HONEYเขียนเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2549 08:15 น. ()
แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2555 14:23 น. ()
.....มูลนิธิฯ ไม่ต้องการที่จะให้แก่บุคคลที่ทำประโยชน์แก่ชุมชนของตน.....
ต่อจากตอนที่แล้ว.... บทความก่อนหน้านี้ ปาฐกถาเรื่อง
“รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล” ตอนที่
1
******************************************
ตอนที่
2 บทความพิเศษ ปาฐกถาเรื่อง
“รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล” โดย ศาสตราจารย์นายแพทย์ณัฐ
ภมรประวัติ
ต่อมามีผู้บริจาคให้มูลนิธิฯ
มากมาย ตั้งแต่สมเด็จพระศรีนครินทร์
และสมเด็จพระพี่นางก็บริจาคเป็นครั้งใหญ่ๆ หลายครั้ง
และมีบริษัท, เอกชน, ห้างร้านใหญ่ๆ
ช่วยบริจาคอีก
เวลาที่ตั้งมูลนิธิฯ
ขณะนั้นเป็นเวลาที่ประเทศไทยกำลังรุ่งเรือง
ต่อมาเศรษฐกิจยุบตัวลงในปี 2540
ซึ่งค่อนข้างกระทบกระเทือนมาก
และอัตราแลกเปลี่ยนดอลล่าร์ต่อบาทก็เปลี่ยนแปลงไปมากเช่นกัน
แต่เนื่องจากสำนักพระราชวังได้ช่วยเหลือในด้านงบประมาณการพระราชพิธีพระราชทานรางวัลและการเลี้ยงคอกเทล
และการมี Banquet
นอกจากนั้นบริษัทการบินไทยก็ให้ค่าตั๋วเครื่องบินฟรีแก่ผู้ที่เดินทางทั้งกรรมการรางวัลนานาชาติและผู้ที่ได้รับรางวัล
และโรงแรมโอเรียนเต็ลก็ให้ห้องพัก
ซึ่งมีการลดราคาเป็นพิเศษให้แก่กิจการของมูลนิธิฯ
จึงดำเนินไปได้โดยเรียบร้อย
มูลนิธิฯ
จัดตั้งขึ้นโดยมีคณะกรรมการมูลนิธิซึ่งสมเด็จพระเทพฯ
ท่านทรงเป็นองค์ประธานและมีอุปนายกซึ่งเป็นคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
มีกรรมการโดยตำแหน่ง เช่น ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อธิบดีกรมสารนิเทศ
คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สงขลานครินทร์ เป็นต้น และมีผู้ทรงคุณวุฒิด้วย
เมื่อมีการประชุมครั้งแรก
คณะกรรมการมูลนิธิฯ
ได้สรุปว่ารางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล หรือที่เรียกว่ารางวัลมหิดล
ในตอนแรกๆ จะต้องเป็นรางวัลนานาชาติ
ซึ่งมอบให้ผู้สมควรได้รับจากประเทศใดๆ
ก็ได้
คณะกรรมการมีมติให้กับผู้เป็นแพทย์และได้สร้างวิชาการที่เป็นประโยชน์แก่บุคคลจำนวนมากข้ามประเทศและข้ามทวีปเป็น
1 รางวัล
อีกหนึ่งรางวัลให้แก่บุคคลซึ่งสร้างความรู้ใหม่
หรือรับความรู้ใหม่จากผู้อื่นมาประยุกต์ต่อประชากรจำนวนมาก
ข้ามประเทศและข้ามทวีปเช่นกัน มูลนิธิฯ
ไม่ต้องการที่จะให้แก่บุคคลที่ทำประโยชน์แก่ชุมชนของตน
ไม่ว่าจะเป็นชุมชนในประเทศหรือนอกประเทศก็ได้
มูลนิธิฯ ได้มอบหมายให้ผมไปกระทำ 2 อย่าง คือ [1] ร่าง Charter
ของมูลนิธิฯ เป็นภาษาอังกฤษ และ
[2] ให้ประกอบการตั้ง “คณะกรรมการรางวัลนานาชาติ”
ขึ้นคณะหนึ่ง
เพื่อพิจารณาหาผู้สมควรได้รับรางวัลมหิดลเสนอต่อคณะกรรมการมูลนิธิฯ
การเขียน Charter
ได้กระทำร่วมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ
เขียนเป็นภาษาอังกฤษ
มีข้อความซึ่งให้อำนาจเลขาธิการไว้ค่อนข้างมาก
และให้อำนาจคณะกรรมการรางวัลนานาชาติให้มีสิทธิจัดการประชุมอย่างใดก็ได้ที่เหมาะสม
เพื่อจะกลั่นกรองผู้สมควรได้รับรางวัลและเสนอกรรมการใหญ่ต่อไป
(โปรดติดตามต่อไป)
*******************************************
ที่มา : บทความพิเศษ
ปาฐกถาเรื่อง “รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล” โดย ณัฐ ภมรประวัติ
พ.บ.
จาก
สารศิริราช ปีที่ 54 ฉบับที่ 9 เดือนกันยายน
2545
ความเห็น
ยังไม่มีความเห็น