เพิ่งดูรายการทีวี-สุริวิภา และได้ฟังคุณเพชรพริ้ง สารสินพูดถึงคุณยาย-ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (นาฎศิลป์) และคุณแม่-ท่านผู้หญิงนวลผ่อง เสนาณรงค์ ซึ่งพร่ำสอนท่านมา สติ สำรวม สง่า สบายๆ และสายกลาง เป็น 5 ส.ที่แสนง่าย แต่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตได้ ชอบใจมากๆค่ะ ต้องเอามาขยายต่อ
คุณเพชรพริ้ง สารสิน เธอทำให้เกิดความรักความประทับใจกับความเป็นไทยมากยิ่งขึ้น จากที่ตัวเองก็เคยรู้สึกว่า มารยาทไทย ลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของคนไทยนั้นเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก เราจะมีติดตัวอยู่แทบทุกคนและเวลาไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองก็ยิ่งรู้สึกชัดเจนยิ่งขึ้น ว่าเป็นสิ่งที่คนชาติอื่นเขาสังเกตเห็นและชื่นชม เราเองในฐานะเจ้าของสิ่งที่มีคุณค่าเหล่านี้ ต้องช่วยกันรักษา ถ่ายทอดให้ลูกหลานรุ่นต่อๆไป และการที่จะทำได้อย่างง่ายดายก็คือ การปฎิบัติด้วยตัวเองนั่นเอง เมื่อเราลงมือทำ เราเองก็คือต้นแบบที่ดีให้คนอื่นๆซึ่งเมื่อได้เห็น ได้ชื่นชม ได้รู้สึกดีๆ ก็จะอยากทำตามไปเอง รู้สึกได้ชัดเจนจากสิ่งที่คุณเพชรพริ้งพูดและแสดงออกมา เธอพูดถึงการนั่ง การกราบ การไหว้ การค้อมตัวเมื่อเดินผ่านผู้ใหญ่ ซึ่งที่มาของกิริยามารยาทเหล่านี้ ก็คือ 5ส.ข้างบนนั้นเอง
เห็นว่ามีประโยชน์มาก และใช้ได้กับชีวิตประจำวันในการทำงานของเราจริงๆ ก็คือ
การฝึกฝนตนเอง ใช้ 5 ส.นี้จนเป็นธรรมชาติ ก็จะทำให้เราเป็นคนคิดดี พูดดี ทำดี เป็นต้นแบบที่ดี ทำให้ตัวเองก็สบายใจ คนที่ได้พบได้เห็นได้พูดคุยกับเรา ก็จะมีความสุขไปด้วย และทุกคนสามารถทำได้ทันทีจริงๆในแต่ละวัน ตั้งใจไว้ว่าจะฝึกฝนตนเองและคิดถึง 5 ส.นี้เอาไว้ให้ขึ้นใจ จึงนำมาเผื่อแผ่ต่อให้พวกเราชาว GotoKnow แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันด้วยค่ะ
เข้าท่านะคะ 5 ส ตัวเองด้วยการทำ 5 ส
ขอบคุณค่ะ
เห็นภาพคุณหมอหน่อยจากบันทึกนี้ และอีกหลายๆบันทึกตอนที่รับบทอาจารย์ให้กับน้องๆหมอที่มาฝึกมาดูงานแล้ว บอกได้ว่าคุณหมอหน่อยเป็นคนหนึ่งที่ดูจะเป็นต้นแบบของ 5 ส.ข้างต้นนี้อยู่อย่างน่าชื่นชมนะคะ คนที่ได้พบเห็น ได้รู้จักก็จะอยากทำดี พูดดี คิดดีตามไปด้วยค่ะ
ขอบคุณสำหรับต้นแบบดีๆที่น่าชื่นใจนะคะ