นับถึงวันนี้ก็ประมาณเกือบสองสัปดาห์แล้วที่อากาศยามเช้าเริ่มเปลี่ยนแปลง ลมโชยมากระทบตัว จนรู้สึกได้ถึงความเย็น สิ่งที่มาพร้อมกับลมหนาวนอกจากนำมาซึ่งความสดชื่น เย็นสบาย และสัญญาณแห่งฤดูกาลแล้ว อีกส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงในร่างกายมนุษย์ คือความไม่สมดุล หรือไม่ปกติ เช่น อุณหภูมิในร่างกายแทนที่ปกติจะเป็น 37 องศา ก็จะสูงกว่าที่ควรจะเป็น นั่นก็คือ อาการไข้ ระบบหายใจที่เคยสูดออกซิเจนเข้าออกสะดวก ก็ติดขัดไม่คล่องเท่าที่ควร เสียงจาม ไอ ในระยะถี่ เกิดขึ้นได้เสมอ สำหรับคนในบ้านดิฉัน คนแรกไม่ใช่ใครอื่น “น้องเอม” เจ้าตัวเล็ก (ตัวเล็กใจไม่เล็ก) วัย 6 ปี แสดงอาการก่อนเพื่อน กลางวันแค่จาม ไอ ตกกลางคืนมีไข้แถมมา ชนิดที่แม่นอนข้าง ๆ เอาตัวไปแตะต้องสะดุ้ง ที่ว่าตัวร้อนยังกะไฟนะ ดิฉันว่าไม่เกินจริงเลย ต้องลุกขึ้นเช็ดตัวกันบ่อย ๆ เด็กเล็กมักมีไข้สูงเวลากลางคืน สาเหตุไม่ทราบได้ แต่จากสถิติเป็นอย่างนี้เสมอ ขณะที่กลางวันเล่นได้สบายมาก หากแม่เผลอหลับใหลไม่รู้เรื่อง ลูกอาจชักได้ ดิฉันเรียนรู้เรื่องนี้มาเมื่อน้องเอมยังเล็ก ๆ “อดตาหลับขับตานอน” เป็นอย่างไร ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ซึ้งคำนี้พอควร ผ่านไปอีกสองสามวัน “น้องอาย” ลูกสาวคนโตก็แสดงอาการตามมาติด ๆ พี่น้อง กิน เล่น นอน ด้วยกันไม่แปลกใจที่จะรับเชื้อมาจากน้องมาแบบไม่ยากเย็น เหลือดิฉันอีกคนคิดว่าจะรอด แฮะ แฮะ ไม่มีข้อยกเว้นค่ะ รับมาเรียบร้อย เช้าวานนี้นั่งรถกลับจากระยอง รู้สึกเจ็บคอ มึนศรีษะ เห็นท่าไม่ค่อยดีรีบกินยา นอนพัก ไม่งั้นแม่ล้มไปอีกคน ลูกสองคนจะแย่เอา
สาย ๆ พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลสุรินทร์ เมื่อขึ้นไปถึงห้องตรวจกุมารแพทย์ แทบเป็นลม คนหนาแน่นมากอุ้มลูกจูงหลานมาจนไม่ที่จะยืน สอบถามก็มีอาการคล้าย ๆ กัน เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจทั้งนั้น ยาที่ได้รับก็ไม่พ้น แก้อักเสบหรือฆ่าเชื้อ ลดน้ำมูก แก้ไข้ และคำแนะนำ ดื่มน้ำอุ่นบ่อย ๆ ความจริงคนเป็นแม่ก็พอจะเดาออกว่าไปพบแพทย์แล้วจะได้ยาอะไรมาบ้าง แต่ทำไงได้ในเมื่อเป็นภาวะจำยอมที่ต้องรักษากันไปแต่ละที ทั้งทีพยายามป้องกันแล้ว คุณหมอที่เคยรู้จักกันเคยบอกว่าเด็ก ๆ จะเป็นหวัดบ่อย ๆ ยิ่งไปโรงเรียนช่วงอนุบาล เด็กจะรับเชื้อจากเพื่อน ๆ จนครบ จะเห็นว่าเด็กอนุบาลจะป่วยบ่อย (สังเกตจากลูกตนเอง) จนมีภูมิคุ้มกันแล้วก็จะค่อย ๆ จางหายไปเอง เมื่อถึงตอนนั้นเด็กจะมีอายุประมาณ 6-7 ปี ดิฉันสังเกตจากน้องอาย ก็เห็นจะเป็นจริงดังที่คุณหมอว่าไว้ น้องเอมคนเล็กนี่จะคอยดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป บทบาทคนเป็นแม่นั้นต้องเป็นคนเก็บรายละเอียดการเลี้ยงดู พฤติกรรม พัฒนาการของลูกไว้ ก็จะเป็นประโยชน์ ที่สำคัญไม่ว่ายามที่ลูกสบาย หรือ เจ็บป่วย ดิฉันได้เรียนรู้ ภาวะจิต ของคำว่าแม่ได้เสมอสวัสดีค่ะครูอ๊อด
เมื่อวานเข้ามาอ่านรอบแล้ว.....
วันนี้มาอ่านอีก.......ก็อดห่วงไม่ได้ค่ะ....เรื่องสุขภาพ.......คงจะเกี่ยวกับอากาศด้วยนั่นแหละ.........
ดูแลหลานสาวและหลานชายครูหญ้าบัวดีๆนะค่ะ........เข้าใจความห่วงใยของแม่ค่ะ....
สวัสดีครับครูอ๊อด
อากาศเปลี่ยนแปลงจากลมหนาวมาพร้อมกับเชื่อหวัด แม่ลูกผูกพัน ช่วยกันรักษาสุขภาพด้วยนะครับ