อาจารย์วิญญู...Welcome to Japan 6


     สืบเนื่องจากเมนูนาเบะปลาปักเป้านั่นแหละครับ ซึ่งก็เหมือนกับไปทานสุกี้ที่บ้านเรา เมื่อก่อนเวลาไปทานสุกี้ ที่ร้านเขาจะใช้เตาแก๊ซ จนเมื่อมีเรื่องแก๊ซระเบิดแถวสุขุมวิท เมื่อสักยี่สิบกว่าปีมาแล้ว ตอนนี้ ร้านสุกี้จึงเปลี่ยนจากเตาแก๊ช มาเป็นเตาไฟฟ้า และใช้เตาไฟฟ้ามาจนถึงปัจจุบัน แต่ที่นี่ก็คงเป็นเตาไฟฟ้าชนิดหนึ่งเหมือนกัน

     เขาเอากระจาดหวายธรรมดาที่เราใช้ใส่ผลไม้ในบ้านเรานี่แหละครับ เอามาวาง แล้วเอา กระดาษขาว ผมจับดูแล้ว ก็เป็นกระดาษธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษ เอามารอง แล้วเอาแท่งเหล็กทับไว้ จากนั้นก็ใส่น้ำลงไป แล้วเปิดสวิตซ์ สักพักน้ำก็จะร้อนครับ ขณะที่น้ำร้อนอยู่นั้น ผมจับดูด้านล่างกระจาด ไม่ได้รู้สึกร้อนไปด้วย ก็เลยสงสัยว่าเขาใช้หลักการอะไรทำให้ร้อน

Magneticstove

     หนุ่มญี่ปุ่นที่นั่งข้างๆ อธิบายให้ฟังว่า ด้านล่างจะเป็นแม่เหล็ก เขาใช้ไฟฟ้าเข้าไปหมุนแม่เหล็ก เมื่อแม่เหล็กเคลื่อนที่ ก็จะทำให้โมเลกุลของเหล็กข้างบนเคลื่อนที่ไปมาด้วย ทำให้เกิดความร้อนขึ้นมา ซึ่งความร้อนที่เกิดขึ้น ขึ้นกับความเร็วในการหมุนแม่เหล็ก  ถือเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับผมครับ และอาจจะเป็น trend ใหม่ในบ้านเราในอนาคต ที่ร้านสุกี้ อาจเอาไปใช้ต่อไปได้ครับ

Party7

หมายเลขบันทึก: 144105เขียนเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2007 13:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)
  • ผมสงสัยอยู่ตั้งนานว่าทำไมกระดาษมันไม่ไหม้ไฟ
  • เข้าใจแล้ว
  • ดีจังเลยพี่
  • น่าสนใจด
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะคุณไมโต

  • ความเจริญก้าวหน้า มาไม่หยุดยั้งนะคะ
  • ขอบคุณค่ะ  ที่นำความเจริญมาให้ดู
  • อีกไม่นาน คนไทยคงเลียนแบบค่ะ

สบายดีนะคะ..

  • กระดาษมันไม่ไหม้ไฟ เพราะมันเปียกน้ำครับ เอ้ย ไม่ใช่  เพราะกระดาษมีจุดติดไฟสูงกว่าจุดเดือดของน้ำครับ ความร้อนที่เกิดขึ้นจากแท่งเหล็ก จะถูกส่งต่อให้น้ำ ทำให้น้ำเดือดครับ กระดาษก็เลยไม่ติดไฟ แต่เอถ้าน้ำระเหยไปหมดแล้ว กระดาษจะติดไปหรือเปล่า อันนี้ผมไม่ทราบครับ ว่าระบบ safety เขาป้องกันเรื่องนี้ไว้หรือเปล่า

สวัสดีครับ ครูอ้อย

  • นั่นสิครับ อีกไม่นานคงได้เห็นเทคโนโลยีนี้ตามร้านสุกี้บ้านเราแล้วล่ะครับ
  • เตรียมเสื้อกันหนาวไปให้พร้อมนะครับ ครูอ้อย ที่ดงหลวงอากาศน่าจะเย็นมาก

ผมก็เคยเล่นตอนเด็กๆครับ

เอากระดาษมาพับเป็นกะทะ ใส่น้ำ แล้วจุดเทียนด้านล่าง

น้ำร้อน กระดาษไม่ไหม้ครับ เจ๋ง

  • นั่นสิครับ หมอแป๊ะ ผมเคยเล่นตอนเด็กๆเหมือนกัน แต่ของผม ไฟแรงไปหน่อย กระดาษไหม้ครับ

 

ฉันเห็นหม้อแบบนี้แล้วนึกถึงอันตรายของแผ่นเหล็กนี้ที่แช่อยู่ในน้ำค่ะ

แม่แมงมุมเพื่อนรัก

  • ฉันกลับไม่คิดว่าอันตรายนะ ฉันคิดว่าระบบแบบนี้กลับจะมีความปลอดภัยมากขึ้น ถ้าเทียบกับระบบที่ใช้ก๊าซ ที่จะเสี่ยงกับก๊าซระเบิด หรือจะเป็นแบบเตาไฟฟ้า ซึ่งเป็นการเอาไฟฟ้าเข้า heater โดยตรงและอยู่ติดกับน้ำที่ประกอบอาหาร ให้คนเอาช้อนโลหะจ้วงไปจ้วงมา ลองคิดดูว่าหากวันไหนไฟรั่วขึ้นมาล่ะก้อ.....
  • เจ้าแผ่นเหล็กนี่เป็นเพียงแผ่นที่ให้ความร้อนครับ ซึ่งความร้อนที่สร้างขี้นจะถูกถ่ายเทให้กับน้ำโดยตรง ทำให้แผ่นเหล็กที่ว่านี่อุณหภูมิไม่สูงจนร้อนแดงหรอกครับ แล้วเวลากินก็ไม่ได้ยกขึ้นซด....จึงน่าจะมีความปลอดภัยสูงกว่า
  • ความเชื่อส่วนตัวนะครับ เพราะผมไม่ทราบว่ามีจริงหรือเปล่า ผมเชื่อว่าเขาน่าจะมี sensor ตรวจจับความร้อนที่สูงกว่าอุณหภูมิของน้ำเดือดไว้ นั่นหมายความว่า หากน้ำระเหยไปจนหมดแล้ว เหล็กเกิดความร้อนขึ้นมากจะถึงระดับหนึ่ง ระบบสร้างความร้อนก็จะถูกตัด เพื่อให้มีความปลอดภัยมากขึ้น

 

พ่อหมูอ้วนเพื่อนรัก

  • จริงๆแล้วก็ดีนะคะ....  เรามาทำอันเล็กๆใส่ในถ้วยกาแฟกันเถอะ  เวลานักท่องเที่ยวเดินป่า  ไม่ต้องใช้หม้อต้มกาแฟเลย  เอาแผ่นไอ้นี่แหละ  เล็กๆ..หย่อนลงแก้ว  พอร้อนก็ใส่กาแฟ..คนๆๆๆ..ดื่มได้เลย  ..อ้อ...แต่ต้องผูกไอ้แผ่นนี้ติดก้นถ้วยนะคะ.....เดี๋ยวเผลอดื่มมันเข้าไป  เราจะขาดทุนย่อยยับ..เห็นไหม..ได้อีกหนึ่งธุรกิจแล้ว...งานนี้มีแต่รวยจ้า.....
แปลกดีพี่ ไว้อาจจะมีให้เห็นที่เมืองไทยบ้างก็ได้ ญี่ปุ่นนี่เขาเจ้าความคิดจริงๆ นะ เคยดูรายการที่เขาตกแต่งบ้านจากของร้านร้อยเยน เจ๋งมากเลยอ่ะ คิดดัดแปลงไปได้สารพัด เมืองไทยก็มีคล้ายร้านร้อยเยนแต่เปลี่ยนเป็นทุกอย่าง 60 บาทแทน หนูก็ไปช้อปมาใช้บ่อยๆ เลือกดีๆ ก็คุ้มนะ

แม่แมงมุม

  • ถึงอย่างไร เจ้าเครื่องนี้ก็ใช้ไฟฟ้าจ้า เอาไปเดินป่าไม่ได้ ไม่งั้นต้องหิ้วโซล่าเซลล์ไปด้วย
  • ท่าทาง แม่แมงมุมน่าจะหัวไวเรื่องการค้าการขายนะ อีกหน่อยฉันคงมีเพื่อนเป็นนักธุรกิจใหญ่แห่งแดนอิสานแน่เลย....

หนูซาน

  • พี่ว่าอีกไม่นาน น่าจะเห็นในบ้านเราแหละ แล้วร้านที่น่าจะมีก่อน ก็น่าจะเป็นพวกสุกี้ทั้งหลายน่ะ
  • ร้าน 100 เยน ที่ญี่ปุ่นนี่น่าเข้านะ มีของให้เลือกสารพัด ราคาไม่แพง บางอย่างก็แสนคุ้มค่า ว่าไปแล้วคุณภาพของของที่เขาขายก็ใช้ได้แหละ เรียกว่าคุณภาพเกินราคาเลยล่ะ ที่บ้านเรามีร้าน 60 บาทด้วยเหรอ อยู่แถวไหนล่ะ วันหลังจะได้ลองไปดูบ้าง
รู้สึกว่าจะชื่อร้านไดโชะค่ะ ไม่เคยหยุดดูชื่อจริงจังซะที ที่ไปซื้อประจำก็ที่จัสโก้รัชดาค่ะ มีอีกหลายสาขาแต่ไม่เคยไป ไม่แน่ใจค่ะว่าอยู่ตรงไหนอีกบ้าง หนูชอบไปซื้อของมาเข้าพร็อพฉากถ่ายงาน ชอบไปเลือกเองเพราะจะได้ซื้อของส่วนตัวด้วยค่ะ ทุกอย่าง 60 บาท ตาดีก็คุ้ม บางอย่างก็ซื้อมาแล้วก็เก็บเข้ากรุเหมือนกัน

ขอบคุณมากจ้า สาวน้อยซูซาน หากมีโอกาสคงได้ลองแวะไปดู หาของใช้ราคาถูกมาใช้บ้างจ้า ปกติพี่ได้เข้ากรุงเทพฯเฉลี่ย ปีละครั้งจ้า ส่วนใหญ่มักเป็นช่วงปิดเทอม เอาเด็กๆ ไปเยี่ยมอาก๋งที่กรุงเทพฯ  กะคุณยายที่นครสวรรค์

สวัสดีค่ะพี่ไมโต

ม้อยอยู่ญี่ปุ่นมา 4 ปี ยังไม่มีโอกาสได้เห็นเครื่องแบบที่พี่อามาโชว์ให้ดูเลยค่ะ  อาจจะเป็นเพราะไม่มีเงินไปกินร้านหรูๆแบบนี้ (เป็นนักเรียน จน จน) แถมอาจารย์ก็ไม่เคยพาไปกินสุกี้แบบที่พี่บอกด้วย (แอบอิจฉา ตาร้อนผ่าวเลยนะพี่ รู้สึกได้รึป่าวค่ะ 555)

เป็นนวตกรรมที่น่าสนใจเชียวล่ะพี่ ไม่รู้ว่าอีกนานไม๊ถึงจะเผยแพร่เข้ามาในไทย  แต่คิดว่าไม่น่านาน เพราะบ้านเราปัจจุบันมีร้านอาหารญี่ปุ่นเกิดขึ้นมากมาย และมีเทคโนโลยี่เข้ามาเร็วมาก  สักวันเราคงได้เห็นตะแกรงสุกี้แบบนี้ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท