ศิลปะการละเล่นเพื่อความบันเทิงของชาวไทยใหญ่ ที่เรียกว่าจ๊าดไต หรือเรียกง่ายๆว่าลิเกไทยใหญ่ นี้นับว่าหาดูได้ยากแล้วในปัจจุบัน
ผมยืนดูด้วยคความทึ่งในท่าทางการร่ายรำของนักแสดง มันงดงามมีชีวิตชีวาแบบแปลกตา ท่าทางของหญิงนั้นเน้นการดีดส้นเท้าเพื่อเตะชายผ้าถุงที่ยาวให้สะบัดขึ้น พร้อมกับรำฟ้อน ส่วนช่ายมีลีลาฉวัดเฉวียนมาก
ส่วนคำร้องนั้น ผมฟังออกไม่มากนักเพราะเป็นภาษาไทยใหญ่แท้ๆ ความรู้ด้านภาษาไทยใหญ่ของผมก็มีจำกัดนัก แต่ก็พอฟังออกว่าเป็นกลอนสด เป็นมุขปาฐกที่คิดขึ้นในทันใดเดี๋ยวนั้นเลย เพราะผู้ชมจะเขียนกระทู้ใส่กระดาษส่งให้นักแสดง แล้วนักแสดงก็ร้องตอบกระทู้พร้อมแสดงท่าทางฟ้อนรำประกอบ คิดว่าคงตอบถูกอกถูกใจผู้ชมมาก สังเกตจากโห่ร้องชอบอกชอบใจ พวงมาลัย และแบงค์ยี่สิบแบงค์ร้อยที่คนดูยื่นให้
เขียนมากๆนะครับ
รออ่านนะน้องชายที่นับถือ
พี่หมอครับ
สวัสดีครับ
มาอ่าน มารู้จักลิเกไทยใหญ่ครับ
ไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยิน น่าสนใจมากๆ ถ้ามีรายละเอียดอื่นๆ ก็มาเล่าสู่กันฟังอีกนะครับ
กำลังจะไปปาย วันหลังลอยกระทง ไม่รู้จะได้ดูหรือเปล่าครับ
ตอนนี้รู้จักชาวปายสองคนแล้ว คนแรกเป็นคุณเอก ครับ
ปล.เรื่องผี คงต้องคุยกันยาวครับ
ดีครับ สวยดี บ้านผมหาดูยากแล้วคับ ดอนเด็กๆหห็นบ่อยนะจ๊าตไตเนี้ยะแต่เดี๋ยวนั้วัฒนะธรรมแบบนี้ไม่ค่อยมีแล้วผมว่ามันถูกกลมกลีนไปกับสังคมไทยแล้วซะอีก
......ลูกหลานชาวไทยใหญ.....
วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม 2551 เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป
ที่ปายคิดว่าคงไม่ค่อยได้ดูกันบ่อยๆ แต่ที่ อ. เมือง แม่ฮ่องสอน ถ้ามีงานปอยใหญ่ๆก็จะมีลิเกจ๊าดไตมาแสดงครับ ผมชอบไปยืนดูแต่ก็ฟังไม่รู้เรื่องเช่นกันครับ
โอ้โห นี่บันทึกเก่ามาแล้วน่ะค่ะ
อิอิ ใครทำให้บันทึกนี้ขึ้นมาขอบคุณค่ะ
จ้าดไต เพิ่งเคยรู้จักก็วันนี้เอง อิอิ
ขอบคุณค่ะ
เปนคนสีป้อ
ก็ไหล้เบิ่งจ้าดไต
แต่ยังน้อยๆ
เจ้ามักจ้าดไตคณะไหล้
โตเฮานี้จอบคณะ ยอดแซงแรงใหม่ เน๊าะ
แนวว่าหมอกวามเปิ๋นฮ้องกวามไหล้ม่วนหลี
มักนางละจิ่งอีกคนหนึ่ง
ยินหลี หนำหนำค่า