสดงต่อจากชุดการแสดงท้องถิ่นซึ่งกำหนดเวลาว่าแสดงชุดละ 30-60 นาที ในคืนนั้นท่านให้นักแสดงของเราขึ้นเล่นก่อนเวลาและไม่มีกำหนดเลิก เล่นไปจนถึงเวลาที่จะฉลองวันขึ้นปีใหม่ คุณท่านให้คนมาตามผมไปจุดโคมลอยร่วมกับท่านและคณะผู้ที่มาพัก เด็ก ๆ นักแสดงก็ได้ร่วมจุดโคมลอยฉลองปีใหม่ด้วย ในตอนท้ายท่านได้ให้ความกรุณามอบรางวัลส่วนหนึ่ง (จำนวนมาก) เพื่อแจกจ่ายเด็ก ๆ นอกจากที่ท่านต้องจ่ายตามปกติอีกด้วย
(การแสดงเพลงพื้นบ้าน ที่คุ้มหม่อมไฉไล อ.บางเลน จ.นครปฐม 31 ธ.ค. 2549)
วันสงกรานต์ 13 เมษายน 2550 ผมได้รับการติดต่อจากคุ้มหม่อมไฉไลอีกครั้ง ให้นำคณะเพลงอีแซวไปแสดง แต่ในวันสงกรานต์ วงมีงานที่เขาจองเอาไว้แล้ว 2 ที่ จึงไม่สามารถที่จะไปร่วมงานได้ (เสียดายมากจริง ๆ) จนมาถึงเทศกาลลอยกระทงปีนนี้ 24 พฤศจิกายน 2550 เพลงอีแซว สายเลือดสุพรรณฯ ชุดทื่ 1 นำโดย อิม-หทัยกาญจน์ เมืองมูลและสมาชิกในวง จำนวน 15 คน ทำการแสดงที่คุ้มหม่อมไฉไล ส่วนชุดที่ 2 ยุ้ย-รัตนา ผัดแสน และชาวคณะ ทำการแสดงอยู่ที่ วัดท่าโบสถ์ อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท
ผมพาเด็ก ๆ ไปแสดงมาก็หลายสถานที่ มากว่า 500 ครั้ง ทุกสถานที่ได้รับความกรุณาจากท่านเจ้าภาพ เจ้าของงานเป็นอย่างดีทุกครั้ง ถึงแม้ว่าจะมีอยู่บ้างที่เด็ก ๆ ของผมไปทำให้เจ้าของงานเครียด (จอมซน) แต่ก็เป็นความผิดพลาดในฐานะเด็ก ๆ ท่านก็ให้อภัย แต่ในความ รู้สึกส่วนตัวของผมซึ่งเป็นนักแสดงและเป็นผู้สานต่องานเพลงอีแซวจาก ป้าอ้น จันทร์สว่าง ครูเพลงของผมแล้ว
ถ้าถามผมว่า “อะไร ที่ไหน อย่างไรคือความทรงจำที่มิรู้ลืม” สิ่งที่อยู่ในความทรงจำของผมตลอดไปก็คือ
- ได้เห็นพัฒนาการของลูกศิษย์ทุกคนที่ผมสอนให้เขาเล่นเพลงแล้วทำได้ตามเป้าหมายจากนักแสดงที่จะต้องท่องจำบทร้องไปสู่การด้นกลอนสดได้ทุกคนทั้งคณะ
- ลูกศิษย์ทุกรุ่นที่ได้เล่นเป็นนักร้องนำ เขาเป็นเหมือนลูกสาว ลูกชายของเรา
- เด็กที่ร่วมงานกับผม ได้มีอนาคตก้าวหน้าโดยได้นำเอาศิลปะการแสดงเพลงพื้นบ้านเป็นใบเบิกทางในการศึกษาต่อ
- ทุกสถานที่ที่ได้นำคณะเพลงไปแสดง เป็นประสบการณ์ที่มิรู้ลืม เป็นการเรียนรู้ที่ยากแก่การซื้อหาหรือได้มาด้วยการอ่านตำรา
- การยื่นมือเข้ามาโอบอุ้มของสื่อสารมวลชน โทรทัศน์หลายช่อง (จำนวน 60 กว่าครั้ง) หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ คมชัดลึก ไทยรัฐ บ้านเมือง มติชน ข่าวสด ขนบท วารสารต่าง ๆ ที่ได้นำเอาเรื่องราวของวงเพลงอีแซวไปเผยแพร่
- และที่สุดแห่งชีวิตคือ การที่ได้ไปแสดงครั้งสำคัญ 3 ครั้ง ต่อหน้าพระพักตร์ ในงานสำคัญระดับชาติ คงเป็นภาพที่ฝังลึกอยู่ในชีวิตนี้ตลอดไป มิรู้ลืม
ชำเลือง มณีวงษ์. เพลงอีแซว สายเลือดสุพรรณฯ “บนถนนสายวัฒนธรรม” 2550.
น่ารักดีค่ะ
สวัสดี น้องจอย