เมื่อสัปดาห์ที่แล้วดิฉันได้มีโอกาสเข้ารับการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร การประเมินผลและติดตามผลการฝึกอบรม (Training Evaluation and Follow-up) ณ โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ กรุงเทพฯ ซึ่งจัดโดยสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) โดยมี ผศ.ขจรศักดิ์ หาญณรงค์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรม อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอบีบี จำกัด เป็นวิทยากรผู้ให้ความรู้
เนื้อหาของการอบรมเป็นลักษณะการให้ความรู้โดยการบรรยายและจากการฝึกปฏิบัติ ผ่าน case study และworkshop หลัก ๆ ดังนี้
case study : ปัญหาในการติดตามผลการอบรม
workshop 1 : การกำหนดเกณฑ์/ตัวชี้วัดความสำเร็จของหลักสูตรฝึกอบรมและบทบาทผู้บังคับบัญชา
workshop 2 : การวางแผนการประเมินผลและติดตามผล
workshop 3 : การประเมินคุณภาพของแบบประเมิน/แบบทดสอบ
workshop 4 : การเลือกวิธีการติดตามผล
workshop 5 : การคำนวณค่าใช้จ่าย และประเมินผลตอบแทนจากการฝึกอบรมในเชิงความคุ้มค่า
ก่อนที่จะเล่ารายละเอียดของสิ่งที่ได้ไปเรียนรู้มา ในบันทึกนี้ ขอ AAR ในการเข้ารับการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร การประเมินผลและติดตามผลการฝึกอบรม นี้ก่อนนะคะ
• ความมุ่งหมาย/วัตถุประสงค์ ในการเข้ารับการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้
ดิฉันได้รับมอบหมายให้กลับมารับผิดชอบงานด้านการจัดฝึกอบรมให้กับบุคลากรของคณะวิทยาศาสตร์ อย่างเต็มตัว มาเป็นเวลาเกือบปีเต็ม สิ่งหนึ่งที่ดิฉันตระหนักอยู่เสมอคือ หน้าที่ของผู้ที่ทำหน้าที่ฝึกอบรมอย่างดิฉัน ไม่ได้จบเพียงแค่การพัฒนาบุคลากรให้บรรลุตามแผนที่วางไว้ และส่งมอบบุคลากรที่ได้รับการพัฒนาแล้วคืนกลับสู่องค์กรเท่านั้น
แต่การที่จะทำให้เราเป็นนักฝึกอบรมมืออาชีพได้นั้น เราควรจะทำให้ผู้บริหาร เชื่อมั่นและเห็นคุณค่าของการฝึกอบรม ซึ่งเราควรจะประเมินผลและวัดค่าของการฝึกอบรมให้กับองค์กรได้ ทำให้ผู้บริหารเห็นว่า การฝึกอบรมไม่ใช่การลงทุนที่สิ้นเปลือง แต่เป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการทำให้องค์กรบรรลุตามเป้าหมายและพันธกิจขององค์กรได้
นั่นหมายความว่าเราจะต้องมีระบบการประเมินผลและติดตามผลการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น นี่คือความมุ่งหมาย/วัตถุประสงค์หลักในการเข้ารับการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการของดิฉันในครั้งนี้
ส่วนวัตถุประสงค์รอง นั่นคือ ดิฉันจะนำความรู้ที่ได้มากำหนดแนวทางในการประเมินผลและติดตามผลการฝึกอบรม ในหลักสูตรที่ได้มีการดำเนินการไปแล้วในรอบปีที่ผ่านมา
• บรรลุผลเกินความคาดหมาย เพราะเหตุใด
ตลอดเวลา 2 วัน ของการเข้ารับการฝึกอบรมฯ นี้ เป็นประโยชน์มาก ถึงแม้ว่าในการทำ workshop แต่ละครั้งจะเครียด แต่จากการที่ได้เข้ากลุ่มกับผู้เข้าอบรมที่มาจากหลากหลายหน่วยงาน ทำให้ได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์มาก และด้วยจำนวนผู้เข้าอบรมที่ไม่มากนัก ทำให้ได้มีโอกาสทำความรู้จัก และร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในงานที่รับผิดชอบ ซึ่งเป็นประโยชน์มากในการสร้างเครือข่ายผู้ที่รับผิดชอบงานด้านฝึกอบรมเหมือนกัน
• บรรลุผลน้อยเพราะเหตุใด
จากการที่ได้มีโอกาสเข้ารับการฝึกอบรมฯ นี้ ทำให้ดิฉัน ได้รับทราบข้อมูลว่า ในการส่วนวัตถุประสงค์รอง ที่ระบุไว้ว่า ดิฉันจะนำความรู้ที่ได้มากำหนดแนวทางในการประเมินผลและติดตามผลการฝึกอบรม ในหลักสูตรที่ได้มีการดำเนินการไปแล้วในรอบปีที่ผ่านมานั้น
ดิฉันคิดผิดถนัดค่ะ เพราะในการติดตามและประเมินผล ถ้าจะให้บรรลุผลนั้น ควรดำเนินการติดตามหลังการอบรมแล้วเสร็จ ไม่ควรเกิน 3 เดือน หรือสูงสุดไม่ควรเกิน 6 เดือน โดยเฉพาะหลักสูตรที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ควรติดตามหลังการอบรมแล้วเสร็จไม่ควรเกิน 1 เดือน เพราะทุกอย่างที่ได้รับการพัฒนามา เมื่อเข้าสู่สภาพแวดล้อมเดิม ๆ วัฒนธรรมเดิม ๆ ทุกอย่างก็จะกลับสู่สภาวะปกติ
นอกจากนี้ในการประเมินผลและติดตามผลการฝึกอบรม ถ้าจะให้เห็นผลสัมฤทธิ์จริง ๆ จะต้องสามารถวัดให้เห็นผลในเชิงของความคุ้มค่าของการลงทุนที่วัดได้เป็นตัวเงิน ซึ่งถือว่าเป็นระดับของการประเมินสูงสุด (ระดับ 5) แต่สำหรับการประเมินในระดับนี้ จะเหมาะกับองค์กรหรือหน่วยงานที่เป็นลักษณะของธุรกิจมากกว่าหน่วยงานที่เป็นส่วนราชการ ดังนั้น สิ่งที่จะนำมาปรับใช้กับหน่วยงานราชการได้ คือการประเมินในระดับ 1-4 (รายละเอียดของรูปแบบการประเมินในแต่ละระดับจะนำเสนอในบันทึกต่อๆ ไปค่ะ)
• ทำอะไรต่อ
นำสิ่งที่ได้รับจากการเข้ารับการฝึกอบรมในครั้งนี้ ถ่ายทอดให้รองคณบดีฯ ที่รับผิดชอบ และร่วมกันกำหนดรูปแบบการประเมินผลและติดตามผลการฝึกอบรม ที่เหมาะสม เพื่อใช้ประเมินผลความคุ้มค่าในการออกแบบหลักสูตรการพัฒนาบุคลากรในปีงบประมาณ 2551 และเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงหลักสูตรพัฒนาบุคลากรในปีงบประมาณต่อ ๆไป
• อะไรคือสิ่งที่เราเรียนรู้ครั้งนี้
1. เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาบุคลากรนั้น หลายฝ่ายต้องร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เข้ารับการพัฒนา เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ผู้บังคับบัญชาตามสายงาน ตลอดจนผู้บริหารระดับสูง
2. ในการออกแบบหลักสูตรพัฒนาบุคลากร เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด หน่วยงานผู้รับผิดชอบ ควรกำหนดตัวชี้วัด เป้าหมาย ตลอดจนรูปแบบของการประเมินและติดตามผลการฝึกอบรม ไว้ล่วงหน้า
3.สำหรับผู้ที่เริ่มเข้ามารับผิดชอบงานด้านพัฒนาบุคลากร ถ้าจะให้สามารถเข้าใจ concetp ของการพัฒนาบุคลากรให้ได้ครอบคลุม ควรจะหาโอกาสเข้ารับการอบรมครบทั้ง 3 หลักสูตร นั่นคือ หลักสูตรกลยุทธ์การวางแผนฝึกอบรมและการวิเคราะห์หาความจำเป็นเพื่อการพัฒนาบุคลากร, หลักสูตรการออกแบบและพัฒนาหลักสูตร และหลักสูตรสุดท้าย หลักสูตรการประเมินผลและติดตามผลการฝึกอบรม
เนื่องจากเนื้อหาที่ได้ในการอบรมหลักสูตรนี้นั้น จะมีหลายส่วนที่น่าสนใจและมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ จะนำทยอยแจ้งในบันทึกต่อ ๆ ไปค่ะ