ปั่นชีวิตกับมิตรสหาย


ความเรียง ต่อความประทับใจในการปั่นจักรยาน ด้วยความรับรู้ ความเข้าใจ สายตา และลมหายใจที่เหนื่อยอ่อน ยามได้เห็นตัวเอง ลมหายใจของตัวเอง ผู้คนรอบข้าง โลกรอบข้าง และมิตรภาพที่เกิดขึ้นจากการได้ปั่นจักรยาน พาหนะวัดใจทดสอบกาย และตรวจทานความคิด ในแต่ละขณะของการปั่น

ปั่นชีวิตกับมิตรสหาย

อ้างอิง - ภาพ http://burabhawayu.multiply.com/photos

ระยะสามสี่ปีหลังของชีวิต

ไม่ทราบเวตาลตนใดมาดลใจผม

ให้หลงใหลหลงรักการปั่นจักรยาน ทั้งจักรยานปกติและจักรยานไม่ปกติ ประเภทที่ต้องอาศัยเทคนิคความชำนาญ ทั้งเฟืองทั้งเกียร์ ปั่นขึ้นเขาลงห้วยได้หากแรงถึง หรือประเภทปั่นทางไกลเอาแรงกายกับแรงใจรวมกัน หลากหลายอารมณ์จักรยาน ที่ล้วนแต่น่าหลงใหล

โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามได้เดินทางไกล

มีโอกาสเมื่อไร ต้องแวะร้านจักรยานให้เช่า

เพื่อหาเรื่องเรียกเหงื่อให้กับชีวิตกันบ้าง บางครั้งไปกันแบบน่ารักจากกรุงเทพฯ ถึงอยุธยา ก็เอาเพียงจักรยานมีตะแกรงตะกร้าหน้ารถ ปั่นเอาเพลินสามคน ไปตามพระราชวังเดิม แห่งพระนครอโยธยาศรีรามเทพนคร ขี่ปั่นกันเพลินพอเหงื่อซึมก็หาน้ำหาท่าดื่มกิน หนักหน่อยพอเบื่อก็หาของกินหนักท้อง

ปั่นจนรู้ว่า อรรถรสของจักรยานกับรถนั้น

ช่างแตกต่างกันอย่างมาก

รถถีบกับรถเครื่อง ไม่ใช่แตกต่างเพราะต้องราคาค่าน้ำมันเท่านั้น แต่แตกต่างกันเพราะราคาความพยายาม ที่เราแต่ละคนจะได้เรียนรู้นั้น ต่างกันอย่างลิบลับ ยิ่งเราไม่ค่อยได้ก้าวขาออกกำลังกายบ่อย ไม่ค่อยเยื้องย่างจากที่ทำงานก่อนเย็นย่ำ หรือเย็นมาก็ไม่แตะต้องการออกกำลังกาย 

ยิ่งไม่ค่อยได้ปั่นจักรยานในแต่ละวัน วันใดมาปั่นจะตระหนักได้ดี ถึงขีดจำกัดของชีวิตอย่างถึงใจ หอบหายใจแบบโยนตัวเหมือนจะขาดใจต่อหน้าต่อตา เพราะตนเองอ่อนแอ ยามนั้นจึงจะคิดได้ว่าตัวเองไม่ได้ยิ่งใหญ่ไปมากมาย เรากลายเป็นสิ่งเล็กน้อยและอ่อนแอ

 

ครั้งที่สนุกสนาน

จนสัญญากับตัวว่าจะต้องฝึกฝนให้ดีขึ้นนั้น

คือครั้งที่ปั่นจักรยานทางไกลแบบไม่มีเกียร์ไปแม่ริม

ไล่ลำดับความอยากปั่นจักรยาน ปั่นวันสงกรานต์ในเวียงเชียงใหม่กับเพื่อน เริ่มลองใจว่าลองปั่นไกลไกลสักสามสี่สิบกิโลเมตรจะดีไหม โดยต้องออกตัวก่อนว่า ปั่นแบบไปเรื่อยเรื่อย ไม่ต้องเร่งไม่ต้องรีบ การเดินทางจึงเริ่มต้นขึ้น

หาเช่าจักรยานปั่นแถวนิมมานเหมินท์

ก่อนย้อนไปกินไอติมเชิงดอย ก่อนวกเข้าเส้นเลียบคลองชลประทาน ผ่านสนามกีฬาเจ็ดร้อยปี ผ่านทางเข้าห้วยตึงเฒ่า ไปออกอำเภอแม่ริม วกรถไปทางหน่วยทหารที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้า ย้อนออกมาพระตำหนักเจ้าดารารัศมี ก่อนตั้งต้นปั่นกลับเข้าแถวเชิงดอย

ระยะทางไม่ไกลนัก แต่ปั่นกลางแดดยามเที่ยง สองข้ามทางมีแต่คนเล่นน้ำ รถกะบะขับผ่านหน้าก็สาดน้ำไล่ร้อนให้ที ผ่านถังน้ำวงเด็กก็รดน้ำให้ชุ่มฉ่ำใจเล่น เปียกแล้วก็แห้ง พอแห้งแล้วก็เปียก

 

 

บางจังหวะลองของ ก็ปั่นแกล้งกัน

หาจังหวะไล่เบียดไล่นำ ใครอดใครอึดกว่ากัน

จนรู้ว่าผมน่องแข็งไม่เท่าเพื่อน ได้แต่ปั่นไล่กันไปเรื่อยเรื่อย เหนื่อยก็พักเหนื่อยมากก็ลงไปนอนแผ่ข้างทาง มีทั้งที่พักได้บ้าง มีร่มไม้ใหญ่บ้าง มีร้านก๋วยเตี๋ยวบ้าง มีร้านน้ำเล็ก ทุกอย่างกลายเป็นจุดแวะพักได้หมด ถ้าตะคริวกำลังเริ่มส่งเสียง

หลังจากปั่นจักรยานกับเพื่อน

เริ่มต้นปั่นจักรยานคนเดียวระยะทางไกล

ยามแอบไปอยู่เชียงใหม่ระยะเล็กเล็ก ยิ่งทำให้พบว่า เรื่องราวของชีวิตเราที่นอกเหนือจากความพยายาม วางเป้าหมายกำกับวิธีการ เรายังต้องคอยกำกับระยะหายใจของตัวเองให้ดี บ่อยครั้งที่เผลอไผลไปว่าเราเข้มแข็งพอ จนจะได้รู้ก็ต่อเมื่อเอาแรงเข้าชน เอาร่างกายไปทดสอบกับอาการหอบของจริง

ไม่ต้องพึ่งพาอะไรมาก

มีแค่ใจกับแรงเท่านั้น ที่สามารถทดสอบได้ทันที

การปั่นจักรยานทำให้เรารู้ว่า ขีดจำกัดของชีวิตเรานั้น ถูกลดทอนจากสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ถูกฉาบเคลือบให้เรามั่นใจว่า เราแข็งแกร่งพอหรือมีพลังพอ จนกระทั่งเราก้าวลงจากอาน เราจึงจะรู้ว่า ตอนนั้นขาเราสั่นเพียงใด

ผมคิดเสมอว่า ต้องเป็นเวตาลแน่นอนที่มาดลใจผม

ไม่ใช่เป็นเทวดาตัวน่ารักมีปีกสีขาวแน่นอน

ตลอดเวลาที่หลงรักจักรยาน ผมจะพบว่า วันรุ่งขึ้นของการปั่นจะเป็นวันที่ทรมานร่างกายอย่างมาก ทั้งระบมก้น ปวดน่อง ข้อมือล้า หัวไหล่เกร็ง และอีกมากมายของความอ่อนด้อย ที่ร่างกายกำลังเย้ยหยันเรา 

แต่เป็นเสียงเย้ยหยันที่น่ารับฟังยิ่ง

นับตั้งแต่หลงรักการปั่นจักรยาน เวลานั่งรถผ่านผู้คนที่ปั่นจักรยานระยะไกล เห็นถุงกระเป๋าติดหน้าหลังล้อรถ ผมมักจะโบกมือทักทาย บางครั้งก็ส่งยิ้มหวานหวาน ปรบมือให้หรือชูนิ้วโป้งให้กำลังใจ

ไม่รู้เป็นอะไร

แต่ผมเข้าใจเอาเองว่าเป็นวิธีให้กำลังใจที่ดี

เวลาที่หอบเหนื่อย ปั่นไปทางถนนที่รถราวิ่งเร็ว ยามไม่มีรถถนนรอบข้างก็จะเงียบจนน่าสงสัย เงียบจนได้ยินเสียงหายใจและเสียงหอบของตัวเอง เวลานั้นผมคิดเสมอว่าผมกำลังปั่นจักรยานอยู่ เมื่อเห็นคนปั่น ผมคิดเสมอว่าเขาควรได้รับรางวัล จากรอยยิ้มของคนผ่านทางเช่นกัน

 

ทุกวันนี้เวลาผมเห็นใครปั่นจักรยานทางไกล

ผมอยากตะโกนถามเขาเหล่านั้นดังดังว่า

ปีศาจตัวไหนสิงใจ

ให้ต้องมาเหนื่อยมาทรมานกายอย่างนี้ ครับ

 

แต่สุดท้ายจนแล้วจนรอด ก็ไม่เคยได้ตะโกนถามสักครั้ง

 

หมายเลขบันทึก: 142649เขียนเมื่อ 29 ตุลาคม 2007 06:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีครับ

  • ชอบเรื่องราวที่พูดถึงการปั่นจักรยานครับ
  • ผมก็เป็นคนหนึ่ง ที่ชอบปั่นจักรยาน
  • ด้วยแรงปรารถนาและอยากจะรื่นรมย์กับโลกในระดับความเร็วที่พอเหมาะกระมังครับ ที่ทำให้ต้องปั่นจักรยาน
  • ไว้มาแลกเปลี่ยนด้วยน่ะครับ
  • สวัสดีครับ คุณ P
  • ยินดีได้รู้จัก
  • ผู้ที่หลงรัก หลงใหล และชื่นชอบการปั่น
  • ยามที่ได้โลดแล่น ได้ถีบ ได้ปั่นจักรยานตามแรงของเราเอง
  • ได้ถามหัวใจ ถามลมหายใจ ว่ายังไหวหรือเปล่า
  • ยินดีอย่างยิ่งครับ
  • สำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
  • จะรอคอยอ่านเรื่องราวแวดล้อม ความประทับใจ เรื่องเล่า จากคนรักจักรยานเช่นกันครับ
  • ขอบคุณครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท