โค้ชส้ม Citrus
Miss. ปรีดิ์ฤทัย โค้ชส้ม ตั้งจิตญาณพัฒน์

ผ่านไปได้อย่างหวุดหวิดกับกิจกรรมพัฒนา MF2


อุปสรรคช่างมากมีสำหรับการจัดกิจกรรมการพัฒนา Inno FA & Mentor รุ่น 2 แต่ก็จบลงอย่างสวยงามเช่นเคย

     กิจกรรมเรียนรู้ร่วมกัน สร้างสรรค์ Inno รุ่น 2 ผ่านไปแล้ว โดยเริ่มวันที่ 7 จบ วันที่ 8 พ.ย. ณ สถานที่แห่งเดิม ที่เรียกว่าผ่านไปอย่างหวุดหวิด เพราะทั้งก่อนเตรียมงานก็มีเรื่องเผลอๆ ของตัวเองมาสอดแทรกอีกตามเคย ทำอะไรแล้วไม่มีเปิ่น หายากเต็มทีสำหรับผู้หญิงคนนี้

     กำหนดการจัด ได้กำหนดไว้ล่วงหน้าเกือบเดือน แต่พอใกล้วันจัดจริง น้องๆ FA ที่จะไปช่วยงานเริ่มแจ้งมาทีละคน สองคน ว่ามาร่วมด้วยช่วยกันไม่ได้แล้ว โชคดีว่าได้น้องผู้ชายที่เป็นผู้ที่เพิ่งผ่านการอบรมรุ่น 1 มาช่วยแทน 1 คน นอกนั้นคนที่มาช่วยกันจัดสถานที่มีแต่ผู้หญิงแก่ 1 คน หญิงสาวอีก 2 คนเท่านั้น เพราะพวกเราคือสตรีเหล็ก

    เรื่องที่ชวนระทึกครั้งนี้ เริ่มตั้งแต่ FA พี่เลี้ยงมาไม่ได้หลายท่าน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมก็แจ้งยกเลิกกระทัน 2 ท่าน หาคนแทนไม่ได้ และเรื่องที่ ข้าพเจ้าพยายามแก้ไขความขี้หลงลืม ของตัวเองที่กระทำไว้ในรุ่นที่แล้ว ที่วิ่งรถออกจากบ้านมาครึ่งชั่วโมง เพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่าลืมของหลายอย่างไว้ในรถที่บ้าน ต้องรีบบอกคนขับรถบริษัทให้กลับไปเอาของที่บ้าน ทำให้เกือบไปไม่ทันจัดห้องในรุ่นแรก 

     มาคราวนี้จึงได้ระวังนัก ระวังหนาเพราะของมีประมาณ 100 อย่างที่ต้องนำไปใช้ในกิจกรรม คืนก่อนวันจัด นั่งจัดกระเป๋าของกระจุกกระจิกส่วนตัว ตอนนั้นสามทุ่มแล้ว พบว่ากระเป๋าสตางค์ไม่อยู่ เอาล่ะสิ ต้องลืมไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานแน่แล้ว ตัดสินใจอยู่พักนึง จะกลับไปที่ office เพื่อนำมาคืนนี้เลย ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางไปกลับอีก 1 ชั่วโมง หรือว่า..จะไปแวะที่ทำงานตอนเช้าก่อนไปพัทยา คิดวกไปวนมาห้าสิบตลบจึงตกลงใจว่า ไปมันคืนนี้เลยดีกว่า ไม่อยากเสี่ยงตอนเช้า ครั้นจะรออีกสองวันกลับมาที่ทำงาน คงไม่มีสมาธิทำงานเป็นแน่แท้

     เมื่อฟันฝ่าด่านเตรียมงาน ถึงคราวลงสนามจริง รุ่นนี้มี mentor ระดับ พี่บิ๊กตัวจริงมาเกือบสิบคน ครึ่งวันแรกทั้งคนจัด คนเข้าร่วมที่อ่อนอาวุโส และคนที่อาวุโสเองก็ยังเกร็งๆ กันอยู่ จะทำท่าไหนดี โดยเฉพาะเรื่องให้นั่งกับพื้น โดนต่อว่ากลายๆ เหมือนกัน เพราะไปทรมานคนสูงอายุ ทำไงได้ ขืนแบ่งชั้นวรรณะให้พี่อาวุโสนั่งเก้าอี้ น้องนั่งพื้น จะได้เสียความรู้สึกกันไปใหญ่

     พอถึงเวลาอาหารกลางวัน มีเสียงเรียกร้องจากพี่อาวุโสหลายท่านขอให้เลิกเร็วขึ้นสองชั่วโมงครึ่ง จากกำหนดเดิม 21.30 บอกว่าให้เลื่อนขึ้นเป็น 19.00 น. เราก็ทำเป็นเฉยๆ แกล้งตอบว่า "ถ้าตั้งใจทำกิจกรรม ทำตัวดีๆ ก็อาจจะเลิกเร็วได้ค่ะ" ทั้งที่ในใจบอกว่า "ไม่มีทาง แล้วพวกคุณเองน่ะแหละ ที่พอถึงเวลาจริงๆ จะไม่อยากเลิก"

     ช่วงบ่ายเป็นการสอน mind mapping โดยโจทย์นั้นเปลี่ยนให้ยากขึ้นกว่ารุ่นแรก เพราะเห็นว่าส่วนใหญ่ เคยใช้ mind map กันมาแล้ว โจทย์ก็คือ ให้เขียนเป้าหมายในชีวิตเป็น mind map  แล้วก็...เป็นไปอย่างที่คาด....แทบทุกคนอึ้งงงง.. เขียนไม่ออก มึนงงไปตามๆ กัน (ไม่ใช่เรื่องแปลก โจทย์นี้ให้กลุ่มไหนทำ ก็ต้องอึ้งไปเหมือนกัน)  เรียบเรียงความคิดได้ยาก ต้องเข้าไปชี้แนะกัน และแอบได้ยินคนในแต่ละกลุ่มช่วยกันสอน และแบ่งปันความคิดในเรื่องเป้าหมายชีวิตกันอีกด้วย ช่างน่ารักจริงๆ  สำหรับเรื่องตั้งเป้าหมายในชีวิต เป็นประเด็นสำคัญอันหนึ่งที่เขียนอยู่ในหนังสือ "How to think like Leonardo Da Vinci" 

How to think like Leonardo Da Vinci          

     ในกิจกรรมเด่นของวันแรก กระบวนการกลั่นแกล้ง ผู้เข้าร่วมกิจกรรมด้วยความรัก ก็เริ่มขึ้นในช่วงบ่ายแก่ๆ โดยโยนกล่องเกมกระแสเงินสดไปให้แต่ละกลุ่มรวม 6 กลุ่ม เป็นไปตามคาด โดนบ่นเมื่อทำ reflection ในรอบแรก พี่ๆ อาวุโสแทบจะรุมคนจัดเรื่องไม่ยอมบอกกติกาการเล่น เราก็ได้แต่นั่งอมยิ้มทั้งภายนอกและในใจ พร้อมกับกระซิบกับน้อง FA พี่เลี้ยงว่า กลุ่มนี้แสดงพฤติกรรมตกหลุมพรางให้เรานำมาสรุปได้ชัดมากๆ เพราะเขาคิด รู้สึกอย่างไรก็จะพูดกันตรงๆ ซึ่งจะไม่เหมือนรุ่นแรกที่เป็นเด็ก หรือพี่ที่มาก็ค่อนข้างเงียบ... ทำให้เราสนุกกับรุ่นนี้มาก ตอนสรุปเกมรอบสอง ก็มีหลายคนพูดออกมาเองว่า ช่วงแรกของการเล่นอึดอัดมากๆ เพราะเล่นไม่เป็น แต่พอให้พักอาหารเย็น กลับมารอบสอง เริ่มมันส์ จนบอกให้เลิกไม่อยากเลิก มีคนกลุ่มหนึ่ง ขนาดว่าเลิกสัมมนาดึกแล้ว ยังไปตั้งวงเล่นเกมต่อถึง ตีหนึ่งครึ่ง เล่นจนออกจากวงมนุษย์เงินเดือนทุกคน

     ตอนที่เฉลยเกม หลายคนอึ้งไปเลย เพราะผิดคาด คิดว่าเอาเกมมาให้เล่นเพื่อฝึกเรื่องความกล้าเสี่ยง หรือฝึกให้มีความรู้ในการทำธุรกิจ การเงิน การบัญชี  แต่ที่ไหนได้ เกมเป็นเพียงเครื่องมือที่สอนคุณเรื่องกระบวนการเรียนรู้  และสอนให้รู้จักตัวตนของผู้เล่นต่างหาก

      และในวันที่สอง...  กิจกรรมที่สุดฮิตในรุ่นที่แล้ว ก็ยังเหมือนเดิม คือ เวทีพิสูจน์คุณอำนวย  คราวนี้เพิ่มเป็น 3 กรณีศึกษา ให้เล่นกันให้สนุกสนาน ตอนกลับไปอ่านบันทึกของตัวเองเกี่ยวกับเรื่อง

      "FLOW" -Facilitative Leading for Optimizing Work http://gotoknow.org/blog/citrus/91279

           http://gotoknow.org/blog/citrus/91525

เคยเขียนไว้ว่า “No Pain No Gain”  แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ต้องขอขอบคุณ คนที่อุทิศตัวมาเล่นเป็น FA หรือ Mentor เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เพื่อนๆ ในห้องได้เห็นภาพสะท้อนของตัวเอง และเห็นหนทางที่จะกลับไปปรับเปลี่ยนแนวคิดและวิธีการเป็น FA ของตัวเอง ไม่อยากเชือว่าบทเรียนนี้ให้อะไรเยอะมากจริงๆ ขนาดมีคนมาขอเทปที่บันทึกภาพไว้นำไปฉายให้หน่วยงานของตัวเองดู พนักงานในหน่วยงานจะได้ทราบหรือเห็นใจคนที่เป็น Inno FA ว่ารับบทหนักหนาขนาดไหน จะได้ร่วมมือร่วมใจกันมากขึ้น

     ช่วงสุดท้าย ให้แบ่งกลุ่มทำกิจกรรม เจตนารมณ์ในวงเล่า เร้าพลัง คุณได้อะไร รู้สึกอย่างไร จะกลับไปทำอะไรได้บ้าง เป็นกิจกรรมที่ปิดฉากได้ดีเยี่ยม เพราะเราแจกตำรา แจกบัตรคำให้เขาได้ทบทวนสิ่งที่ทำกิจกรรม รวมถึงสิ่งที่เรียนรู้ และ open will ทุกกลุ่มออกมานำเสนอจนทำให้ FA พี่เลี้ยงหายเหนื่อยไปตามๆ กัน เพราะมีกลุ่มหนึ่งบอกว่า แค่สองวันก็ทำให้เขาเปลี่ยนทัศนคติของการเป็น FA ได้ และประกาศเจตนารมณ์ที่จะกลับไปผลักดันกิจกรรม Idea Time ให้สนุกอย่างมีสาระมากขึ้น

หมายเลขบันทึก: 145337เขียนเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2007 21:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

 สวัสดีค่ะ

กิจกรรม เจตนารมณ์ในวงเล่า เร้าพลังนี้ไม่ได้เล่าเรื่องประสบการณ์การทำงาน หรือการช่วยเหลือสังคม ของตัวเองด้วยหรือคะ เพราะน่าจะเป็นการจัดการความรู้อย่างหนึ่ง

เคยจัดกิจกรรมแบบนี้มาค่ะ ก็สนุกดี ให้เขาเล่า หรือการเขียนเรื่องที่เคยทำมา ไม่ว่าจะเขียนแนววิชาการ วิธีการ แนวคิด หรือแนวปฏิบัติการเช่น เขียนแบบ project management ออกมามี action plan ชัดเจนเพื่อให้คนอื่นทำตามได้ง่ายขึ้น  ให้มีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน  เป็น organizational learning 

สวัสดีค่ะ พี่ Sasinanda

 P

 

ขอบพระคุณพี่มากเลยค่ะที่กรุณาช่วยแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ และมองไปไกลในระดับสังคม ต้องยืมไอเดียนี้ไปใช้ในโอกาสต่อไปแน่ๆ ค่ะ กำลังเข้ากับวิสัยทัศน์ของบริษัทเลยค่ะ

     ในกิจกรรมนี้ จะเน้นเฉพาะเหตุการณ์ที่มาอบรม 2 วัน เพื่อให้นำสิ่งที่ได้รับไปปรับใช้ในกิจกรรม Idea Time ที่แต่ละหน่วยงานจะต้องทำ แต่อาจมีปัญหา หรือ รูปแบบกิจกรรมที่แตกต่างกันไปบ้างค่ะ จึงอยากให้ผู้เข้าอบรมที่มาจากหลายหน่วยงาน ต่างบริษัทมีโอกาสได้รับฟังความคิดเห็นของเพื่อนแล้วปรับมาเป็น เจตนารมณ์ (Open will) ของกลุ่มค่ะ

 

เตรียมของ 100 กว่าอย่างเลยหรือ นี่  .. โห

สวัสดีค่ะ อ.คนไร้กรอบ

 

คิดแบบเหมาน่ะค่ะ ว่าน่าจะถึง 100 อย่าง หรือ 100 ชิ้น ก็ไม่ทราบค่ะ (ทำให้เห็นภาพว่าเยอะจริง) เพราะต้องเตรียมการเองทุกอย่างทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในกิจกรรมทุกกิจกรรม  เครื่องเขียน อุปกรณ์ตกแต่งห้อง ทำบอร์ดติดผนัง ของว่าง ลูกอม อาหารรอบดึก กาแฟสำเร็จรูป ถ้วย ชาม แม้แต่ตะเกียบ กับ ถุงขยะยังเตรียมไปด้วยเลยค่ะ 555.....

จ๊าบว่ะพี่

มีอีกเปล่า จะได้ไปร่วม จะให้ช่วยrun ก็ได้นะครับ ยินดี

P

 

ขอบคุณมากเลยค่ะ อย่างนี้เรียกว่า "จิตอาสา" ของแท้เลย ที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องการ ก็มีพูดถึง เรื่อง

อยากให้คน BU อื่นมา share ประสบการณ์ให้บ้าง อันนี้เรียกว่า เข้าทางเลยค่ะ 

คิดว่าคงจัดใน เดือน ก.พ. แต่อย่างที่บอกว่า กำหนดการอาจจะไปซ้อนกับ สุนทรียสนทนา ของส่วนกลางที่จะจัดให้ IF กำลังหาทางออกอยู่ค่ะ เพราะไม่อยากพลาด สุนทรียสนทนา

จากที่คุณคนดอย เขียนไว้ในบันทึกนี้ เป้นที่มา ที่จะทำให้มาช่วยงานในรุ่น 3  ที่จะจัดในอีกสัปดาห์ืัที่จะถึงนี้ คงมีเรื่องมาเล่าต่อ หลังตรุษจีนค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท