ตำนานผีล้านนาตอน ผีก้อนเส้าเตาไฟ


ผีก้อนเส้าเตาไฟช่วยรักษาครัวไฟและผู้คนในครัวเรือน

บ้านผู้คนล้านนาสมัยก่อนต้องมีเตาไฟ ไว้ในห้องครัวไฟ  หากเป็นเรือนใหญ่จะสร้างครัวไฟแยกจากบ้านใหญ่ออกไปไว้ที่ชานด้านหลังบ้านที่เรียกกันว่า" เฮือนก้นตู"คือส่วนพื้นที่หลังสุดของบ้านเพื่อให้ควันไฟในห้องครัวไม่รบกวนลอยคลุ้งอบส่วนห้องตัวเรือนใหญ่   ส่วนบ้านหลังเล็กหรือกระต๊อบก็จะทำครัวไฟแยกส่วนจากห้องใหญ่แต่ภายใต้ชายคาเดียวกัน

การทำเตาไฟต้องใช้ไม้แป้น(กระดาน)มาประกบกันเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสยาวด้านละราวๆ 2 ศอกสูงราวหนึ่งคืบของเจ้าบ้านกรอบสี่ไม้สี่เหลี่ยมนี้เรียกกันว่า" แม่ซี่ไฟ"นำเอาดินโคลนสะอาดที่เละเทใส่จนเต็มทำการกะวางกลางกรอบไม้สี่เหลี่ยมเป็นสามเหลี่ยมแบ่งเป็นสามจุดแต่ละจุดห่างกันหนึ่งคืบนำบ่ะดินกี่หรือดินจี่(อิฐ)ฝังลงตรงจุดแบ่งสามจุดเพื่อเป็นก้อนเส้าจะได้สามเส้ารอดินหมาดนำสวย(กรวย)ดอกไม้มาวางตรงกลางก้อนเส้าแล้วบอกกล่าวกับผีหอผีเฮือนว่าก้อนเส้าก้อนที่หนึ่งชื่อว่าก้อนแก้ว  ก้อนเส้าก้อนที่สองชื่อว่าก่อนเงินและก้อนเส้าก้อนที่สามชื่อว่าก้อนคำ(ทองคำ)เมื่อกล่าวเสร็จทำการก่อไฟเพื่อเอาฤกษ์โดยมากจะใช้หลัง(ฟืน)ที่เป็นไม้มลคลเช่นไม้มะยม  ไม้ขุน  เป็นต้น เมื่อก่อไฟเสร็จจะรอไฟมอดไหม้จนหมดจึงนำหม้อหนึ้งไหข้าวผาชีครอบไหข้าวต่อกันขึ้นไปวางไว้บนก้อนเส้าเพื่อเป็นศิริมงคลวางไว้อย่างนั้นจนรุ่งเช้าจึงทำการหนึ้งข้าวจริงๆถือว่าเป็นการเริ่มต้นของการทำครัว

เมื่อทำครัวเสร็จครั้งแรกก็จะนำก้อนข้าวหนึ้งขนาดหัวแม่นมือวางบนก้อนเส้าแห่งละหนึ่งก้อนถือว่าเป็นการเซ่นไหว้ผีก้อนเส้าเตาไฟ

ผีก้อนเส้าเตาไฟถือว่าเป็นผีประจำครัวไฟ  หากเจ้าบ้านจะออกบ้านไปที่อื่นโดยเฉพาะมีเด็กออกบ้านไปด้วย เจ้าบ้านจะนำเอาก้อนข้าวหนึ้งวางไว้บนก้อนเส้าทั้งสามก้อนและวางไว้ที่ริมขอบไม้แม่ซี่ไฟอีกหนึ่งก้อนพร้อมกับบอกกล่าวว่า  ขอให้ผีก้อนเส้าเตาไฟปกปักรักษาผู้คนที่ออกจากบ้านเรือนไปธุระในที่ท้องถิ่นอื่นไกลให้เสร็จสมปราถนา  หากมีเด็กไปด้วยผู้ใหญ่จะเอานิ้วมือเช็ดมินหม้อสีดำแล้วมาแตะหว่างคิ้วเด็กเพื่อบอกว่าขอให้ผีก้อนเส้าเตาไฟรักษาเด็กให้ปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง โดยมีสีดำเป็นที่จำหมาย  หากเด็กพลัดหลงก็จะมีที่จำหมายให้ผู้พบเห็นทราบว่าเป็นเด็กมาจากที่อื่น

เคยถามผู้รู้ว่าทำไมเตาไฟจึงเชื่อว่ามีผี ?

ท่านปราชญ์ชาวบ้านอธิบายว่า  ในครัวไฟเรานั้นหากนึกแยกแยะให้ดีจะเป็นป่าเห่ว(ป่าช้า)นั่นเอง  เราเอาซากสัตว์ที่ถูกฆ่ามาทำอาหาร  บาวงครั้งเราเองก็เอาสัตว์ เช่น ปู  ปลาเป็นๆมาฆ่าในครัวไฟ สัวต์เล็กสัวต์น้อยหรือเนื้อของสัตว์ใหญ่ๆ เช่น เนื้อวัว  ควาย  แม้กระทั่งเนื้อสัตว์ที่อยู่ไกลถึงในป่าก็ถูกนำมาหย้างเผา ต้ม  แกง  ในครัวไฟ   ผู้คนสมัยก่อนจึงเชื่อว่าครัวไฟนี่แหละมีผีมีวิญญาณสัตว์ต่างๆมากมายสะสมอยู่ทุกวี่วัน  ยิ่งนานวันยิ่งมากขึ้น บ้านบางหลังปลูกอยู่กันนับเป็นหลายสิบๆปี  คิดดูเถอะว่าเราเอาชีวิตสัตว์มาไว้ในครัวไฟสักเท่าใด  เราเคยคิดบ้างไหม?

จากคำบอกเล่าท่านผู้เฒ่าปราชญ์ชาวบ้านทำให้ได้ข้อคิดหลายอย่างในการทำอาหารบำรุงเลี้ยงชีวิตผู้คน  ด้วยควมเชื่อว่าผีก้อนเส้าเตาไฟมีวิญญาณอยู่ด้วยมากมายนี้เอง เจ้าของบ้านต้องรักษาก้อนเส้ามิให้หักโค่น   หากก้อนเส้าก้อนใดก้อนหนึ่งหักโค่นถือว่า"ตกขึ้ด"  ต้องอาถรรพ์  อาจเกิดอาเภท(ขอให้กลับไปอ่านเรื่องขึ้ด)แก่ผู้คนภายในบ้านต้องทำพิธีสูตรถอนก้อนเส้าที่แตกหักนั้นออกเพื่อนำเอาก้อนเส้าใหม่ใส่แทนที่

ผีก้อนเส้าเตาไฟล้านนาบางท้องถิ่นเรยกกันว่า " ผีปู่ดำย่าดำ" ก็มีอยู่บ้าง  อาจเรียกแตกต่างกันไปตามถิ่นที่

ยุคใหม่ผู้คนใช้เตาแก๊สไม่มีเตาไฟ  ชีวิตผู้คนจึงไม่ทราบว่าก้อนเส้าเตาไฟมีลักษณะเป็นอย่างไร? ผีก้อนเส้าก็เป็นตำนานของผู้คนชาวล้านนา

 

หมายเลขบันทึก: 145336เขียนเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2007 20:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 23:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท