การจัดการงานสาธารณะ
ชุมชนคีรีวง
จังหวัดนครศรีธรรมราช
คีรีวงเป็นชื่อหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ที่ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา
จังหวัดนครศรีธรรมราช
เป็นหมู่บ้านที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหมู่บ้านที่สวย รวยน้ำตก
ยกวัฒนธรรม นำพัฒนา
ด้วยเหตุที่ตั้งอยู่ที่ราบเชิงเขาหลวงด้านทิศตะวันออก
มีเทือกเขาหลวงที่โอบล้อมทั้ง 4 ด้าน แต่เดิมหมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อว่า
“บ้านขุนน้ำ
”
แต่มาเปลี่ยนเป็นคีรีวงอันมีความหมายว่าบ้านที่อยู่ในวงล้อมของภูเขาตามชื่อวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางหมู่บ้าน
ชาวคีรีวงดำเนินชีวิตอยู่อย่างเรียบง่ายและสงบสุขด้วยสภาพ
พื้นที่อันอุดมสมบูรณ์และการพึ่งพาอาศัยกันในลักษณะเครือญาติจนมาเผชิญกับภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ถึง
3 ครั้ง ครั้งแรกในปี 2505 ครั้งที่ 2 ในปี 2518 และครั้งที่ 3 ในปี
2531 ซึ่งถือว่าเป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุด
ซึ่งในแต่ละครั้งสร้างความเสียหายให้แก่หมู่บ้านอย่างมหาศาลเนื่องจากหมู่บ้านอยู่ในภูเขาทำให้เกิดดินถล่มลงมา
น้ำป่าพัดพาบ้านเรือนต้นไม้และที่ทำกินพังเสียหายและทำลายเส้นทางน้ำที่ใช้ติดต่อกับภายนอกจนหมดสิ้น
ครั้งที่ 3
ที่มีความร้ายแรงมากนั้นทำให้ชาวบ้านต้องหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีแม้บ้านที่จะอยู่อาศัยและมีหนี้สินมากมายซึ่งชาวคีรีวงและกระผมเองซึ่งอาศัยอยู่ในอำเภอลานสกาคงจะไม่ลืมเหตุการณ์ในครั้งนี้ชาวบ้านต่างต่อสู้กับภัยธรรมชาติด้วยตัวของตนเองด้วยความสามัคคีและการบริหารจัดการของชุมชนที่ดีทำให้สามารถกอบกู้ชุมชนขึ้นมาใหม่เพื่อความมั่งคงของชุมชน
ชาวคีรีวงส่วนใหญ่มีอาชีพทำสวนผลไม้ที่กลมกลืนกับป่าธรรมชาติหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า
“สวนสมรม
”
คือการปลูกผลไม้หลายๆชนิดไว้ในสวนเดียวกัน เช่น สะตอ มังคุด ขนุน เงาะ
ทุเรียน เป็นต้น
เนื่องจากผลผลิตของชาวคีรีวงได้ออกสู่ตลาดพร้อมๆกันหรือไล่เลี่ยกับจังหวัดอื่นๆทำให้ราคาผลผลิตตกต่ำไม่ดีเท่าที่ควร
ประกอบกับการที่มีการรับซื้อจากพ่อค้าคนกลาง
ซึ่งเอารัดเอาเปรียบชาวบ้านทำให้เกิดความเสียหาย
จึงทำให้ชาวคีรีวงเริ่มมีหนี้สะสมขึ้นมามากมาย
และเริ่มที่จะมีการกู้หนี้กันมากขึ้นซึ่งดอกเบี้ยก็อยู่ในอัตราที่สูงมาก
เนื่องจากการมีหนี้สินที่เพิ่มขึ้นมากนี้เองจึงทำให้เกิดแนวความคิดที่ว่าจะทำอย่างไรที่จะให้ชาวคีรีวงมีหนี้สินที่ลดลงทำให้เกิดการรวมกลุ่มกันระยะเริ่มแรกจะมีเพียง
50 คน
จัดตั้งเป็นธนาคารเล็กๆของหมู่บ้านโดยสมาชิกของกลุ่มจะมีการตั้งสัจจะว่าจะเก็บเงินจากการทำสวนมาฝากไว้ที่ธนาคารหมู่บ้านทุกเดือน
ทุกๆสิ้นเดือนชาวคีรีวงจะพากันเดินทางมาที่ทำการกลุ่มโดยจะนำเอาเงินสัจจะที่สะสมไว้มาฝากเข้าบัญชี
ธนาคารเล็กๆแห่งนี้เกิดขึ้นมาจากแนวความคิดที่จะช่วยแก้ปัญหาความยากจนของชาวคีรีวง
จากธนาคารเล็กๆซึ่งมีสมาชิกเพียงไม่ก็คนได้พัฒนาจนกลายมาเป็นกลุ่มออมทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่และได้มีบทบาทในการให้ความช่วยเหลือปลดหนี้ของชาวบ้านจากนายทุนหรือ
ธ.ก.ส. ที่ละหลายๆราย
รวมทั้งช่วยให้ชาวบ้านไม่ต้องก่อหนี้ใหม่กับนายทุน หรือแม้แต่ ธ.ก.ส.
เพราะทางกลุ่มออมทรัพย์จะคอยช่วยเหลือเรื่องนี้อยู่แล้วแม้ราคาผลผลิตทางการเกษตรจะต่ำแต่ชาวบ้านก็สามารถออมเงินส่วนที่เหลือได้
ทางกลุ่มออมทรัพย์จะมีเงินหมุนเวียนอยู่ในรูปของเงินกู้
และเงินสวัสดิการ
เพราะชาวบ้านเกือบทั้งหมดได้หันมาใช้บริการในรูปของการฝาก-ถอน-กู้
จากกลุ่มออมทรัพย์จากความสำเร็จของการพัฒนาหมู่บ้านและการส่งเสริมการออม
การเติบโตที่แท้จริงของกลุ่มออมทรัพย์มาจากการต่อสู้ของชาวบ้าน
จากความร่วมมือของชาวบ้านและการแก้ใขปัญหาต่างๆในกลุ่มออมทรัพย์โดยมีคณะกรรมการโดยปราศจากความช่วยเหลือแนะนำใดๆของใคร
จากการเริ่มมีสมาชิกเพียง 50คนปัจจุบันได้เพิ่มขึ้นเป็น 2500 คน
จึงได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการในการทำงานของกลุ่มออมทรัพย์
ซึ่งผมได้เข้าไปร่วมในคณะทำงานและฝึกงานอยู่ที่หมู่บ้านคีรีวงนี้
โครงสร้างธนาคารหมู่บ้าน กลุ่มออมทรัพย์คีรีวง
มีคณะดำเนินงาน 4 ชุด ชุดละ 6 คน
1. คณะกรรมการอำนวยการ
มีหน้าที่ในการบริหารงานทั้งหมดภายในกลุ่มออมทรัพย์
2. คณะกรรมการเงินกู้
มีหน้าที่ในการพิจารณาและอนุมัติเงินกู้ทั้งหมด
3. คณะกรรมการตรวจสอบ
มีหนาที่ควบคุมการใช้เงินบัญชีของกลุ่ม
4. คณะกรรมการส่งเสริม
มีหน้าที่แก้ปัญหาระหว่างสมาชิก
จากการดำเนินงานของกลุ่มออมทรัพย์บ้านคีรีวงเริ่มจากกลุ่มเล็กๆเพียงเวลาไม่กี่ปีซึ่งเริ่มแรกมีเงินทุนเพียง
35,000 บาท แต่ในปัจจุบันมีเงินทุนหมุนเวียนอยู่ที่ 10
ล้านบาทนับว่าการดำเนินงานของกลุ่มประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากซึ่งเกิดจากการบริหารจัดการชุมชนที่ดี
มีกระบวนการทำงานที่มีระบบประชาชนเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการบริหารชุมชนกันเอง
ผมซึ่งเป็นคนในอำเภอลานสกาและได้เข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องของการออมทรัพย์
ได้สัมผัสถึงเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านทำให้ทราบว่าชาวคีรีวงเป็นชุมชนที่มีวิถีชีวิตเรียบง่ายมีการพึ่งพาอาศัยกัน
ซึ่งในตอนก่อตั้งกลุ่มออมทรัพย์ในแรกเริ่มอาจจะมีปัญหาบ้างแต่ด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของชาวคีรีวงเองทำให้กลุ่มออมทรัพย์ประสบความสำเร็จในที่สุด
เล่าโดย.......
นาย
ธีรยุทธ์
มาศเมฆ เลขที่ 41
MPM5 4812840415