ความไม่สมานฉันท์ในสังคมไทย
ความยากจนและความไม่เป็นธรรมทางสังคมเป็นความรุนแรงอย่างเงียบ (Silent violence) เป็นความไม่สมานฉันท์ในสังคมอย่างยิ่ง และนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งนานาชนิด
ต่อจาก อุดมการณ์สูงสุดของมนุษยชาติ
๒
สังคมไทยมีความไม่สมานฉันท์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สังคมไทยมีความไม่สมานฉันท์เพิ่มมากขึ้นทุกที ซึ่งเห็นได้จากสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยและระหว่างเมืองกับชนบทห่างมากขึ้น อันนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งรุนแรงนานาชนิด ทั้งชนิดมองเห็นอย่างโจ่งแจ้งและที่มองไม่เห็น รวมทั้งความขัดแย้งทางการเมือง
- การแย่งชิงทรัพยากร อาชญากรรมและการประทุษร้ายเพิ่มมากขึ้น
- ความขัดแย้งทางการเมืองมากขึ้นจนเสี่ยงต่อการปะทะกันระหว่างกลุ่มคนที่มีความภักดีทางการเมืองต่างกัน
- ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อนและไม่มีท่าทีจะยุติลงได้
- ความยากจนและความไม่เป็นธรรมทางสังคมเป็นความรุนแรงอย่างเงียบ (Silent violence) เป็นความไม่สมานฉันท์ในสังคมอย่างยิ่ง และนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งนานาชนิด
เป็นต้น
สภาพของสังคมไม่สมานฉันท์อาจช่วยกันเพิ่มเติมได้อีกมากจากแง่มุมของแต่ละคน และ แต่ละกลุ่ม
หมายเลขบันทึก: 144007เขียนเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2007 20:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:20 น. () สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (2)
Sorry na kha, I can not type in Thai. In my opinion, I think that Samanachan is not no conflict state. It is not necessary that everybody thinks in the same way. Moreover, we could express our idea freely eventhough it may be different from the others. The important thing is that we have to accept a way of most people, behaves well, accept rules and regulations. Nowsday, I don't think that Thai people do not Samanachan. Everyone still acts as it should be, acts as the same way before. However, discipline is important to our society. Thank you kha. If I can type in Thai, I will discuss again kha.
ขอขอบคุณ คุณดวงเดือน มากนะคะ เป็นความคิดเห็นที่สมบูรณ์เยี่ยมยอดจริงๆ ดิฉันขออนุญาต copy ไปต่อท้ายความคิดเห็นในบันทึกนี้นะคะ สังคมไทยไม่สมานฉันท์....เพราะ