บุกเกาหลี 2 วิจารณ์ถูกใจมีรางวัลให้ อิอิ
ไปเกาหลีคราวนี้บอกแล้วว่าไม่ได้ไปเที่ยวพักผ่อนเล่น เพราะนอกจากประชุมในห้องประชุมถึง 2 วันเต็มแล้ว เวลาออกไปข้างนอกก็ต้อง ( ติดสอยห้อย ) ตามท่านนายกเทศมนตรีนักพัฒนาทั้งสามท่าน คือนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก นายกเทศมนตรีเมืองท่าข้าม และนายกเทศมนตรีเมืองแกลง แต่ละที่ที่ท่านไปย่อมต้องไม่ธรรมดาเพราะมีการประสานงานไว้ล่วงหน้า
นอกจากไปดูตลาดสด ถนนคนเดิน ห้างสรรพสินค้าเพื่อดูวิถีชีวิตของคนเกาหลีแล้ว ( ไอ้ของที่ติดไม้ติดมือมาบ้างจนต้องซื้อกระเป๋าเพิ่มอีกใบนึงน่ะเป็นผลพลอยได้ อิอิ ) ก็ไปดูพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน, สโมสรหรือศูนย์ผู้สูงอายุของเทศบาลนคร Gumi , บ้านเกิดของท่านประธานาธิบดีปัก จุง ฮี , นิคมอุตสาหกรรมระยะที่ 4 , บริษัท LG และบริษัท Samaung
ที่กรุง Seoul ก็ได้ไปเดินดูที่ Cheonggyecheon ซึ่งเป็นโครงการอนุรักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ( เดิมเป็นลำธารที่ใช้กันมานานแล้ว ต่อมาก็มีการสร้างถนนปิดทับลำธาร แถมยังสร้างทางด่วนคร่อมทับลงไปอีก ) ทางเทศบาลกรุง Seoul ก็ทุบทางด่วนทิ้ง รื้อฟื้นลำธารสายนี้ขึ้นมาใหม่ ใช้เงินไปหลายหมื่นล้านบาท ไม่ได้วิ่งได้เดินก็ยังดี เดินระยะทางทั้งสิ้น 5 กิโลเมตรเศษ ตั้งแต่ 1 ทุ่มถึง 3 ทุ่ม อิอิ
แถมยังไปคุยกับสำนักงานพัฒนากรุง Seoul อย่างสมดุลย์อีกครึ่งวัน ที่นานเพราะต้องแปลเกาหลีเป็นอังกฤษ แล้วแปลอังกฤษเป็นไทย เวลาถามก็ต้องถามเป็นไทย แปลไทยเป็นอังกฤษ แล้วแปลอังกฤษเป็นเกาหลี อิอิ
ตอนนี้หอมปากหอมคอ เล่าแค่พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านก่อน ถ้าไม่ค่อยมีคนอ่านก็จะเลิกเขียน ไปเล่าเรื่องตาหลกดีกว่า อิอิ
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านที่เมือง Gumi ก็จะคล้ายๆกับพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านของลุงจ่าทวีที่พิษณุโลก ( แต่ของลุงจ่าใหญ่กว่าและน่าสนใจกว่าเยอะเลย )
มีการจำลองเหตุการณ์ต่างๆในอดีตไว้่ มีทั้งพิธีไหว้บรรพบุรุษ การทอผ้า ความเป็นอยู่ของคนเกาหลีในอดีต ตอนที่ไปเยี่ยมชมก็เจอเด็กๆเกาหลีมากับคุณครู เด็กๆก็มาเยี่ยมชมกันด้วยความสนุกสนานและสนใจ
แต่ที่โดนที่สุดในพิพิธภัณฑ์ก็คงจะเป็นรูปนี้แหละ ขยายให้ดูเลย แล้วเปิดให้ผู้อ่านวิจารณ์ภาพ คนที่วิจารณ์ได้ถูกใจกรรมการที่สุดจะได้รับรางวัล เป็นเสื้อรุ่น อะไรก้อ กู 1 ตัว จะตัดสินกันที่ดงหลวง คนที่ไม่ไปดงหลวงก็ร่วมสนุกได้นะครับ
กรรมการก็คงรบกวนท่านครูบาตั้งให้แล้วหละครับ อิอิ ใครอยากอ่านเรื่องเกาหลีต่อก็ชวนเพื่อนๆมาอ่าน แล้วช่วยกันวิจารณ์ภาพ ไม่งั้นก็จะไปเขียนเรื่องตาหลกให้มันเป็นเรื่องเป็นราวไปเลย จริงๆนะเนี่ย
ความเห็น
หาว ๆ ๆ
แป๊ะไว้อีกเหมือนเดิม (มีคนบอกว่าเป็นลูกอีช่างแป๊ะ...แต่ไม่ยอมมาใช้หนี้เลย)
อิอิอิ
วิจารณ์ ทาง + หรือ - ดีละ อิอิ แปะไว้รออ่านของคนอื่นก่อน อิอิ
- ว้า คุณสมพร แปะ แก่นจังก็แปะ จะลอกการบ้านใครดีล่ะ อิอิ เอาก็เอา วิจารณ์ก็ วิจารณ์
- ข้า.....ขอวิจารณ์ว่า วัว ควายที่ใช้ไถนา ก็มีชีวิตจิตใจ โปรดอย่าใช้แรงงานเกินกำลังมันล่ะ มันเหนี่อย ชาวนาก็ลองไปไถนาเองดูบ้างสิ มันเหนื่อยแค่ใหน ประมาณเหมือนกันกับคนทำงาน นายจ้างโปรดอย่าใช้งานจนเกินกำลัง จนไม่มีเวลาพักผ่อน
- หรือว่า......อย่าทำนาบนหลังคน
- ว้าไปเรื่อยเฉี่อย เด็กไปมั้ยค่ะคุณหมอ อิอิ
2. 
3. 
4. สุวรรณา ถ้ามีรางวัลวิจารณ์ไว พี่นิดได้ไปแล้ว อิอิ
วิจารณ์กี่ครั้งก็ได้นะครับ กติกาไม่ได้ห้ามไว้ ถ้ามีอันไหนโดนใจกรรมการ ( ครูบายังไม่ช่วยตั้งให้เลย ) ก็มีสิทธิ์ได้รับรางวัล อิอิ
- ออน Msn กับคุณหมอ หมอท่านอยู่เขาค้อ เชียวนะคะ คุณหมอบอกให้โอกาสใหม่
- มาอีกรอบ ข้า....ขอวิจารณ์อีกครั้งหนึ่งว่า การไถนาเปรียบเหมือนการทำสิ่งหนึ่งสื่งใด เป้าหมายคือความสำเร็จอยู่ข้างหน้า
- ผู้หญิงเป็นคนดึงคันไถ สื่อความหมายถึงภาวะการเป็นผู้นำของผู้หญิง ผู้หญิงที่มีความสามารถเทียบเท่าผู้ชาย ก็มีโอกาสเป็นผู้นำได้ไม่จำเป็นจะเป็นผู้ชายเสมอไป
- ว้า... จะคิดเหมือนใครมั้ยเนาะพ่อ
สวัสดีครับคุณหมอ หนังสือที่ส่งมาภาพในเล่มสวยงามมากครับ
ขอบคุณมากครับ
ขอนอกเรื่องนิดนึง
"ทุบทางด่วนทิ้ง รื้อฟื้นลำธารสายนี้ขึ้นมาใหม่ " อ่านบรรทัดนี้แล้วนึกถึงโรงเรียนชาย(พ.พ.)
ที่ผมเคยเรียนขึ้นมาทันทีเลยครับ
กลับมาที่ภาพ
ภาพที่เห็นอยู่ในพิพิธภัณฑ์ ซึ่งของในนั้นก็จะออกแนวประวัติศาสตร์ งานนี้ดูแล้วคงจะเกี่ยวกับศิลปะน้อย
ฉะนั้นงานนี้ขอเดาเลยครับ
ขอเดาว่า..
ช่วงนั้นสภาพอากาศไม่ค่อยดี ทำมาหากินทางการเกษตรก็ได้ผลผลิตไม่พอกิน
เลยต้อง ล้มวัวมาทำเนื้อย่างเกาหลี กินเพื่อประทังชีวิต
ส่วนที่ให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายลากก็เพราะ
โดยปกติผู้ชายจะเป็นฝ่ายทำนา จึงมีทักษะความชำนาญมากกว่า
จึงได้เป็นฝ่ายถือคันไถ่ครับ
8. Ranee
ราณีนี่โผล่มาให้คิดดอกแท้ๆเลย วิจารณ์ก็ไม่วิจารณ์ อิอิ
เพิ่มอีกนิดครับ
แบบว่ากินวัวหมดแล้ว เลยขอแรงแม่บ้านมาช่วยในการไถนาครับ
โธ่.. ชีวิตผู้หญิงเกาหลีสมัยนั้น สู้ชีวิตดีแท้ๆ
เดี๊ยวผมก็เก็บตังบิน
ไปหาสาวเกาหลีมาเป็นแฟนมั้งดีกว่า อิๆๆๆ
9. สุวรรณา
คิดแบบพี่นิดนี่ก็ดีนะครับ แต่สงสารวัว สงสารควาย ต่อไปคงตกงาน อิอิ
12. Ko
แนวของนายโก้มีจินตนากรสูงมากเลยนะครับ มีเหตุมีผลมาก สงสัยจะได้แขนเสื้อแล้วหละ อิอิ
ไม่ต้องห่วงนะครับ กรรมการยังไม่ได้ตั้ง ฮา......
สวัสดีครับ
ขอร่วมสนุกด้วยคนนะครับ ไม่หวังได้เสื้อ เพราะสั่งไปแล้ว....พูดเหมือนจะทายถูก อิอิ
ภาพนี้ต้องบอกว่า.....กิ๊ว กิ๊ว น่าไม่อาย ใช้แรงงานหญิง...แสดงถึงความแข็งแกร่งของชาวเกาหลีสมัยนั้น แม้อิสตรีก็ยังสามารถช่วยไถนาแทนวัวได้ เหอๆๆ
15. ข้ามสีทันดร
ขอบคุณมากครับที่มาร่วมแสดงความคิดเห็น
ได้อีกตัวก็ดีนะ เอาไปให้พรรคพวกหรือให้ลูกพี่ตอนปีใหม่ จะได้ก้าวหน้า อิอิ
อยากได้เสื้อท่านรอง ผมขอร่วมทายด้วยครับ
สตรีโสมคือโคมทอง ส่องประกายไปทั่วหล้า
องอาจดุจนางพญา แม้เหนื่อยล้าไม่หวั่นใจ
งานหนักไม่เคยท้อ มิระย่อต่อสิ่งใด
ดุจเฟืองหมุนก้าวไป ขับเคลื่อนให้ไปสู่ฝัน
สองมือที่ประคอง สองขาก้าวเดินไปพลัน
ส่วนตัวหัวใจนั้น มิหวาดหวั่นต่อสิ่งใด
มุ่งมั่นมิผันแปร แท้จริงแน่เหนือชายใด
สร้างโลกที่สดใส เพื่อมอบให้แก่ครอบครัว
17. เล่นเป็นกลอนมาเลย ไม่รู้กรรมการจะให้คะแนนเพิ่มหน่อยนึงมั๊ย อิอิ
- หุหุ ผู้ชายใช้แรงงานผู้หญิงนี่นา....
- แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงแข็งแรงกว่าผู้ชาย อดทนกว่า บึกบึนกว่า หุหุ
- แต่พอเวลาผ่านไปผู้ชายสำนึกได้ เลยต้องเอาอย่างอื่นมาทำแทน
- ทิ้งท้ายยังไงๆ ผู้หญิงก็เก่ง ที่สุด อิอิ
สวัสดีค่ะ คุณหมอ
- ตามมาอ่านเรื่องเกาหลีค่ะ สนใจ
- อยากได้เสื้อ ขอวิจารณ์ภาพนะค่ะ
- จากภาพเป็นผู้หญิง ซึ่งน่าจะเป็นภรรยากำลังทำงานลากไถโดยมีผู้ชายซึ่งน่าจะเป็นสามีจับไถเดินตามเพื่อไถนา ทำนาปลูกข้าว ให้ได้ข้าวมาเป็นอาหาร น่าจะสื่อถึงความหมายของความแข็งแรงของภรรยาที่แข็งแรงเข้มแข็งเป็นผู้นำในการทำมาหากินของครอบครัวซึ่งใช้ทั้งแรงงานและความคิด เพราะเป็นผู้ลากจูงให้สามีเดินตามถ้าไม่เข้มแข็งก็ต้องลากสามีไม่ได้ และเป็นผู้นำพาให้สามีเดินตามแน่นอนว่าต้องใช้ความคิดแน่ๆไม่งั้นคงต้องเดินผิดทางกันได้
- เชียร์ภรรยามากไปหน่อยมั้ยค่ะ...อิอิอิ
- สวัสดีครับคุณหมอนักวิ่ง
- อันวัวควายถึงอึด..ทน ก็ไม่เท่า
- เมียของเราแกร่งกล้ากว่าไหนไหน
- เรื่องเลี้ยงลูกเลี้ยงผัวไม่กระไร
- ทนกว่าควายผัวเลยใช้ให้ไถนา....
- คารวะเพศแม่ทุกคนด้วยความจริงใจ ชีวิตจริงของผู้หญิงในบางประเทศน่าสงสารมากๆครับ
21. paew
ขอให้ผู้หญิงแข็งแรงและเป็นผู้นำอย่างที่ อ. แป๋วว่า จะได้ช่วยไถนา อิอิ
22. อัยการชาวเกาะ
เล่นเป็นกลอนมาเลย แถมมีอารมณ์ขัน ได้คะแนนพิเศษ อิอิ
ขี่รถชนหมา ถ้าหมาอัยการ คนขี่รถผิด แต่ถ้าอัยการขี่ เจ้าของหมาผิด
ดีนะที่ให้ครูบาตัดสิน ไม่งั้น อัยการชาวเกาะวิจารณ์ดี กลอนไพเราะ มีอารมณ์ขัน แต่หมอให้สาวๆชนะ อิอิ
คิดว่าเมียเป็นควาย
ไม่ได้ว่าใครน๊า ไม่ได้ว่าใครน๊า ไม่ได้ว่าใครน๊า
แอบลอกการบ้านค่ะพี่องุ่น คิดเหมือนกันแต่ไม่กล้าเขียน ก๊ากส์ๆๆๆๆๆ
25. พี่องุ่นคนสวย
ไม่มีคน คิดว่าเมียเป็นควาย หรอกครับ
มีแต่ควายที่ คิดว่าเมียเป็นควาย อิอิ
เสียดายที่ผมไม่ได้เป็นกรรมการตัดสิน ไม่งั้นให้เจ๊องุ่นคนสวยได้ที่ 2 เลย ( มีรางวัลเดียว อิอิ )
26. Ranee
ตอบเหมือนเจ๊องุ่นคนสวย ก็ได้ที่ 3 สิ แต่สารภาพว่าลอกการบ้าน ปรับเป็นที่ 4 แล้วกัน
- มาร่วมสนุกค่ะ
- เคยอ่านเรื่อง "ชาวนาไทย" น่ะค่ะ ก็เลยคิดว่าน่าจะมีแนวคิดที่คล้ายคลึงกันกับชาวเกาหลี
- ในการไถนา ของชาวนาไทย "วัวควาย" ถือว่าเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญมาก ซึ่งในการไถนานั้น ในเรื่องของวัวควาย ต้องเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกคุณสมบัติที่เหมาะสมก่อน
- หลังจากนั้น ไม่ใช่ว่า จะทำการไถนาได้เลย ต้องมีประเพณี ของการฝึกวัวควายให้ไถนาด้วย ในการฝึกวัวควาย มีส่วนหนึ่งที่จะต้องมีวิธีการที่เรียกว่า "สนตะพาย" เพื่อลากจูง ให้วัวควายไปในทิศทางที่ต้องการ และฝึกการพ่วงแอก คันไถ ในการลากจูงไถ
- การที่ให้ผู้หญิง ลากจูงวัวนำหน้า เพราะผู้หญิงมีความละเอียดอ่อนด้านความรู้สึก สามารถ "สนตะพาย" วัวควายได้ดี เพราะวัวควายมีความรู้สึก ไม่ชอบการบังคับมากนัก ไม่จำเป็นต้องใช้แรง (เว้นแต่ว่า วัวควายตกมัน..แหะ แหะ)
- ในการจับคันไถ ต้องมีการบังคับและใช้แรงกด เพื่อพลิกผืนดินขึ้นจำเป็นต้องใช้แรงงาน จึงต้องใช้ผู้ชายในการแบกคันไถน่ะค่ะ
- ไม่รู้ว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า พอดี อ่านเรื่อง "ชาวนาไทย" นานมากแล้ว
- จะรอคำเฉลยนะคะ
นักการอิ่ม
- ยังมีเวลาพี่นิด วิจารณ์ใหม่ได้ครับ อาจได้รางวัลพยายามวิจารณ์ อิอิ
เรื่องนี้ยังมีผู้ให้ความเห็นน้อยราย
กรรมการขอยืดเวลาให้
ขอเรียนเชิญ อ.แป๋ว มาเป็นกรรมการร่วมอีกคน
ยังติดใจตอนตัดสินภาพไม่หาย
จะตัดสินวันที่ 30 ที่กทม ดีไหมครับ
ขอเชิญล่ารางวัล ได้ตามอัธยาศัย อิอิ
โชคดี นะครับ
- 5555555 เฝ้าเข้ามา เพื่อเฉลยภาพ ตั้งแต่ 17 จน 19 รอให้พ่อตัดสิน
- ว้า..... จะให้รอไปถึงใหนน้า....
- ให้โอกาส...... เพื่อนๆๆอีกนะคะ เข้ามาเร็วไว