เพื่อความชัดเจนในการเตรียมตัวของผมและนักศึกษา ในการสอนการเรียนวิชา “การจัดการทรัพยากรที่ดินแบบบูรณาการ” ในภาคการศึกษาที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๐
ผมจึงขออธิบายสาระสำคัญของเทคนิคและวิธีการประเมิน ดังนี้
ผมจะเน้นและพยายามฝึกนักศึกษา “รุ่นใหม่” ใน “สมัยใหม่” ในการ
· ค้นหาข้อมูล
o จากการฟังในห้องเรียน
o จากการอ่านในห้องสมุด และแหล่งข้อมูลที่เป็นเอกสารต่างๆ
o จากการค้นคว้าในห้องสมุด “เสมือน”
o จากการสอบถามและพูดคุยในชุมชน “เสมือน”
o วัดและประเมินผลจากการ “เข้าถึง” ระบบข้อมูล และ “ข้อมูล” ที่นำเสนอ
· แลกเปลี่ยนข้อมูล
o กับเพื่อน
o กับผู้สอน
o กับผู้รู้ทั้งกับตัวจริง และ ผู้รู้ในสังคม “เสมือน”
o วัดและประเมินผลจากการมี “ข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์” จากหลายแหล่ง
· แลกเปลี่ยนเรียนรู้
o กับเพื่อน
o กับผู้สอน
o กับผู้รู้ทั้งกับตัวจริง และ ผู้รู้ในสังคม “เสมือน”
o วัดและประเมินผลจาก “ระดับความเข้าใจข้อมูล”
· พัฒนาความรู้
o ในกระบวนการคิดของผู้เรียนเอง ที่วัดจากการเขียนรายงาน และ ข้อสอบอัตนัยกลางภาคเชิง “วิเคราะห์”สถานการณ์
o วัดและประเมินผลจาก “ระดับความรู้” การจัดการทรัพยากรที่ดินแบบบูรณาการ
· จัดการความรู้
o ในระบบคิดของผู้เรียนเอง ที่วัดจากการนำเสนอในรายงาน และ ข้อสอบอัตนัยปลายภาคเชิง “วิเคราะห์” ชุดความรู้
o วัดและประเมินผลจาก “ระดับการวิเคราะห์ความรู้” การจัดการทรัพยากรที่ดินแบบบูรณาการ
· ถ่ายทอดความรู้
o ในระบบการนำเสนอ วัดจากการตอบข้อสอบอัตนัยปลายภาคเชิง “อภิปราย” ชุดความรู้
o วัดและประเมินผลจาก “การนำเสนอชุดความรู้” การจัดการทรัพยากรที่ดินแบบบูรณาการ
· และ การพัฒนาปัญญา
o ในระบบคิดของผู้เรียนเอง ที่สามารถคิด วิเคราะห์ และวางแผนการทำงาน “ประยุกต์” ใช้ความรู้เชิงวิชาการได้
o วัดและประเมินผลจาก “การนำเสนอแผนการทำงานทางวิชาการ” การจัดการทรัพยากรที่ดินแบบบูรณาการ
o จากการตอบข้อสอบอัตนัยปลายภาคเชิง “การปรับใช้” ชุดความรู้ต่างๆ ตามถนัด
ดังนั้น การสอนและการประเมิน จะเน้นใน ๗ หัวข้อนี้ แบ่งเป็น ๒ ระยะตามแผนการสอน โดยลำดับ ดังนี้
· ช่วงแรกๆ ในช่วงต้นภาคการศึกษา จะกระตุ้นและแนะนำการค้นหาข้อมูล การแลกเปลี่ยนข้อมูล การแลกเปลี่ยนเรียนรู้
· ในระยะหลังๆ จะกระตุ้นการพัฒนาความรู้ การจัดการความรู้ การถ่ายทอดความรู้ และการพัฒนาปัญญา
จึงขอความเห็นจากทุกท่าน โดยเฉพาะอาจารย์ที่ร่วมสอน และนักศึกษาทุกคน ทั้งที่เรียนในภาคการศึกษานี้ และที่สอบผ่านไปแล้ว
ขอบคุณครับผมว่าระบบเราพร้อมครับ
แต่คนเราไม่พร้อมครับ
ต้องให้นักศึกษาบ่น เขาจะฟังครับ
ตอนนี้ผมก็เห็นว่าเขาให้ประเมินทุกเทอม ลองเสนอเขาไปซิครับ อาจจะได้ผลก็ได้ครับ
อาจารย์บ่นเขาไม่สนตรับ
การที่อาจารย์สอนโดยใช้วิธีนี้ถือว่าดีมาก แต่ทว่าการที่ต้องให้นักศึกษาไปค้นหาข้อมูลมาเนี่ยสิ เป็นเรื่องยาก แค่คำค้นเดียว เช่น ปาย หรือเมืองปาย ก็ปรากฏขึ้นมามากมาย อย่างที่อาจารย์ว่าแหละคับที่ว่า ปัญหาของข้อมูลคือการที่มีมาก และบางแหล่งกว่าจะหาเจอต้องใช้เวลานานมากและซ่อนอยู่ลึกบางอันก็หาไม่เจอ นี่ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งในการศึกษารูปแบบนี้ แค่ด่านแรกก็ไม่ผ่านแล้ว จะไปด่านที่สองอย่างไรใช่หรือปล่าวครับอาจารย์หรืออาจารย์เห็นว่าอย่างไร
ขอแสดงความคิดเห็นกับน้องๆ นักศึกษา ค่ะ
การเรียนรู้ ค้นคว้าตำรา แหล่งข้อมูลต่างๆ ที่เราต้องสืบค้น ไม่น่าจะมีปัญหา เนื่องจากว่า เขาจะประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว หรือแหล่งที่ดี ๆ อยู่แล้ว ฉะนั้น ไม่อยากให้น้อง ๆท้อถอยในการสืบค้นข้อมูล หรือการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่เรายังไม่รู้
"เรียนรู้ไว้เถิด แล้วจะเกิดผล"... ค่ะ
ไม่ได้แบกหามให้หนักสักกะหน่อย
ขอบคุณครับ ที่ช่วยอธิบาย
ชัดเจนกว่าผมพูดเองครับ
เป็นการสอนที่หนูก็ชอบค่ะ ได้เรียนรู้และวิเคราะห์ด้วยตนเอง แล้วหนูก็ทำเต็มความสามารถอยู่นะคะ แต่ตัวขี้เกียจมันยังติดอยู่ข้างหลังหนูอยู่เลยค่ะ หนูจะพยายามเรียนรู้ในแบบของอาจารย์ให้ดีที่สุดค่ะ
เป็นการสอนที่หนูก็ชอบค่ะ ได้เรียนรู้และวิเคราะห์ด้วยตนเอง แล้วหนูก็ทำเต็มความสามารถอยู่นะคะ แต่ตัวขี้เกียจมันยังติดอยู่ข้างหลังหนูอยู่เลยค่ะ หนูจะพยายามเรียนรู้ในแบบของอาจารย์ให้ดีที่สุดค่ะ
เป็นการสอนที่หนูก็ชอบค่ะ ได้เรียนรู้และวิเคราะห์ด้วยตนเอง แล้วหนูก็ทำเต็มความสามารถอยู่นะคะ แต่ตัวขี้เกียจมันยังติดอยู่ข้างหลังหนูอยู่เลยค่ะ หนูจะพยายามเรียนรู้ในแบบของอาจารย์ให้ดีที่สุดค่ะ
ครับ ขอบคุณครับที่เห็นด้วย
ผมก็อยากเห็นบัณฑิตเรามีคุณภาพ ไปทำงานเพื่อชาติ ที่อ่อนเปลี้ยเพลียแรงเพราะระบบการศึกษาล้มเหลวมาตลอด ครับ
ถ้าเรายังจะตามใจตัวเองไปเรื่อยๆ ใครจะข่วยพัฒนาประเทศไทยล่ะครับ
หรือจะยกให้เป็นของคนอื่นซะเราจะได้ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป
เสียดายไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ เป็นรูปแบบการเรียน (ในระบบ) ที่น่าสนใจมาก แต่ก็ยินดีที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับลูกศิษย์ของอาจารย์ครับ
ยังไม่ชินซักที แต่พอถึงคาบทีไรไม่กล้าหลับ
เป็นแบบการเรียนที่น่าจะทำหมดเลยทุกวิชา เพราะเรารู้แต่ว่าจบ138หน่วย เกรดต่ำกว่า2.00 ไม่มีสิทธ์เรียนในนี้ต่อ อาจารย์รู้ว่าต้องสอนอะไร(ตามจุดประสวค์ที่แจกให้) แต่ไม่รู้ว่าในหัวลูกศิษย์มีอะไรอยู่บ้าง จริงเราต้องเป็นนักศึกษาแต่มีกี่คนที่พอจบคาบไปหาต่อ อ่านต่อ ทำตัวเป็นนักศึกษาให้สมคำที่พูดกัน แต่การศึกษาในแบบนี้ก็ดีอย่างที่ทำตามแผน แต่ไม่บรรลุจุดประสงค์เพราะว่ามีแรงกระตุ้นนักศึกษาต่ำ คนเลยดูถูก เรียนเกี่ยวกับอะไรเหรอ เรียนทำไม ไม่ต้องเรียนน้าก็ทำได้ ทำแล้วขายได้อีกด้วย ไม่ใช่แค่ร้องเปลาๆๆนักศึกษาทำเอง ขายเอง อายเขาจัง เอาความโง่มาโชว์เพียบเลย(ตอนเขาถามพันธุ์อะไร ปลูกนานไหม ตอบง่ายๆคำเดียวไม่ทราบค่ะ/ครับพี่สั่งให้ทำ)
อาจแรงไปแต่คิดจริงๆ และไม่เก่งมาจากไหน เป็นแค่อีกเสียงที่ร้องบอกเผื่อพวกเราจะมีอะไรดีขึ้น
คิดบ้างนะอย่าคิดมาก เดียวปวดหัวแย่เลย
สู้ๆๆๆ
ครับ
สถานการณ์แบบนี้ อยากให้เรามาช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไร จะไม่อายเขา
ทั้งอาจารย์และนักศึกษาครับ
ทุกคนก็ควรต้องอาย ทั้งๆที่หลายคนกลับภูมิใจอย่างผิดๆครับ
ขอบคุณมากครับ